พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการเชื่อมสวนสาธารณะ “เบญจกิตติ” กับสวนสาธารณะอื่น ๆ ในกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 1/2564 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ณ ห้อง PMOC ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการดำเนินการสวนสาธารณะ “เบญจกิติ” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยสวนแห่งนี้ จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ เป็นสวนสาธารณะใหม่ที่คนไทยภาคภูมิใจร่วมกัน เป็นปรากฏการณ์ของเมืองไทยใหม่ ที่จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ของคนไทยและคนต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว และเป็นสวนสาธารณะที่ช่วยแก้ไขปัญหา PM2.5 ได้ด้วย โดยนายกรัฐมนตรีได้เสนอแนวคิด เน้นให้มีการสร้างสีสันให้กรุงเทพมหานครด้วยดอกไม้ตามฤดูกาล ภายในสวนต้องเป็นแหล่งของการเรียนรู้ มีพื้นที่สำหรับเล่นกีฬา ออกกำลังกาย เป็นสถานที่เล่นดนตรีในสวน มีพื้นที่ให้กับสมาชิกครอบครัวได้ทำกิจกรรมร่วมกัน สามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาออกกำลังกายในพื้นที่ที่ควบคุมได้ รวมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ประชาชนทุกคนและกลุ่มเปราะบางสามารถเข้าถึงได้ รวมทั้งให้คำนึงถึงความปลอดภัยและความสะอาดเป็นสำคัญด้วย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติรับทราบการดำเนินโครงการสวนสาธารณะเบญจกิติ ที่เป็นการดำเนินการภายใต้มติคณะรัฐมนตรีเมื่อปี 2534 ในพื้นที่เดิมของโรงงานยาสูบ เนื้อที่ประมาณ 450 ไร่ โดยในปี 2547 ได้จัดสร้างสวนน้ำเนื้อที่ 130 ไร่เสร็จแล้ว และในปี 2559 ได้ดำเนินการจัดสร้างสวนป่า ระยะที่ 1 เนื้อที่ 61 ไร่เสร็จแล้วเช่นกัน และได้ส่งมอบพื้นที่ดังกล่าวให้กรุงเทพมหานคร เป็นผู้ดูแลบำรุงรักษาและบริหารจัดการแล้ว สำหรับการจัดสร้างสวนป่าเบญจกิติ ระยะที่ 2-3 เนื้อที่ 259 ไร่ ในปี 2563 กรมธนารักษ์ได้ขอความร่วมมือจากกองทัพบก เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง เพื่อให้การก่อสร้างแล้วเสร็จตามแผนที่กำหนดและสามารถจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ในวันที่ 12 สิงหาคม 2564 นี้ได้ทันตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด โดยแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 2 พื้นที่ ขณะนี้อยู่ระหว่างกองทัพบกดำเนินการก่อสร้างโดยมีความคืบหน้าการก่อสร้าง พื้นที่ก่อสร้างที่ 1 ร้อยละ 70.18 พื้นที่ก่อสร้างที่ 2 ร้อยละ 15.40
นายอนุชา กล่าวว่า ที่ประชุมยังรับทราบการดำเนินการเชื่อมสวนสาธารณะเบญจกิติ กับสวนลุมพินี ตามที่กรมธนารักษ์ และกรุงเทพมหานคร ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการฯ กรุงเทพมหานครได้ดำเนินโครงการงานปรับปรุงภูมิทัศน์ทางคนเดิน-ทางจักรยาน (สะพานเขียว) และการปรับปรุงสวนลุมพินี ในวาระครบรอบ 100 ปี โดยร่วมมือกับภาคเอกชนในการออกแบบการวิเคราะห์ข้อมูล และการสร้างการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่โครงการ ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าสามารถปรับปรุงเพิ่มเติมรูปแบบให้สะพานเขียวดังกล่าวเชื่อมต่อระหว่างสวนสาธารณะเบญจกิติ กับสวนลุมพินีได้อย่างเป็นรูปธรรม