รัฐบาลลุยลดจุดความร้อน ต้นเหตุพีเอ็ม2.5 สี่เดือนแรกลดร้อยละ 53

กรุงเทพฯ 24 พ.ค.- รองโฆษกรัฐบาลเผย รัฐบาลลุยแก้ปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ลดจุดความร้อนทั่วประเทศ ตั้งแต่ ม.ค.-เม.ย. ลดลง ร้อยละ 53

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้เร่งดำเนินการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 โดยแนวทางสำคัญอันหนึ่งคือการลดจุดความร้อน (Hot Spot) ลดการเผาในที่โลงแจ้ง ซึ่งสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (Gistda) รายงานว่า เปรียบเทียบระหว่างช่วงเดือนม.ค.- เม.ย. ปีนี้ กับปีที่ผ่านมา ทุกพื้นที่ของประเทศมีจุดความร้อนลดลง ร้อยละ 53 เป็นผลจากการทำงานอย่างบูรณาการระหว่างกระทรวง และความร่วมมือจากประชาชน

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการส่งเสริมการสร้างเครือข่ายเกษตรกรปลอดการเผา รวม 280 เครือข่าย มีการดำเนินการหลากหลายแนวทางในการจัดการเศษวัสดุตามความเหมาะสมและบริบทของชุมชน ช่วยลดต้นทุนการผลิตและสามารถสร้างรายได้เพิ่มจากการจัดการเศษวัสดุ เช่น การไถกลบตอซังฟางข้าว หรือเศษซากพืช เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน นำมาทำเป็นปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยหมักทดแทนปุ๋ยเคมี นำเปลือกซังข้าวโพดหรือฟางมาทำวัสดุเพาะปลูก เป็นอาหารสัตว์ หรือพลังงานทดแทน สำหรับในพื้นที่เกษตร มีจุดความร้อนสะสมลดลง ร้อยละ 47

น.ส.รัชดา กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ออกมาตรการแก้ปัญหาการเผาอ้อยส่งโรงงาน หรือที่เรียกว่าอ้อยไฟไหม้ โดยออกโครงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดคุณภาพดีส่งโรงงาน อัตรา 120 บาทต่อตัน เป้าหมายอ้อยสดสัดส่วน 80% ของปริมาณอ้อย คาดการณ์ประมาณ 70 ล้านตัน หรือเป็นอ้อยสด 56 ล้านตัน และมีมาตรการอื่น ๆ เช่น หักเงินชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยไฟไหม้ตันละ 30 บาท กำหนดโทษปรับโรงงานที่รับอ้อยไฟไหม้เกินเกณฑ์ที่กำหนด จัดหาเครื่องสางใบอ้อยให้เกษตรกรยืม เพื่ออำนวยสะดวกในการตัดอ้อยสด ส่งเสริมการรับซื้อใบอ้อย เพื่อเพิ่มรายได้และลดการเผาใบอ้อยหลังตัด และ สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยกู้ยืมเพื่อซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร เป็นต้น

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินโครงการชิงเก็บลดเผา ในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด ให้ชาวบ้านรวมตัวกันเพื่อเก็บเชื้อเพลิง ใบไม้ ใบหญ้าในป่า เพื่อไปแปรสภาพให้เกิดมูลค่า เช่น ปุ๋ย เชื้อเพลิงขยะ และมีเอกชนมารับซื้อ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา สามารถทำได้เกินเป้า จากที่ตั้งเป้าเก็บเชื้อเพลิงจากพื้นที่ป่า เฉลี่ยจังหวัดละ 100 ตัน ปริมาณรวมเท่ากับ 1,700 ตัน ซึ่งทำได้จริง 2,250 ตัน มากไปกว่านั้น ยังได้ดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองจากไฟป่า ครอบคลุมการประชาสัมพันธ์เชิงรุก จัดฝึกอบรมเสริมบทบาทชุมชน เครือข่ายภาคประชาชนและจิตอาสาเพื่อร่วมเป็นชุดปฏิบัติการระดับหมู่บ้านในการลาดตระเวน เฝ้าระวัง และดับไฟป่า

น.ส.รัชดา กล่าวว่า แม้จำนวนจุดความร้อนจะลดลง ประกอบกับเข้าฤดูฝนทำให้ช่วยคลายกังวลเรื่องไฟป่าได้บ้าง แต่การดำเนินการในเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้มุ่งมั่นกันต่อไปอย่างต่อเนื่อง และได้ขอบคุณทุกหน่วยงาน ทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันจนเกิดความก้าวหน้าในการแก้ปัญหาอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ท้าทายควบคู่กับการจัดการภายในประเทศ คือ ปัญหาหมอกควันข้ามพรมแดน ซึ่งประเทศไทยยินดีให้ความร่วมมือและสนับสนุนในทุกด้านกับอาเซียน ที่ผ่านมาไทยถือได้ว่าเป็นผู้นำในการให้การสนับสนุนการแก้ไขปัญหาไฟป่าแก่ประเทศเพื่อนบ้านด้วย

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ศุภชัย" ซีอีโอ เครือซีพี นำทัพซีพีอาสาช่วยชาวใต้ฝ่าวิฤตน้ำท่วม ส่ง 2,000 ถุงกำลังใจ–ไข่ 3 แสนฟอง พร้อมหน่วยเคลื่อนที่เร็วลงพื้นที่ 10 จังหวัด
MEA เตือนภัย มิจฉาชีพสร้าง LINE ปลอม "Mea Smart Life" ผู้ติดตามกว่า 3 แสน หวังล้วงข้อมูล-หลอกโอนเงิน ย้ำ! ของจริงต้อง "MEA Connect" โล่เขียว และมีผู้ติดตามกว่า 2.4 ล้านราย เท่านั้น
ฝ่ายความมั่นคง อ.นิคมคำสร้อย บุกจับพระเสพสิ่งเสพติด หลังจากมีชาวบ้านได้ร้องเรียนว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เจ้าคณะตำบลนิคมคำสร้อยได้ทำการสึกเรียบร้อย
อาชีวะลุยไม่หยุด! เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว – ส่งเรือ พร้อมระดมทรัพยากร – กำลังอาชีวะจิตอาสา ช่วยประชาชนเต็มกำลัง
รองนายกฯ สุชาติ สั่งตั้ง "War Room ทส." รับมือวิกฤตน้ำท่วมหาดใหญ่–สุราษฎร์ ระดมกำลัง–เฮลิคอปเตอร์ช่วยประชาชน 24 ชม. ตามคำสั่งนายกฯ
“รมว.สธ.” เร่งแผนอพยพผู้ป่วยวิกฤต รพ.หาดใหญ่ จัดส่งเฮลิคอปเตอร์ 4 ลำ เคลื่อนย้ายเข้าพื้นที่รพ.ปลอดภัย

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​