วันที่ 23 พ.ค.64 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เขียนข้อความทางเฟซบุ๊ก แสดงความเห็น เหตุการณ์ครบรอบ 7 ปี การเข้ายึดอำนาจ โดยนายเสกสกลระบุว่าแม้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะมาด้วยการสนับสนุนจากประชาชนอย่างท่วมท้นแต่เป็นเพราะนโยบายประชานิยมมิใช่หรือ ที่พรรคเพื่อไทยใช้เป็นนโยบายช่วงเวลาหาเสียงเลือกตั้ง แต่พอได้เป็นรัฐบาลก็ไม่ได้ทำตามสัญญาเหมือนดังตอนหาเสียงเอาไว้ ยกตัวอย่างเช่น นโยบายโครงการรับจำนำข้าวที่จะทำให้ชาวนาหมดหนี้หมดสินลืมตาอ้าปากได้ ตรงกันข้ามพอเป็นรัฐบาลชาวนากลับถูกเอารัดเอาเปรียบถูกโกงจนฆ่าตัวตาย แสดงว่าออกนโยบายมาเพื่อให้คนมาลงคะแนนให้พรรคเพื่อไทย แต้กล้าหลอกลวงชาวนา เพียงเพื่อเอานโยบายมาใช้เพื่อตนเองและพวกพ้อง เรื่องเช่นนี้ทำไมไม่เอามาพูดมาเล่าให้ประชาชนฟังบ้าง และนายภูมิธรรมต้องไม่ลืมว่าการทำรัฐประหารที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากนางสาวยิ่งลักษณ์อยากให้มี พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย เพื่อช่วยเหลือนายทักษิณ ชินวัตร พี่ชายตนเอง ที่เป็นผู้หลบหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศให้พ้นผิดและกลับประเทศไทย จนทำให้ประชาชนไม่พอใจและออกมาเคลื่อนไหวประท้วงการขับไล่จำนวนมากมายมหาศาล จนเกิดมวลชนสองฝ่ายขัดแย้งกันอย่างรุนแรงกำลังจะก่อเหตุการณ์ ทะเลาะกันรบราฆ่าฟันกันอาจเกิดแผ่นดินนองเลือดบ้านเมืองลุกเป็นไฟ อีกทั้งบ้านเมืองแตกแยกกันอย่างรุนแรงมากๆขึ้นทุกขณะ และรัฐบาลก็ปล่อยให้มีการทุจริตแสวงหาผลประโยชน์ในโครงการอภิมหาโปรเจ็คต่างๆกันอย่างมโหฬารมากมายหลายโครงการ รวมถึงรัฐบาลใช้อำนาจทางรัฐสภาเสียงข้างมากลากไปจนถูกขนานนามว่าเป็น รัฐบาลเผด็จการรัฐสภาออกกฎหมายต่างๆเพื่อเอื้อประโยชน์คนตระกูลเดียว ทำไมสิ่งเหล่านี้นายภูมิธรรมไม่เอามาพูดบ้างหรือว่าความจำเสื่อมไปแล้ว
ทั้งนี้ตนเองยังมองว่าหากนางสาวยิ่งลักษณ์ในขณะที่เป็นรัฐบาล เป็นนายกฯ ทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน ทำให้ประเทศเดินหน้าไปได้ ไม่คิดถึงแต่ประโยชน์ส่วนตัว ประโยชน์ครอบครัว และพวกพ้อง ก็จะไม่มีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นเช่นนี้
ขณะที่การเข้ามาบริหารประเทศของ นายกฯ ประยุทธ์ หากนายภูมิธรรมและฝ่ายค้านเปิดใจที่จะรับฟัง ก็จะรู้ว่ามีผลงานอะไรบ้าง ซึ่งที่ผ่านมานายกฯได้ทำทุกอย่างในการแก้ไขปัญหาให้กับบ้านเมืองและประชาชน การพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ รวมถึงการทำทุกอย่างในการสร้างความปรองดองของคนในชาติให้เกิดขึ้น แต่หากมองว่านายกฯไม่สามารถทำได้นั้น ตนเองก็มองว่าน่าจะเป็นเพราะนายภูมิธรรม หรือพรรคฝ่ายค้าน กลุ่มที่ต่อต้านนายกฯ ที่ออกมาเคลื่อนไหวสร้างความเดือดร้อนให้กับบ้านเมือง ออกมากล่าวหาโจมตีนายกฯ พูดในเรื่องที่ไม่มีข้อเท็จจริงให้ประชาชนเข้าใจผิด
นายเสกสกล ระบุว่านายกฯพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกฝ่าย และพร้อมที่จะร่วมมือกันให้ประเทศเดินหน้าไปได้ ซึ่งหากนายภูมิธรรมอยากเห็นบ้านเมืองเดินหน้าจะต้องให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการทำงานเพื่อบ้านเมือง ยิ่งช่วงประเทศต้องการความร่วมมือในการแก้วิกฤตโควิด ยิ่งต้องมาร่วมมือกัน ไม่ใช่จะจมปรักอยู่กับเรื่องในอดีต จมปรักอยู่กับแต่คนในตระกูลชินวัตรอยู่ตลอดเวลาทั้งที่คนเหล่านั้นไม่ได้ทำอะไรเพื่อประชาชนและบ้านเมืองเลย นายภูมิธรรมต้องปรับความคิดใหม่ ต้องเปลี่ยนทัศนคติ โดยยึดโยงประเทศชาติและประชาชนเป็นหลักได้แล้ว อย่ายึดเพียงแต่ตอบแทนบุญคุณคนตระกูลเดียวที่ให้นายภูมิธรรมได้มีโอกาสเป็นรัฐมนตรีช่วยฯเพียงครั้งหนึ่งในชีวิตอย่างหน้ามืดตัวมัว โดยยอมเสียจุดยืนอุดมการณ์ตัวเอง นายภูมิธรรมจะยอมเช่นนั้นใช่ไหม ตนอยากถาม”
