นางคริสตัลลินา จอร์จีวา กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ กล่าวกับการประชุมสุดยอดด้านสุขภาพที่จัดโดยคณะกรรมาธิการยุโรปและกลุ่มประเทศเศรษฐกิจสำคัญ 20 ประเทศว่าเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลในการที่บรรดาประเทศที่ร่ำรวยจะเพิ่มเงินบริจาคเพื่อการยุติการระบาดได้เร็วขึ้น
ข้อเสนอซึ่งร่างโดยกลุ่มนักเศรษฐศาสตร์ของ IMF จะแบ่งการดำเนินการตามแผนที่ใช้งบประมาณ 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท เป็น 35,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จะมาจากเงินช่วยเหลือจากผู้บริจาคในภาคเอกชนจากประเทศที่ร่ำรวย และอีก 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จะมาจากรัฐบาลของประเทศที่ร่ำรวยโดยใช้เงินลงทุนต่ำและไม่มีดอกเบี้ย
IMF กล่าวว่า วิกฤตการณ์การระบาดของโควิด 19 ครั้งนี้นับถึงปัจจุบัน ได้คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกไปแล้วมากกว่า 3.5 ล้านคน และการคาดการณ์ดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มด้านสุขภาพที่ไม่เท่าเทียมกันอย่างมาก ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสี่ยงที่รุนแรงสำหรับโลก ซึ่งหากไม่มีการดำเนินการที่เร่งด่วนเหล่าประเทศที่ด้อยพัฒนาและกำลังพัฒนาอาจจะต้องรอไปจนถึงสิ้นปี 2565 กว่าที่การแพร่ระบาดจะควบคุมได้
เจ้าหน้าที่ IMF กล่าวว่าจะมีการอัดฉีดเงินจำนวน 9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐเข้าสู่เศรษฐกิจโลกภายในปี 2568 เพื่อเป็นการช่วยให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาสู่ปกติเร็วขึ้น และเหล่าประเทศที่ร่ำรวยก็จะได้รับประโยชน์มากที่สุด