สุดตระการตา !! “กรมเจ้าท่า” ถมทรายคืนชีพธรรมชาติชายหาดจอมเทียน
เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ได้เดินทางมาชื่นชมความสวยงามของหาดทรายขาว ที่ทอดยาวนับร้อยเมตร บริเวณชายหาดนาจอมเทียน ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และรอยต่อชายหาดจอมเทียนพัทยา ในโครงการเสริมทรายป้องกันการกัดเซาะ ของหน่วยงานกรมเจ้าท่า ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ ที่คืนชีพธรรมชาติหาดทรายขาว ให้กลับคืนสู่ชายหาดแห่งนี้อีกครั้ง เชื่อว่า จะดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในภาคตะวันออก ช่วงเทศกาลปีใหม่ ได้อย่างแน่นอน
สำหรับ โครงการดังกล่าว กรมเจ้าท่า ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างเสริมทรายป้องกันการกัดเซาะชายหาดจอมเทียน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ระยะ (เฟส) ที่ 1 มีความยาว 3,575 เมตร งบประมาณ 586,047,000 บาท โดยเริ่มเสริมทรายชายหาด ตั้งแต่โรงแรมจอมเทียนชาเล่ต์ จนถึงโรงแรมยู จอมเทียน พัทยา ซึ่งแหล่งทรายที่นำมาใช้ถมเสริม นำมาจากทิศตะวันตกของเกาะรางเกวียน ห่างจากชายหาดจอมเทียน ออกไปทางทะเลประมาณ 15 กม. โครงการนี้มี บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินโครงการ เริ่มสัญญาตั้งแต่ พ.ค.63-พ.ย.65 ใช้ระยะเวลา 900 วัน
โครงการนี้ เกิดขึ้นเนื่องจากสภาพพื้นที่ชายหาดจอมเทียน ประสบปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้พื้นที่ชายหาดถดถอย และลดขนาดลงไปทุกปี ไม่เพียงพอต่อความต้องการรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่ภาคพิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. ได้ประสานขอให้กรมเจ้าท่า ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน อีกทั้ง การรายงานจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ปี 2552 ได้ศึกษาและจัดทำแผนแม่บทการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งพื้นที่อ่าวไทยตะวันออก และจัดให้พื้นที่ชายหาดจอมเทียน เป็นพื้นที่กัดเซาะรุนแรง ต้องได้รับการแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วน ในปี 2557
อย่างไรก็ตาม เมื่อโครงการแล้วเสร็จ จะช่วยบูรณะฟื้นฟูชายหาดจอมเทียนให้กลับมาสวยงาม และเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง จะมีส่วนช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยวชายหาดจอมเทียน สร้างรายได้สู่ชุมชนและประเทศ ให้สอดรับกับนโยบายภาครัฐในการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการท่องเที่ยว และการสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพ ตลอดจน ป้องกันการกัดเซาะไม่ให้เข้ามาถึงชายฝั่งที่ดินของประชาชนในพื้นที่มากขึ้นอีกด้วย
ณัฐภูมินทร์ -พัชรพล ปานรักษ์ TOPNEWS อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี