นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ให้สัมภาษณ์ท็อปนิวส์ ถึงการแก้ปัญหาประเทศไทยโดนแบนตามคำสั่งขององค์กรต่อต้านสารกระตุ้นโลก (WADA) ว่า คณะกรรมการกฤษฎีกา ได้พิจารณาร่างพ.ร.บ.ควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ. 2555 เสร็จแล้ว และเตรียมนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี คาดว่าจะสามารถนำเข้าได้วันที่ 28 ธันวาคมนี้ จากนั้น ครม.จะพิจารณาว่าจะออกกฎหมายในรูปแบบไหน ออกเป็นพระราชบัญญัติ หรือพระราชกำหนด ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคณะรัฐมนตรี
ผู้ว่าฯ กกท. กล่าวว่า ตอนนี้กฤษฎีกายกร่างกฎหมายเรียบร้อยแล้ว พิจารณาให้สอดคล้องกับกฎของ WADA แล้ว ประเด็นหลักคือในบทกฎหมายของเรามีหลายข้อที่ไม่สอดคล้องกับกฎของ WADA เช่นนิยามต่าง ๆ ที่กำหนดไว้ในกฎหมาย เรื่องกระบวนการอุทธรณ์ ลดขั้นตอนต่าง ๆ เรื่องบทกำหนดโทษ และปลีกย่อย เรื่องการเข้าไปตรวจได้ 24 ชั่วโมง แต่กฎหมายของเราไปกำหนดไว้ว่าให้ตรวจได้ระหว่างพระอาทิตย์ขึ้น จนพระอาทิตย์ตก อย่างนี้เป็นต้น ในประเด็นเรื่องความเป็นอิสระ เราก็เข้าไปแก้ให้มีความชัดเจนขึ้นว่าองค์กรสำนักงานสารต้องห้ามของเรา มีอิสระในเรื่องการบริหารจัดการ
ต่อข้อถามว่ายังมีเรื่องอื่นต้องดำเนินการอีกหรือไม่นอกจากการแก้กฎหมาย นายก้องศักด กล่าวว่า เราต้องแก้กฎหมายให้สอดคล้องกับกฎบัตรของ WADA แล้ว เราก็ต้องไปดูบทกำหนดโทษต่าง ๆ ว่า เมื่อแก้แล้วบางอย่างไม่ได้หลุดพ้นจากโทษทันที สิ่งที่ยังไม่หลุด คือเรื่องการใช้ธงชาติขึ้นสู่เสาในการแข่งขัน ก็ต้องไปอุทธรณ์กับ WADA อีกทีว่าเมื่อเราแก้กฎหมายเรียบร้อยแล้ว ขอให้เขาผ่อนโทษให้ทันที ไม่ต้องไปรอการแข่งขันครั้งหน้า เพราะเรื่องนี้ไม่ได้มีกรอบเวลาว่าพ้นโทษเมื่อไหร่ แต่ไปกำหนดว่า ในการแข่งขันครั้งหน้า เราก็จะบอกว่าเมื่อเราแก้ไขเสร็จแล้ว เราจะขอให้เขาผ่อนโทษ ให้กลับมาใช้การชักธงชาติขึ้นสู่เสาในกรณีที่เราชนะการแข่งขัน ในการแข่งขันระดับโลก ระดับเอเชีย ระดับทวีป ได้เลย ซึ่งเราต้องร้องขอไปที่ WADA ถ้า WADA ไม่เห็นด้วย เราก็ต้องร้องอนุญาโตตุลาการศาลกีฬาโลก เราต้องใช้สิทธิตรงนั้น
“เมื่อแก้ไขกฎหมายแล้ว สิทธิในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันนานาชาติ จะกลับมาทันที แต่ประเด็นเรื่องธง จะไม่ได้กลับมาโดยอัตโนมัติ แม้ว่าเราจะแก้กฎหมายให้สอดคล้องกับกฎของ WADA แล้ว บทลงโทษนี้ยังมีอยู่ เช่นการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ที่จะขึ้นช่วงกลางปี 2565 จะใช้ธงชาติไม่ได้ ต้องรอครั้งถัดไป แต่เราจะไม่รอแบบนั้น เมื่อเราแก้กฎหมายแล้ว เราจะร้องไปที่ WADA ว่าเราแก้เสร็จแล้วขอให้ผ่อนโทษให้เลย เพื่อให้เราใช้ธงชาติไทยได้ในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ แต่กีฬาโอลิมปิดฤถูหนาว ที่แข่งที่ประเทศจีนต้นปีหน้า เราไม่ได้ถูกลงโทษ ก็ยังใช้ธงชาติได้ตามปกติ เช่นเดียวกับซีเกมส์ เรายังใช้ธงชาติได้” นายก้องศักด กล่าว
ต่อข้อถามว่าตอนนี้ถูกโจมตีมารัฐบาล และกกท.ทำอะไรอยู่ถึงไม่ยอมแก้ปัญหา นายก้องศักด กล่าวว่า เนื่องจาก WADA มีกฎออกมาเรื่อย ๆ ต้องอัพเดทตามกฎเขา แต่พอดีประเทศไทย กฎที่ไปขัดแย้งถูกกำหนดไว้ในพระราชบัญญัติ ไม่เหมือนประเทศอื่นทั่วโลก เขาไม่มีพระราชบัญญัติ แบบเรา เขาไปแก้กฎตาม WADA ได้เลย ไม่ต้องผ่านกระบวนการออกกฎหมาย แต่ของเราตั้งแต่ปี 2515 เราไปกำหนดไว้ในพระราชบัญญัติ ขั้นตอนการแก้กฎหมายจึงใช้เวลานานกว่าปกติ แต่การแก้กฎหมายครั้งนี้ได้แก้ปัญหาตรงนี้ไว้ด้วย
