“สมศักดิ์​” ขอพูดครั้งสุดท้าย​ ปล่อยตัว​ นักโทษคดีจำนำข้าวเป็นข่าวลือ​!

"สมศักดิ์​" ขอพูดครั้งสุดท้าย​ ปล่อยตัว​ นักโทษคดีจำนำข้าวเป็นข่าวลือ​!

นายสมศักดิ์​ เทพสุทิน​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม​ เปิดเผยถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์​กรณีการลดโทษให้ผู้ต้องขังคดีจำนำข้าว​นั้น ว่า​ ตนจะขอพูดเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่​ คณะกรรมการอิสระ ที่พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้จัดตั้งขึ้นมาเพื่อตรวจสอบในกระบวนการ และการจัดชั้นนักโทษ รวมถึงให้ทำหน้าที่เสนอแนะว่าควรจะกำหนดหลักเกณฑ์อะไร อย่างไร จะมีมติออกมาซึ่งตนยังไม่ทราบกรอบระยะเวลาในการดำเนินงาน​
โดย​ พรฎ.​อภัยโทษ​ ที่ตนดำเนินการในสมัยที่เป็นรัฐมนตรีอยู่ขณะนี้มี​ 4​ ครั้ง​ ซึ่งตนไม่ได้เปลี่ยนแปลงในหลักการเดิม​ของรัฐมนตรี​คนก่อน​ กระแสข่าวที่บอกว่าแตกต่าง​ไม่มีอย่างแน่นอน​ ส่วนกรณีที่มีการพิจารณาพักโทษ​ในส่วนของคดีทุจริต​จำนำข้าว​ยังไม่มีการพิจารณา​พักโทษใด ๆ​ ตัวบุคคลยังอยู่ในเรือนจำ​ มีการปล่อยข่าวสร้างความไขว้เขว​ทำลายความน่าเชื่อถือ​ และการขอพระราชทานอภัยโทษไม่มีบัญชีแนบท้ายว่าใครจะได้เท่าไหร่​เป็นการปฎิบัติ​ในหน้าที่​ การพิจารณาการลดโทษเป็นอำนาจหน้าที่ของข้าราชการ ตั้งแต่ผบ.​เรือนจำขึ้นมาและ ในส่วนของการเมืองไม่ได้เข้าไปยุ่งและไม่มีอำนาจในเรื่องดังกล่าว​ นายสมศักดิ์ยืนยันว่าตนเองดำเนินการทุกส่วนถูกกฎหมายและย้ำว่า ขอตอบในเรื่องนี้เป็นครั้งสุดท้ายเพื่อให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการที่นายกจัดตั้งขึ้น

โดยก่อนที่จะให้สัมภาษณ์ในประเด็นดังกล่าว นายสมศักดิ์​ เทพสุทิน​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดงานประชุมเชิงปฏิบัติการแนวทางการดำเนินงานตามกระบวนกฎหมายยาเสพติด​ โดยมีหน่วยงานต่าง​ ๆ​ ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด​ ผู้ทรงคุณวุฒิศาลยุติธรรมสำนักงานอัยการสูงสุดสำนักงานตำรวจแห่งชาติกรมพระธรรมนูญและสำนักงาน​ ป.ป.ส.​ เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนและกำหนดแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการรวบรวมพยานหลักฐานการตรวจสอบทรัพย์สินและการวิเคราะห์ทรัพย์สินคดียาเสพติดเพื่อเป็นแนวปฏิบัติที่ชัดเจนใช้ในการยึดทรัพย์และตัดกระบวนการลักลอบยาเสพติด​

นายสมศักดิ์​ ระบุว่า ​ระหว่างนี้อยู่ในรอยต่อของ​การยกเลิกกฎหมาย​ 24​ ฉบับและตั้ง​ประมวลกฎหมายยาเสพติดขึ้นมาฉบับเดียว​และได้รับการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 มีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 ธันวาคม 2554 ซึ่งมีการพิจารณาอัตราโทษที่แตกต่าง โดยกฎหมายเก่าเน้นการจับกุมและปริมาณอัตราโทษแต่กฎหมายฉบับใหม่มีการดูถึงพฤติกรรมและตัดวงจรยาเสพติดและหาก เป็นบรรทัดฐานเดียวกันแล้วเป้าหมายที่รัฐบาลของพลเอกประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรีก็จะชัดเจน

และมีตัวชี้วัด​ได้ไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท​ ในปี2565​ และมีการวางกรอบไว้​ 5​ ด้าน​คือการกำหนดนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการป้องกันปราบปรามแก้ไขปัญหายาเสพติดการจัดโครงสร้างและกลไกในการบริหารจัดการปัญหา / กำหนดนโยบายตัวยาเสพติดนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และเศรษฐกิจอย่างเหมาะสม / มองปัญหาผู้เสพและผู้ติดยาเสพติดในมิติของปัญหาด้านสาธารณสุขและสุขภาพมากยิ่งขึ้นมิใช่ถือว่าเป็นปัญหาทางอาชญากรรมอย่างเดียว/วางกรอบการลงโทษผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่ได้รับสัดส่วนและความเหมาะสมกับความร้ายแรงของการกระทำความผิด /มุ่งเน้นต่อการทำลายโครงสร้างและเครือข่ายค้ายาเสพติดที่สำคัญ โดยมีการติดตามบูรณาการ​ต่อเนื่อง​ ซึ่งนอกจากการยึดทรัพย์จะต้องมีการดูเรื่องคดีมาตราการสมคบ/ฟอกเงิน/และภาษี​ เป็นตัวชี้วัดให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการซึ่งจะต้องมีการทำงานที่โปร่งใส่​ ชัดเจน​ หรือดำเนินการถึงที่สุด​ด้วย​เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกันโดยไม่เลือกปฎิบัติ​

ในส่วนของประมวลกฎหมายไม่ผูกพันกับคดีอาญาแต่สามารถยึดทรัพย์​ได้นั้นนายสมศักดิ์​ขยายความว่า การ ในกฎหมายใหม่หาก จำเลยรอดพ้นจากการพิจารณาของศาล​ในขั้นตอนสุดท้ายคดีทรัพย์ก็ยังดำเนินการได้​แตกต่างจากฎหมายฉบับเดิมที่ต้องคืนทรัพย์สิน​และยึดได้ไม่เกินปีละ​ 600​ ล้านบาท​ โดยจะให้​ ป.ป.ส.​เป็นทำงานนำหน้าในช่วง 2​ ปีเนื่องจากเป็นกฎหมายใหม่​และต้องมีการประสานงานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้บูรณาการเป็นแนวทางเดียวกัน

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สหรัฐจ่อขึ้นบัญชีดำธุรกิจฟอกเงินกัมพูชาโยงญาติฮุนมาเน็ต
ฮุนเซนวิงวอนนานาชาติหนุนกัมพูชาในศาลโลก
ฮุนเซนบอกคนไทยให้โทษกองทัพตัวเองถ้ากัมพูชาปิดด่าน
"สันติสุข" สวนแรง 6 คำขู่ "ฮุนเซน" ปลุกเขมรตอบโต้ไทย สุดท้ายทำปท.เดือดร้อน หลักฐานชี้ "พ่อลูกฮุน" ไม่ได้รักประชาชนจริง
"อนุทิน" เผยคุย "นายกฯอิ๊งค์" ไม่มีปมปรับครม. มั่นใจนั่งเก้าอี้มหาดไทยต่อ
"ฮุน มาเนต" โพสต์ส่งตัวแทนกัมพูชา ยื่นจดหมายถึงศาลโลกแล้ว ลั่นจะไม่ถอยหนี หวังฮุบ 4 พื้นที่พิพาท
เตือนภัย "มิจฉาชีพ" อ้างเป็นทนาย-ตำรวจ หลอกช่วยเหลือคืนเงินผู้เสียหายคดีออนไลน์ พบสูญเงินกว่า 10 ล้าน
"ทัพเรือ" แจงคลิป ทหารเขมรสอดแนม ฐานชำราก ยันเขตแดนไทยอยู่ห่างพื้นที่อ้างสิทธิ์ทางบก 200 เมตร
"ทหาร ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์" จับต่างด้าวเถื่อนลอบเข้าไทย จ่าย 55,000 ใช้ไทยทางผ่านไปทำงานมาเลเซีย
‘สุชาติ’ ขึ้นศาลไต่สวนมูลฟ้องคดีถูก ‘รักชนก- สหัสวัติ’ หมิ่นประมาท จ่อมอบทนายความฟ้องอีก 1 คดี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น