No data was found

กมธ.ติดตามเงินกู้แก้ปัญหาโควิด หนุนรบ.กู้เงินเพิ่ม 7 แสนล้าน

กดติดตาม TOP NEWS

กรุงเทพฯ 19 พ.ค.- โฆษก กมธ.ติดตามเงินกู้แก้ปัญหาโควิด19 หนุนรัฐบาลกู้เงินเพิ่ม 7 แสนล้านบาท แนะปรับเปลี่ยนกลไกการบริหารงบ ใช้เงินเกิดประสิทธิภาพดีขึ้น เน้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ตามเป้าหมาย

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการติดตามตรวจสอบการใช้เงินกู้จากพ.ร.ก.จำนวน 3 ฉบับ เพื่อแก้ไขและฟื้นฟูปัญหาโควิด-19 กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมออก พ.ร.ก.กู้เงิน 7 แสนล้านบาท เพื่อนำมาแก้ไขปัญหาโควิด 19 ว่า หากรัฐบาลมีความจำเป็นต้องกู้เงินก้อนนี้มาใช้ ตนก็เห็นด้วย เพราะการระบาดของโรคโควิด-19 รอบที่ 3 มีผลกระทบไม่ใช่เฉพาะเรื่องความปลอดภัยของประชาชนเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องของผลกระทบทางเศรษฐกิจ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลกู้รอบแรกมาแล้ว 1 ล้านล้านบาท เพื่อใช้ในการเยียวยา ฟื้นฟู และด้านสาธารณสุข ตามที่ได้มีการติดตามเงินกู้ก้อนนี้ ก็มีการเบิกจ่ายเกือบเต็มวงเงินกู้แล้ว ดังนั้นหากจะต้องกู้มาอีก 7 แสนล้านบาท รัฐบาลจะต้องมีการปรับเปลี่ยนกลไกในการใช้เงิน ทั้งเรื่องของหน่วยงานที่จะควบคุมเงินกู้ การตรวจสอบ การเบิกจ่าย ที่จะต้องทำให้การใช้เงินเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ไปถึงมือประชาชน และสามารถที่จะฟื้นฟู เยียวยาได้อย่างแท้จริง ไม่เช่นนั้นการขับเคลื่อนการแก้ไขทางเศรษฐกิจก็จะไม่เป็นไปตามที่รัฐบาลคาดหวังและกำหนดไว้

“ถ้ามีความจำเป็นก็ต้องกู้ แต่ประเด็นที่สำคัญ คือกลไกที่รัฐบาลจะต้องทำอย่างไรให้การใช้เงินกู้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งที่ผ่านมาจากที่ตนเป็นกรรมาธิการติดตามและตรวจสอบการใช้เงินกู้ ต้องยอมรับว่าการใช้เงินยังล่าช้า เบิกจ่ายไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ และยังไม่เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อประชาชน มีหลายโครงการที่ทำแล้วไม่สำเร็จ และหลายโครงการที่จะต้องปรับเปลี่ยนเป้าหมาย เบิกจ่ายงบล่าช้าเนื่องจากความไม่ชัดเจนของโครงการ เเละที่สำคัญการใช้จ่ายงบเงินกู้ไม่เกิดประสิทธิภาพ ดังนั้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนก็ไม่เป็นไปตามที่รัฐบาลและพี่น้องประชาชนคาดหวังไว้” นายอัครเดช กล่าว

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

อัปเดตชีวิตล่าสุด “ครูส้ม” บูลลี่ “ป๋าเปรม” ลาออกจากราชการแล้ว
"สมาพันธ์คนงานรถไฟ" ยื่นนายกฯเร่งตัดสินใจอนาคต "รถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน" เหตุประมูลเกือบ 5 ปีไร้คืบหน้า
เปิด 2 เครื่องสำอางอันตราย ขายออนไลน์ว่อน พบมีสารปรอท-สเตียรอยด์ เช็กเลยเคยใช้ไหม
ศาลสั่งคุก 1 ปี ปรับ 45,000 บาท “อลิสา” นักศึกษา 3 นิ้ว คดีสาดสี-พ่นสเปรย์รูปปั้นในสธ. ส่วน "บุ้ง" ให้จำหน่ายคดีออก
SAC สั่งหมายหัว“ ชิตตู” ตัวอันตราย พร้อมสอบท่อน้ำเลี้ยง ญาติก็ไม่รอด โดนหางเลขด้วย
"อนุทิน" เปิดพื้นที่ตาบอด สู่ทำเลทอง พัฒนาเมืองให้เติบโตด้วยโครงการจัดรูปที่ดินฯเมืองชัยภูมิ
“ชัยเกษม” มั่นใจ “ดิจิทัลวอลเล็ต” เดินหน้าต่อได้ ลั่นหากมีอุปสรรคก็แก้กันไป
"ซุปเปอร์นายกฯ" เคาะโผปรับครม.เศรษฐา 2 ปิดจ็อบนักวิ่งแย่งเก้าอี้ "รมต."
เพจดังซัด "สส.จิรัฏฐ์" หายเงียบ หลังตร.ออกหมายเรียกครั้งที่สอง แฉซ้ำโดดประชุมสภาฯเก่ง
"สุรเชษฐ์" แขวะคมนาคม สร้างข่าวลดค่าทางด่วน เบื้องหลังแลกขยายสัมปทานBEM

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น