ที่รัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงกรณีที่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอออก พ.ร.ก.เงินกู้เพิ่มเติมอีก 7 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และออกจ่ายเยียวยาประชาชน รวมถึงผู้ประกอบการเพิ่มเติม เนื่องจากการระบาดโควิด-19 รอบใหม่ ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้าน ต้องช่วยกันตรวจสอบและหาข้อเท็จจริงว่า กู้เงินไปแล้วเอาไปใช้ทำอะไรบ้าง หากอ้างว่าเอาไปใช้แก้ไขสถานการณ์โควิด-19 หรือเพื่อพี่น้องประชาชน ก็อาจเอาไปใช้ในเรื่องอื่นอยู่ดี หากพบว่ามีความไม่ชอบมาพากลก็พร้อมที่จะตรวจสอบ
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวถึงกรณีการจัดสรรงบประมาณของกองทัพว่า เป็นไปได้อย่างไรที่งบประมาณของกองทัพจะมากกว่ากระทรวงสาธารณสุข พร้อมถามกลับว่าจะไปรบกับใคร ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ใช้งบประมาณฟุ่มเฟือย ใช้ตามใจตัวเอง และนำไปบำเรอความสุขให้ทหาร เพราะตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ประชาชนต่างเดือดร้อนไปหมด ขณะนี้ร่างพ.ร.บ.งบประมาณร่ายจ่ายประจำปี 2565 เพิ่งส่งมายังสภา แต่เบื้องต้นขอกลับไปศึกษาก่อน และให้สมาชิกพรรคกลับไปศึกษาด้วยว่าต้องการอภิปรายกระทรวงใดบ้าง
เมื่อถามว่า งบประมาณในการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ยังคงมีอยู่พรรคร่วมฝ่ายค้านจะมีการดำเนินการอย่างไร พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรคไม่ยอมในเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด ซึ่งการบริหารประเทศต้องใช้งบประมาณไปที่คนเป็นหลัก ไม่ใช่อาวุธยุทโธปกรณ์ แบบนี้บ้านเมืองจะเจริญได้อย่างไร ตอนนี้คงแก้อะไรไม่ได้ เพราะพล.อ.ประยุทธ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จึงต้องเอาทหารไว้ก่อน ซึ่งงบประมาณต่าง ๆ มักลงไปที่ทหารทั้งที่ไม่มีความจำเป็น ตนจะพยายามตรวจสอบการจัดทำงบประมาณของกองทัพเพื่อให้เข้ารูปเข้ารอย
“ถ้าอยากเห็นความเปลี่ยนแปลง เอาผมไปเป็นรัฐมนตรีกลาโหมก็แล้วกัน ขนาดผู้หญิงยังเป็นรัฐมนตรีกลาโหมได้ ให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็นบ้าง แล้วจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร” หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าว
เมื่อถามย้ำว่า จะเป็นรมว.กลาโหมภายใต้รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า “พล.อ.ประยุทธ์ กับผมไม่เอากันอยู่แล้ว ยึดอำนาจมาผมก็ไม่เอาด้วยตั้งแต่เริ่มต้น ต้องรอให้พล.อ.ประยุทธ์ ไปก่อน”