พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ โพสต์เฟสบุ๊ก ล่าสุดเกี่ยวกับ รพ.สนาม ระดับ 3 ว่า ผมขออนุมัติจัดตั้ง รพ.สนามพลังแผ่นดิน โดยยื่นเรื่องตามแบบฟอร์มขออนุมัติ (สพอ.8) ถึงกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส) กระทรวงสาธารณสุข เมื่อ 5 พ.ค.64 ก่อนที่ ไอ้กุ๊ยหลักสี่ จะยกพวกพานักข่าวมาบุก รพ.สนามพลังแผ่นดิน ในวันที่ 7 พ.ค.64 เสียด้วยซ้ำ ไอ้กุ๊ยหลักสี่ มันตั้งใจจะหาเรื่องดิสเครดิตให้ร้าย ว่าผม ตั้ง รพ.เถื่อน มันไม่รู้อะไรเลย ที่สำคัญผมไม่ใช่คนที่ไอ้กุ๊ยอย่างมันจะมาซ่าส์ เกเรกับผมได้ ผมจีงผรุสวาท ด่าทอไอ้กุ๊ยอย่างหยาบคายว่า “กูตั้ง รพ.สนามตาม พรก.สถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่ต้องขออนุญาต มึงอยากมีเรื่องกับกูหรือไง…ไอ้เXี้ย!…มีงนี่ไม่รู้เXี้ยอะไรเลย…กูไม่คุยกับมีง…มึงไปแจ้งความเดี๋ยวนี้แล้วอย่าถอนฟ้อง…กูรอ”
แล้วมันก็บ้าอำนาจด้วยความโง่อย่างไม่สิ้นสุดด้วยคิดว่า รพ.สนาม ต้องขออนุญาต ซึ่งต่อมาสังคมก็ช่วยกันเผยแพร่ราชกิจจานุเบกษา (รกจ) เกี่ยวกับประกาศ การตั้ง รพ.สนาม ว่าไม่ต้องขออนุญาต ซึ่ง รกจ นี้ มีผลตั้งแต่ มี.ค.63 หรือประกาศมานานกว่า 1 ปีแล้ว…มันไม่รู้อะไรเลยจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่มันเป็นถึงประธานกรรมาธิการกฎหมาย สภาผู้แทนราษฎร
การยื่นแบบขออนุมัติ (สพอ.8) ต่อกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส) กระทรวงสาธารณสุข เมื่อ 5 พ.ค.64 นั้น สบส จะเห็นชอบได้ต่อเมื่อ รพ.สนาม เสร็จเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ ไอ้กุ๊ยหลักสี่ มันมาบุกนั้น มันยังไม่เสร็จแล้ว สบส.จะมาตรวจเห็นชอบได้อย่างไร…”ไอ้เXี้ย!…มีงนี่ไม่รู้เXี้ยอะไรเลย”
เมื่อบ่ายวันที่ 17 พ.ค.64 หลังจากที่ สบส. มาตรวจความเรียบร้อยของ รพ.สนามพลังแผ่นดินแล้ว กระทรวงสาธารณสุข ก็ได้อนุมัติอย่างเป็นทางการ และมอบหนังสืออนุมัติ รพ.สนามพลังแผ่นดิน ณ ไอ ซี ยู สนาม [ตามภาพที่แนบ]
นี่ไงครับ…รพ.สนามเถื่อน ของไอ้กุ๊ยหลักสี่ “ไอ้เXี้ย!…มีงนี่ไม่รู้เXี้ยอะไรเลย”…กูถึงไม่คุยกับมีงไง…ไอ้สัส (น้าค่อมฝากด่านะครับ)
ขอประทานในความหยาบคายของผมที่ปรากฎต่อสาธารณะครับ…ธาตุแท้ของผมมันเติบโตมาจากดงนักเลง 2499 ย่านหัวลำโพง มันจึงเป็นคนประเภท “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” …ไอ้กุ๊ยหลักสี่หัดดูตาม้าตาเรือเสียบ้าง
ล่าสุด นพ.เหรียญทอง โพสต์อีกว่า ผมและทีมงานใช้เวลาเพียงแค่ 12 วัน จากพื้นที่สนาม ซึ่งเต็มไปด้วยวัชชพืช กลายเป็น รพ.สนาม ระดับ 3 ขนาด 3,000 ตารางเมตร ที่มีขีดความสามารถ สำหรับผู้ป่วยวิกฤต 48 เตียง และผู้ป่วยอาการปานกลางค่อนข้างหนักอีก 167 เตียง รวมจำนวนทั้งสิ้น 215 เตียง ด้วยเงินลงทุนทั้งสิ้น แค่ 75 ล้านบาท หรือ ใช้เงินลงทุนเฉลี่ยต่อเตียง รพ.สนาม ระดับ 3 ประมาณ 350,000 บาทต่อเตียง และใช้เวลาดำเนินการเฉลี่ยต่อเตียง รพ.สนาม ระดับ 3 ประมาณ 1.3 ชั่วโมงต่อเตียง…
ผมขอเน้นย้ำว่า นี่คือ รพ.สนาม ระดับ 3 นะครับ ไม่ใช่ระดับ 1 แตกต่างกันอย่างมากนะครับผมขอเรียนว่า การจัดตั้ง รพ.สนาม ระดับ 3 ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีความรู้ความเข้าใจเป็นอย่างดี ไม่ใช่แค่หลักการและทฤษฎีเท่านั้น แต่ต้องสามารถประยุกต์ดัดแปลงที่ศัพท์ทางหทารเรียกว่า ‘การแสวงเครื่อง’ คือ การใช้สิ่งที่หาได้มาดัดแปลงให้ใช้งานได้จริง เช่น ระบบจ่ายก๊าซอ๊อกซิเจนและอากาศทางการแพทย์ของ รพ.สนามพลังแผ่นดิน ที่ใช้ท่อลมทางการแพทย์ [Medical Hose] ซึ่งเป็นท่อของเครื่องช่วยหายใจ มาใช้แทนท่อทองแดงที่ต้องเชื่อมด้วยเงินและต้องใช้เวลาดำเนินการ 215 เตียง นานนับเดือน ทั้งยังต้องใช้เงินลงทุนอีกหลายล้านบาท เป็นต้น
ดังนั้น ‘หลักการแสวงเครื่อง’ จึงเป็นหลักนิยมของทหารหมอเถื่อน ๆ อย่างผมในสงครามโควิด-19 ครับ โม้ชิบ! อีกแล้ว…นี่แหละทหารหมอ แห่งจอมทัพไทย ผู้ประกาศตน ไม่ทอดทิ้งพสกนิกรของพระเจ้าแผ่นดินไงล่ะครับ
