เครื่องบินไอพ่นของอิสราเอลหลายสิบลำเข้าโจมตีกาซาโดยการทิ้งระเบิดระบบอุโมงค์ของกลุ่มฮามาสและยังกำหนดเป้าหมายที่อยู่อาศัยอีก 9 แห่ง
ทหารของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีเป้าหมายในฉนวนกาซาเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นการโจมตีที่หนักกว่าเมื่อปี 2563 นับถึงตอนนี้มีการยิงจรวดมาจากฉนวนกาซาเข้าใส่ดินแดนของอิสราเอลประมาณ 3,150 ลูก แม้ว่าจะมีบางลูกได้ถูกขัดขวางจากการปกป้องทางอากาศ หรือไอรอนโดม (Iron Dome) ไว้ได้ก็ตาม โดยการยิงจรวดจากฉนวนกาซาได้คร่าชีวิตผู้คนในอิสราเอลอย่างน้อย 10 คน และทำให้ชาวอิสราเอลต้องไปอยู่ในศูนย์พักพิงใน แอชดอด, แอชเคลอน และ เบียร์ เชวา
ทางฝั่งฉนวนกาซา การสู้รบกับอิสราเอลได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 200 คน ในจำนวนนั้นมีเด็ก 59 คน ผู้หญิง 35 คน และมีผู้คนที่ต้องอพยพกว่า 40,000 คน
กระทรวงสาธารณสุขของฮามาสได้ออกมาเตือนว่า การโจมตีของอิสราเอล ได้สร้างการระบาดอีกระลอกของโควิด 19 และผู้ที่จะหลบหนีไปศูนย์พักพิงจะต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคต่างๆ รวมไปถึงการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กองกำลังป้องกันอิสราเอลได้เผยแพร่ภาพถ่ายที่อ้างว่าแสดงการติดตั้งจรวดของฮามาส และทางเข้าอุโมงค์ที่อยู่ใกล้กับชุมชนเช่น โรงเรียนและโรงพยาบาล โดยกองกำลังอิสราเอลกล่าวว่าฮามาสวางเป้าหมายทางทหารไว้ในกลุ่มพลเรือนโดยเจตนา
ผู้นำฮามาสกล่าวว่า สิ่งที่ทำให้การพยายามหาความสงบไม่ได้ผลเพราะอิสราเอลยืนยันที่จะให้ทางฮามาสหยุดยิงก่อนเป็นเวลาอย่างน้อย 3 ชั่วโมง แล้วจากนั้นอิสราเอลจะทำตาม ซึ่งฮามาสปฏิเสธข้อเสนอนี้ แหล่งข่าวของฮามาสให้ข้อมูลว่า อุปสรรคอีกประการหนึ่งคือฮามาสยืนกรานให้อิสราเอล นอกจากยุติการยิงแล้ว ยังต้องรวมไปถึงยุติการยั่วยุต่างๆ ที่มัสยิดอัลอักซอในเยรูซาเลม และการลงมติขับไล่ผู้ที่อยู่อาศัยในย่านชีคจาร์ราห์ ด้วย ซึ่งเรื่องนี้เป็นฉนวนที่ทำให้เกิดการปะทะกันมาจนถึงขณะนี้