นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์และความคืบหน้าการเฝ้าระวังสายพันธุ์โอมิครอน ว่า ขณะนี้มีการตรวจพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในประเทศไทยแล้ว
สำหรับผู้ป่วยรายดังกล่าว เป็นชาวอเมริกัน อายุ 35 ปี อาศัยอยู่ในสเปน 1 ปี เดินทางมาจากประเทศสเปน เก็บตัวอย่างครั้งแรกวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และเก็บตัวอย่างซ้ำวันที่ 3 ธันวาคม ผลปรากฏว่า มีโอกาสเป็นสายพันธุ์โอมิครอนสูงมากถึง 99.92% และนับเป็นผู้ป่วยสายพันธุ์โอมิครอนคนแรกในประเทศไทย โดยไทม์ไลน์มีดังนี้
วันที่ 28 พ.ย.64 ตรวจพีซีอาร์ที่สเปน ผลไม่พบเชื้อ หลังจากนั้นไปทานข้าวกับเพื่อน (เพื่อนไม่มีอาการป่วยจนถึงปัจจุบัน)
วันที่ 29 พ.ย.64 บินจากสเปนไปดูไบ พักที่ดูไบ 9 ชั่วโมง ไม่ได้พูดคุยกับใคร สวมหน้ากากอนามัยตลอด
วันที่ 30 พ.ย.64 บินจากดูไบมา กทม. หลังจากลงเครื่อง (เที่ยงคืน) ไปเก็บตัวอย่างที่ รพ.คู่สัญญา และกลับเข้าโรงแรม (ผู้ป่วยเข้าโครงการเทสแอนด์โก)
วันที่ 1 ธ.ค.64 รับแจ้งจากโรงพยาบาลว่า ตรวจพบโควิด-19
วันที่ 3 ธ.ค.64 ส่งตัวอย่างเชื้อตรวจยืนยันที่กรมวิทยาศาสตร์ เบื้องต้นค่อนข้างแน่นอนว่า เป็นสายพันธุ์โอไมครอน รายแรกของไทย
อย่างไรก็ตามได้มีการเรียกผู้ที่มีประวัติใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อรายนี้มาสอบสวนโรค และตรวจสอบหาเชื้อเพิ่มเติม ประกอบด้วยกลุ่มคนที่อยู่ในโรงแรม 17 คน และพนักงานสนามสนามบินอีก 2 คน รวมเป็น 19 คน ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม แต่ก็ยังคงต้องกักตัวตามระยะฟักตัวของโรค พร้อมขอเน้นย้ำให้ประชาชนฉีดวัคซีนให้ได้โดยเร็วที่สุด นอกจากวัคซีนแล้ว มาตรการส่วนบุคคลยังเป็นมาตรการสำคัญ รวมถึงการยกระดับเฝ้าระวังช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศ และสถานที่ท่องเที่ยวจากเดิมที่จะมีการตรวจแบบ ATK ให้เปลี่ยนเป็น RT-PCR ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี
โดย นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ให้สัมภาษณ์หลังการแถลงข่าวโดยยืนยันว่า ณ ตอนนี้สามารถยืนยันได้ 100% แล้วว่า นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันรายนี้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนรายแรกในประเทศไทยจริง ซึ่งตอนนี้ได้ส่งตัวรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งแล้ว ส่วนอาการของนักท่องเที่ยวรายนี้คล้ายกับไข้หวัดปกติ ซึ่งเชื้อยังอยู่ในระดับน้อย เพราะค่า Ct ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งตรงนี้ทำให้เห็นว่า แม้สายพันธุ์โอมิครอนจะแพร่พันธุ์เร็ว เริ่มเบียดสายพันธุ์เดลต้า แต่อาการไม่หนัก ทำให้เห็นได้ว่าโควิด-19 เริ่มอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้ แต่ก็รอดูข้อมูลให้มากกว่านี้ก่อน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขยังคงติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด แต่ก็กังวลเรื่องการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย เพราะจะทำให้มีโอกาสในการหลุดรั่วของเชื้อโอมิครอนได้ง่าย ซึ่งกรณีของผู้ติดเชื้อรายนี้เข้าประเทศอย่างถูกต้อง และได้รับการตรวจคัดกรอง ตรวจหาเชื้ออย่างถูกวิธี ทำให้สามารถควบคุมเชื้อไว้ได้ทัน
ทั้งนี้ ไม่อยากให้ประชาชนหวั่นวิตกมากจนเกินไป แต่อยากให้เร่งฉีดวัคซีนเป็นสำคัญที่สุด และขอให้งดกิจกรรมที่ทำให้เกิดความสุ่มเสี่ยง เช่นการรวมกลุ่มทำกิจรรมในช่วงเทศกาลปีใหม่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นต้องมีมาตรการเพิ่มเติม รวมทั้งยังคงไม่มีการหารือเรื่องการปิดประเทศ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อประเทศ
ส่วนกรณีนักท่องเที่ยวชาวแอฟริกาที่รักษาตัวที่สถาบันบำราศนราดูรนั้น ขอยืนยันว่าไม่ได้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน แต่เป็นเชื้อสายพันธุ์เดลต้า ส่วนนักท่องเที่ยวที่อยู่ระหว่างตามตัวมาสอบสวนโรค ก็เริ่มทยอยกลับเข้ามาพบเจ้าหน้าที่และให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จึงยืนยันได้ว่าตอนนี้สามารถควบคุมเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนได้แน่นอน
