No data was found

“อดีตรองอธิการ มธ.” ซัดพวกล้มเจ้าคอมเมนต์ก้าวล่วง “ร.9”

กดติดตาม TOP NEWS

"อดีตรองอธิการ มธ." ซัดพวกล้มเจ้าคอมเมนต์ก้าวล่วง "ร.9"

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ไม่มีพลาด วันที่ 5 ธันวาคม สำนักข่าวเดิม ทั้งๆ ที่รู้ ยังคงโพสต์ลงว่า เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ลงถึง 2 โพสต์ ห่างกัน 1 ชั่วโมง ข้อความที่ลงยังคงแนบเนียน ไม่มีอะไรที่ไม่เหมาะสม แต่ comments ที่ตามมา สำหรับผู้ที่จงรักภักดี หากเข้าไปอ่านแล้ว น่าจะรู้สึกเหมือนกันคือ จิตตก อารมณ์เดือด อยากจะทำอะไรสักอย่างกับพวกนี้ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะทำอะไรได้บ้าง

โดย Comment ที่ชัดเจนว่ามีจุดเริ่มต้นมาจากหัวขบวนของขบวนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ คือประโยคที่หลายคนใช้ว่า “เซ็นรัฐประหาร” ประหนึ่งว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงลงพระปรมาภิไธย เพื่อมีพระบรมราชานุญาตให้ทำรัฐประหารได้ ซึ่งความเห็นแบบนี้น่าจะเริ่มมาจากนักวิชาการบางคนที่กล่าวหาซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงอยู่เบื้องหลังการทำรัฐประหารทุกครั้ง

รศ.หริรักษ์ อธิบายต่อว่า เมื่อทหารทำรัฐประหาร หากทำไม่สำเร็จก็กลายเป็นกบฏ หากทำสำเร็จก็ได้อำนาจสูงสุดของรัฐ จากนั้นคณะรัฐประหารก็จะเข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าเสนอให้พระบาทพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิโธย โปรดเกล้าแต่งตั้ง คณะบุคคลที่จะปกครองประเทศชั่วคราว ธรรมนูญการปกครองฉบับชั่วคราว และโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีตามลำดับ อยากถามว่า เมื่อถึงเวลานั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงมีทางเลือกเป็นอื่นหรือ อีกประการหากพระองค์ทรงขัดขวาง จะเป็นการไม่อยู่เหนือการเมืองหรือไม่

รศ.หริรักษ์ ระบุอีกว่า ในอดีตพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงลงมาเกี่ยวข้องกับการเมือง 3 ครั้ง ทุกครั้งล้วนเมื่อสถานการณ์มาถึงทางตัน ไม่มีทางออกใดๆ

ครั้งแรก หลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 เป็นผลให้จอมพล ถนอม กิตติขจร และจอมพล ประภาส จารุเสถียร ยอมออกนอกประเทศ และมีการตั้งรัฐบาล สัญญา ธรรมศักดิ์ ซึ่งเรียกกันว่า เป็นรัฐบาลพระราชทานขึ้น

ครั้งที่ 2 ในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ เมื่อโปรดเกล้าฯ ให้คู่ขัดแย้งคือ พลเอกสุจินดา คราประยูร กับ พลตรีจำลอง ศรีเมือง เข้าเฝ้า เป็นผลให้เหตุการณ์ที่กำลังจะรุนแรงลุกลามใหญ่โต สงบลงได้อย่างอัศจรรย์

ครั้งที่ 3 เมื่อบ้านเมืองไม่มีทางออก ช่วงสมัยที่ 2 ของนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ซึ่งประกาศยุบสภา เป็นผลจากการชุมนุมประท้วงขับไล่ครั้งใหญ่ของประชาชน พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศไม่ลงเลือกตั้ง การเลือกตั้งมีการจ้างพรรคเล็กให้ส่งผู้สมัครลงในเขตที่มีผู้สมัครเพียงพรรคเดียว เพื่อหนีเกณฑ์ที่ต้องได้คะแนนขั้นต่ำ ครั้งนี้พระองค์เพียงทรงแนะให้ฝ่ายตุลาการหาทางออกให้ประเทศเท่านั้น

ทั้ง 3 ครั้ง หากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงวางเฉย ไม่เกี่ยวข้องด้วย บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร มองอีกมุมหนึ่ง ต้องยอมรับว่า พระองค์ทรงเสียสละเสียด้วยซ้ำ ที่ทรงลงมาเช่นนี้ พวกที่หลงเชื่อว่า พระมหากษัตริย์ต้องต่อต้านรัฐประหาร และยิ่งกว่านั้นหลงเชื่อว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงอยู่เบื้องหลังการทำรัฐประหารทุกครั้ง อยากให้กลับมาพิจารณาใหม่ ด้วยเหตุด้วยผล และด้วยใจเป็นธรรม พวกเราที่มีลูกมีหลานก็ควรให้เหตุผลที่ถูกต้องกับพวกเขา เพื่อเขาจะได้ไม่เข้าใจผิด เชื่อตามการกล่าวหาที่ไม่เป็นธรรมเช่นนี้ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณตลอดไป

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ส่อวุ่นยืดเยื้อ เพื่อนแรงงานรวมตัวปิดล้อมพื้นที่ หลังเครนถล่มทำ 7 ชีวิตดับ เรียกเยียวยาศพละ 5 ล้าน
"ก.วัฒนธรรม" จัดสงกรานต์ปี 67 สุดยิ่งใหญ่ 5 ภูมิภาค สมเป็น “มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ”
เจาะใจครูไทย ขอบคุณรัฐบาล อนุมัติงบฯจ้างภารโรง แบ่งเบาภาระคืนความสุขโรงเรียน
ชาวบ้าน 16 ครัวเรือนขวางเจ้าอาวาสวัด สั่งถมดินสูงรอบบ้านชาวบ้าน อ้างเป็นเขต ธรณีสงฆ์
อาหารเป็นพิษจากกรด บงเครคิก พบครั้งแรกในไต้หวัน
เครนถล่ม ในโรงงานปลวกแดง จ.ระยอง ทับคนงาน เสียชีวิต บาดเจ็บเพียบ จนท.เร่งช่วยเหลือด่วน
“นายกฯ” ย้ำ “ดิจิทัลวอลเล็ต” ไร้ทุจริต ปชช.ตรวจสอบได้ รับบินตปท.บ่อย เจอไอเดียดี นำปรับใช้พัฒนาประเทศไทย
ตำรวจไซเบอร์ บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนรายใหญ่ ลักลอบตั้งฐานในไทย พบเหยื่อเพียบ
เช็กลิสต์สหายเสื้อแดงลี้ภัยต่างแดน จ่อกลับไทยมาสู้คดี จับตาก๊วน 3 นิ้วติดคดี 112 เลิกหนีหัวซุกหัวซุนต่างแดนตามรอย "จักรภพ" โมเดล
จีน ก๋วยเตี๋ยวหอยทาก “หลัวซือเฝิ่น” กับความคลั่งไคล้ระดับชาติ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น