นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ผู้นำอังกฤษกล่าวว่าอังกฤษได้เดินทางมาจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ในวันนี้ โดยรัฐบาลจะผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มโควิดครั้งใหญ่ ทั้งในเขตอังกฤษ, เวลส์และพื้นที่ส่วนใหญ่ของสก๊อตแลนด์ โดยอนุญาติให้มีการรวมตัวภายในอาคารไม่เกิน 6 คน ภายนอกอาคารไม่เกิน 30 คน นอกจากนี้ก็สามารถนั่งทานอาหารภายใน ผับบาร์ ร้านอาหารต่างๆได้แล้ว ขณะที่โรงภาพยนตร์, พิพิธภัณฑ์, สถานที่จัดคอนเสิร์ต และสนามกีฬาก็เปิดให้บริการได้แล้ววันนี้
ส่วนเรื่องการสวมใส่หน้ากากอนามัยและการรักษาระยะห่างทางสังคมก็ไม่บังคับ ส่งผลให้คนอังกฤษสามารถสวมกอดกันได้อีกครั้ง รวมทั้งสามารถเดินทางออกนอกประเทศได้แล้ว แต่ไปได้เฉพาะประเทศที่อยู่ใน Green List หรือมีอัตราการติดเชื้อต่ำเท่านั้น อย่างไรก็ตามผู้นำอังกฤษเตือนว่าทุกคนต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษและใช้ชีวิตด้วยความรับผิดชอบ แม้จะมีการผ่อนคลายมาตรการเหล่านี้แล้วก็ตาม และจะต้องตรวจโควิดสัปดาห์ละ 2 ครั้ง โดยสามารถใช้เครื่องตรวจชนิดรู้ผลเร็วภายใน 30 นาที แม้จะไม่มีอาการก็ต้องตรวจ ซึ่งรัฐบาลจัดให้ฟรี ทั้งนี้รัฐบาลอังกฤษจะพิจารณาผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มครั้งต่อไปวันที่ 21 มิถุนายน
ด้านสมาคมแพทย์อังกฤษออกมาแสดงความวิตกกรณีโควิดสายพันธุ์อินเดียที่ยังระบาดเป็นวงกว้างในอังกฤษ รวมทั้งในกรุงลอนดอน โดยผู้เชี่ยวชาญยังไม่มั่นใจว่าวัคซีนโควิดจะรับมือกับโควิดกลายพันธุ์ได้ดีขนาดไหน แม้ผุ้ผลิตวัคซีนหลายแห่งจะออกมายืนยันถึงประสิทธิภาพ นอกจากนี้คนอังกฤษกลุ่มที่อายุ 35 ปีขึ้นไปก็ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน โดยจะเริ่มฉีดในเร็วๆนี้ ด้านรัฐบาลอังกฤษออกมายืนยันว่าจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดหลังผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มในวันนี้ ทั้งนี้จำนวนผู้ติดเชื้อต่อวันที่อังกฤษลดลงอย่างมากหลังฉีดวัคซีน โดย 24 ชม.ที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อ 1 พัน 926 คน เสียชีวิตเพียง 4 คน