ที่ทำการพรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศให้การฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ ว่า นายกรัฐมนตรี ได้แถลงเรื่องนี้ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งการประกาศเป็นวาระแห่งชาติจะสามารถทำได้จริงหรือไม่ เนื่องจากตั้งแต่มีการฉีดวัคซีนในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. จนถึงปัจจุบัน สามารถฉีดได้ทั้งหมดประมาณ 2 ล้านโดส เฉลี่ยฉีดได้ 3 หมื่นโดสต่อวัน ดังนั้น จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะฉีดให้ได้ 5 แสนโดสต่อวันอย่างที่ประกาศไว้ ส่วนตัวเลขการจองฉีดวัคซีนโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีประชาชนจองเพียง 1.90 แสนโดสเท่านั้น ตนจึงแปลกใจที่รัฐบาลประกาศให้วัคซีนโควิด-19 เป็นวาระแห่งชาติ
“ขอให้ตอบเรื่องนี้ให้ชัดเจนทั้งการกระจายวัคซีน และจะสามารถวอล์คอินไปฉีดได้ที่ไหน ตั้งแต่วันไหน และตัวเลขล่าสุดผู้ของประชาชนที่จองฉีดวัคซีนในพื้นที่ กทม. รวมแล้วประมาณกว่าแสนคน จะต้องบอกไทม์ไลน์ว่าจะฉีดที่ไหนอย่างไร หรือวอล์คอินได้ที่ไหน หากนายกรัฐมนตรี คิดไม่ออกให้ไปดูต่างประเทศว่า สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฉีดอย่างไร” นายยุทธพงศ์ กล่าว
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ยังได้ระบุถึงการซื้อประกันภัยโควิด-19 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ อสม. และเจ้าหน้าที่ใกล้ชิดผู้ป่วยติดเชื้อ จำนวน 2.7 แสนราย จึงอยากถามว่าซื้อประกันโควิด -19 ให้ใคร เพราะที่จังหวัดนครพนม นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ขึ้นป้ายขอขอบคุณมวลมหามิตร ที่ร่วมกันสร้างขวัญกำลังใจมอบประกันโควิด-19 ให้อสม. นักรบด่านหน้าทุกคน และผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้ประกาศไว้ว่าเงินที่นำมาซื้อประกันเป็นของนายศุภชัย
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า นายศุภชัย ต้องออกมาเปิดเผยว่า จำนวนเงิน 7 ล้านบาทที่นำมาซื้อประกัน เป็นของมวลมหามิตรคนไหนบ้างที่บริจาคและบริจาคเท่าไหร่ ต้องไม่มีการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ตามกฎหมายของป.ป.ช. หรือมวลมหาประชามิตร จะเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง งานไอที หรือร้านอาหารที่ผูกขาดในสภาฯ เนื่องจากนายศุภชัย เป็นรองประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ จริยธรรมต้องสูง และตามกฎหมายป.ป.ช. ระบุว่า ส.ส. รับเงินได้ไม่เกิน 3 พันบาท ดังนั้น จึงต้องออกมาชี้แจงเรื่องนี้ให้ชัดเจน