No data was found

ไม่รีบ…..เลือกตั้ง ลุงตู่…..ขออยู่ยาว

กดติดตาม TOP NEWS

เปิด 4 ปัจจัยเอื้อประยุทธ์อยู่ยาว รอแก้ไขกฎหมายลูก "เลือกตั้งส.ส.+ พรรคการเมือง" เคาะเขตเลือกตั้ง คำนวณคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ เป็นเจ้าภาพเอเปค 2565 ต้อนรับ 21 ผู้นำเขตเศรษฐกิจโลก กระทบไหล่ " ไบเดน-สีจิ้นผิง-ปูติน" การเมืองภายในพลังประชารัฐคลี่คลายลง ม็อบสามกีบล้มเจ้าอ่อนกำลังถูกศาลพิพากษาล้มล้างการปกครอง แถมตำรวจเตรียมรวบเข้าซังเต

ภายหลังจากที่รอลุ้นกันมาพักใหญ่ ล่าสุดได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2564 ลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ที่ 21 พ.ย.2564 ลงมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเนื้อหาหลักๆ ของการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้คือการแก้ไข มาตรา 83 และ มาตรา 91 มีการเปลี่ยนแปลงระบบการเลือกตั้งจากจัดสรรปันส่วนผสม (MMP) ใช้บัตรเลือกตั้ง 1 ใบ กลับไปเป็นระบบการเลือกตั้งแบบผสม (MMM) ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบแทน ในส่วนจำนวนของส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎร จากเดิมระบบเขตจะมีส.ส. 350 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 150คน รวมเป็น 500 คน พอแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะกลับไปเป็นแบบเดิมเหมือนปี 2540 คือ ส.ส. ระบบเขต 400 คน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ 100 คน รวมกันเป็น 500 คน เอาง่ายๆ คือระบบเขตจากเดิมเขตใหญ่ก็จะกลายเป็นเขตเล็กลง หลายจังหวัดก็จะมีส.ส.ระเบบเขตเพิ่มมากขึ้น ในส่วนส.ส.บัญชีรายชื่อก็จะมีน้อยลง จาก 150 ก็จะเหลือแค่ 100 คน ในส่วนการคิดคำนวณก็จะไปถกในชั้นทำกฎหมายลูกอีกที

โดยขั้นตอนต่อจากนี้ จะต้องมีการแก้ไขกฎหมายลูก ที่สำคัยๆจะมี 2 ฉบับคือ 1.พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) พ.ศ. 2561 และ 2.พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 โดยเฉพาะพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. เพื่อให้สอดรับกับระบบการเลือกตั้งที่เปลี่ยนแปลงจากเดิมที่ใช้ระบบบัตรใบเดียวตอนเลือกตั้งปี 2562 ที่คิดคะแนนรวมทั้งคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.ระบบเขตและบัญชีรายชื่อเพื่อคำนวณหาจำนวนที่นั่งหรือสัดส่วนของ ส.ส.ในสภาฯ ที่แต่ละพรรคการเมืองพึงมีในสภาฯ กลับไปเป็นการเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ แยกคะแนนออกจากกันระหว่างส.ส.เขตกับส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ โดยในขั้นตอนของการทำกฎหมายลูกมีเวลา 180 วันหรือราว 6 เดือน โดยมีเรื่องสำคัญๆให้ต้องถกเถียงกันอีกมากมาย อาทิ วิธีการคำนวณคะแนน หลักเกณฑ์วิธีการในการนับคะแนนเสียง ฯลฯ เสร็จจากขั้นตอนของรัฐสภา จากนั้นภายใน 15 วัน นับแต่วันที่รัฐสภาให้ความเห็นชอบ จะต้องมีการส่งร่างแก้ไขไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระต่างๆ เพื่อตรวจสอบ ทำข้อเสนอแนะ ก่อยให้ความเห็นชอบ หากไม่มีข้อทักท้วงภายใน 10 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับร่างดังกล่าวกลับมาจากหน่วยงานต่างๆและรัฐสภาให้ความเห็นชอบแล้ว ก็สามารถนำกฎหมายลูกขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อลงพระปรมาภิไธยก่อนประกาศใช้

เบ็ดเสร็จอย่างเร็วที่สุดก็ประมาณกลางปีหน้า พ.ศ.2565 จึงจะมีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งได้ ถามว่าแล้ว “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม อยากเลือกตั้งเร็วหรือไม่ คำตอบง่ายๆ ไม่มีนายกฯคนไหนอยากลงจากอำนาจเร็วหรอก แต่จะอยู่ในตำแหน่งได้ยาวนานแค่ไหนก็ต้องดูองค์ประกอบสิ่งแวดล้อมอื่นๆด้วย ประเด็นที่จะทำให้พล.อ.ประยุทธ์อยู่ยาวไม่ต้องรีบเลือกตั้งไม่ต้องเร่งยุบสภา มีอยู่หลายเรื่องด้วยกัน ประการแรกต้องรอการแก้ไขกฎหมายลูกให้จบก่อนอย่างน้อยก็อีก 6 เดือน เพราะมีเรื่องมีปมให้ต้องถกเถียงกันอีกมาก อาทิ วิธีแบ่งจำนวนส.ส.เขตในแต่ละจังหวัด การคิดคำนวณคะแนนส.ส.บัญชีรายชื่อ ฯลฯ ยังไม่นับรวมเรื่องของการทำไพมารี่โหวต ( Primary Vote) หรือระบบการคัดเลือกผู้สมัครขั้นต้น ที่พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 กำหนดให้สาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด ต้องเป็นผู้ให้ความเห็นชอบผู้สมัครส.ส.เบื้องต้นของพรรคก่อน ตรงนี้ก็เป็นประเด็นกวนใจพรรคการเมืองต่างๆ ที่อยากจะยกเลิก เพราะทำให้อำนาจของกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ลดอำนาจลง แค่ประเด็นเหล่านี้เชื่อว่ากว่าจะเถียงกันจบตกลงกันได้ 6 เดือนไม่น่าจะพอ อาจ

 

ประการที่ 2 ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุม “เอเปค 2565” ภายใต้หัวข้อหลักว่า “เปิดกว้าง สร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล” หรือ “Open Connect Balance ” โดยพล.อ.ประยุทธ์จะรับบทผู้นำประเทศเจ้าภาพการประชุมในการปฏิบัติหน้าที่ตลอด 1 ปี เพื่อขับเคลื่อนการฟื้นประเทศจากโควิด-19ไปสู่อนาคต และต้อนรับชาวต่างชาติ ตั้งแต่ระดับผู้นำ นักธุรกิจระดับสูง สื่อชั้นนำ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอื่น ๆ ที่อยู่ในเขตเศรษฐกิจชั้นนำถึง 21 เขตเศรษฐกิจ มี GDP รวมกันทั้งสิ้นกว่า 53 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1,700 ล้านล้านบาท มีมูลค่าการค้ารวมกันเกือบครึ่งหนึ่งของการค้าโลก โดยการประชุมแรกของเอเปค 2565 จะจัดขึ้นที่จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 1-3 ธ.ค.นี้ และจะมีการประชุมอื่น ๆ อีกมากมายในภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศไทยตลอดปีหน้า อาทิ การประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส 5 ครั้ง, การประชุมระดับรัฐมนตรี 9 ครั้ง รวมถึงการประชุมระดับผู้นำ ที่จัดขึ้นในเดือนพ.ย. 2565 ราวหนึ่งสัปดาห์ โดยจะมีสุดยอดผู้นำเอเปคจาก 21 เขตเศรษฐกิจของโลก อาทิ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ , จีน สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ,วลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ฯลฯ รวมถึงองค์การระหว่างประเทศ เช่น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) องค์การความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ผู้เข้าร่วมการประชุมระดับต่าง ๆ และสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ ราว 1 หมื่นคน ซึ่งทั้งหมดจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยในทุกพื้นที่ เป็นใครจะไม่อยากเป็นเจ้าภาพเป็นผู้นำประเทศไทยต้อนรับกระทบไหล่สุดยอดผู้นำโลก

ประการที่ 3 การเมืองภายในพรรคพลังประชารัฐ แม้จะเกิดรายการเกาเหลาหักเหลี่ยมกันเองในพรรค มีการแบ่งก๊กแบ่งฝ่ายเป็น 2 ขั้วคือ ขั้วลุงตู่ กับ ขั้วคู่หู 2 ป. “พี่ป้อมกะน้องแป้ง” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค หลังมีเรื่องหักเหลี่ยมเฉือนคมกันมายาวนาน นับตั้งแต่เกิดเรื่องต้นเหตุในเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา จากนั้นก็วางมวยเตะตัดขากันมาเรื่อย ล่อกันหลายยก แต่ระหว่างพล.อ.ประยุทธ์กับร.อ.ธรรมนัสก็ยังไม่เห็นว่าใครจะเพลี่ยงพล้ำเสียเปรียบ ต่างฝ่ายต่างยังยันกันอยู่ ดูไปแล้วแม้จะมีรอยร้าวบาดหมางกันแต่ในใจลึกๆเรื่องชาติบ้านเมืองต้องมาก่อน แถมมีกาวใจอย่างพี่ใหญ่ 3 ป. อย่างลุงป้อมเป็นโซ่ข้อกลางพยายามเชื่อมสัมพันธ์ให้รักกันดังเดิม หากไม่มีการยั่วยุปลุกปั่นอย่างที่พล.อ.ประยุทธ์เป็นห่วงพะวง เชื่อแน่ว่าความมึนตึงที่ผ่านมาก็คงจะคลี่คลายลงได้ เพราะต่างฝ่ายต่างก็ยังต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน “น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า” แม้ร.อ.ธรรมนัสจะถูกมองว่าเป็นหอกข้างแคร่เป็นเสี้ยนตำเท้าพล.อ.ประยุทธ์ แต่ถ้ามองถึงอนาคตข้างหน้าที่ต้องมีการเลือกตั้งใหญ่ มีสงครามชิงเมืองรออยู่ ถึงจะเป็นขุนศึกขี้เมาเป็นม้าพยศเป็นนักรบนอกคอก แต่เมื่อต้องเล่นศึกใหญ่ทำสงครามกับฝ่ายตรงข้าม อย่างระบบทักษิณตระกูลชินที่มีองคาพยพพร้อมสรรพ บรรดานักรบทุกคนย่อมมีความหมายยังไงก็ต้องมีคนแบบร.อ.ธรรมนัสไว้ใช้งาน ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ก็ส่งคนฝ่ายตัวเองไปรุกคืบในพรรคได้เยอะแล้ว ทั้งพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ,นิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาล ยอมทนยอมลงให้กับร.อ.ธรรมนัสสักคนเพื่องานใหญ่เป็นคุณแก่ชาติก็คงไม่มีปัญหา

 

ประการที่ 4 การเคลื่อนไหวของกลุ่มประท้วงกลุ่มฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะกลุ่ม “สามกีบ-ล้มเจ้า” เริ่มอ่อนกำลังลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้การเคลื่อนไหวของ 3 แกนนำ คือ “อานนท์ -ไมค์ -รุ้ง” เป็นการเคลื่อนไหวที่ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข งานนี้เรียกว่าทำให้สามกีบล้มเจ้าแทบแพแตก ไปต่อกันไม่ถูกเพราะหมดมุกไม่รู้จะเดินต่ออย่างไร ไม่ใช่แค่แกนนำ 3 คนอย่างอานนท์ ไมค์ รุ้ง เท่านั้นที่จะโดนคดี แต่พวกแกนนำอื่นๆ ที่เคยด่าทอใส่ร้ายกระทำการสามหาวจ้าบจ้วงสถาบันอันเป็นเสาหลักของคนไทยก็จะโดนคดีมีความผิดไปด้วย เรื่องนี้หมายรวมถึงจอมบงการที่ใส่แนวคิดฝังหัวเด็กเป่าหูเยาวชนอย่างคู่หูหนักแผ่นดิน “ทอน-บูด” ล้มเจ้า อย่าง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับ ปิยบุตร แสงกนกกุล จากคณะก้าวหน้าด้วย ที่กำลังโดนคดีรุมเร้าอาญาถามหา ทั้งกรณีเฟซบุ้คไลฟ์วัคซีนพระราชทาน ใครได้ใครเสีย ? ของทอนล้มเจ้าที่กล่าวหาในหลวงมีเอี่ยวได้ผลประโยชน์ผลิตวัคซีนแอสตราเซเนก้าแบบหยาบช้า หรือกรณีของปิยบูดที่โดนร้องทุกข์กล่าวโทษเรื่องสนับสนุนแนวคิดให้กับขบวนการล้มเจ้าปลุกปั่นราษฎร รวมถึงแกนนำคนอื่นๆที่มีคดีรอถูกเชือดเป็นพะเรอเกวียน ไม่นับพวกฮาร์ดคอร์พวกก่อเหตุที่โดนตำรวจจับเข้าซังเตไปเพียบ ตรงนี้ก็ทำให้ความร้อนแรงของม็อบสามกีบล้มเจ้าพวกปั่นบ้านป่วนเมืองลดพลังลงไปมาก

ทั้งหลายทั้งมวลก็เป็นประเด็นบวกเป็นเหตุผลที่พล.อ.ประยุทธ์ไม่ต้องรีบลงจากอำนาจ ไม่ต้องร้อนรนที่จะประกาศยุบสภา เพราะหรือเวลาอีกนานมีงานอีกเยอะให้ต้องทำ หมดอายุสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ก็มี.ค. พ.ศ.2566 ครบวาระผู้นำ 4 ปีก็กลางเดือนมิ.ย.2566 อีกปีกว่า ไม่มีความจำเป็นอะไรต้องรีบร้อน ไม่มีเรื่องอะไรจะมาฉุดหยุดการปฏิบัติหน้าที่ของพล.อ.ประยุทธ์ลงไปได้ ประเมินจาก 4-5 เรื่องที่ว่าลุงตู่ไม่จำเป็นต้องรีบเข้าคูหากาบัตรเลือกตั้ง บริหารบ้านเมืองออกนโยบายทำคะแนนตีกินเก็บแต้มใส่กระเป๋าจากชาวบ้านไปเรื่อยๆ ถึงเวลาทุกอย่างลงตัว กติกาพร้อม คนพร้อม พรรคพร้อม คะแนนนิยมพร้อม ค่อยหาจังหวะเหมาะๆ วัน ว. เวลา น. ดีๆ ประกาศยุบสภาจัดการเลือกตั้งใหม่ก็ยังมีเวลาอีกนานโข ล่าสุดลุงกำนัน สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำกปปส. ยังออกมาสำทับลุงตู่อยู่ยาวใครก็โค่นยาก ยังเป็นนายกฯที่ดีที่สุดของไทยในตอนนี้ ซื่อสัตย์สุจริต มุ่งมั่นตั้งใจ รักชาติปกป้องสถาบัน และมีโอกาสอยู่จนครบวาระ ฟังแบบนี้เอฟซีลุงตู่อาจดีใจ แต่คนเกลียดคนชังลุงตู่ได้ยินแบบนี้แล้วอาจอกแตกตาย
///////////////////

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

อากาศร้อนจัด สาวใหญ่ขี่ จยย.วูบชนฟุตบาทล้มคว่ำ
อีสท์ วอเตอร์ ผนึกกำลังสนับสนุนภารกิจการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.)
อุกอาจ ไอ้โม่งกว่า 20 คน บุกโรงไฟฟ้าในจ.ปัตตานี วางระเบิดเสียงดัง 5 ลูกติด คนงานแห่วิ่งหนีตาย
"นายใหญ่" ตรวจการบ้านรัฐบาล ทุบโต๊ะโผครม.เศรษฐา 2 สยบคลื่นใต้น้ำ "พท." เคลียร์ใจพรรคร่วม
"ราชกิจจาฯ" แพร่กฎกระทรวงแรงงาน ปรับเพิ่มวงเงินค่ารักษาพยาบาลดูแลลูกจ้าง
“บิ๊กป้อม” นำทัพประชุมใหญ่สามัญ “พรรคพปชร.” ยันส่งรมช.เกษตรฯ แค่ชื่อเดียว อยากรู้เป็นใครให้ถามนายกฯ
อิตาลี ชาวเมืองประท้วงเวนิสเก็บค่าเข้า
แชร์ว่อน "Google ประเทศไทย" อ้าง "ผู้บริหารสาว" เมาแล้วกร่างถีบตร. ลาออกแล้วตั้งแต่ต้นปี 67
บังกลาเทศส่งจนท.เมียนมากลับประเทศ
จีนส่งยานเสินโจว-18 สู่อวกาศ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น