จับตาพรุ่งนี้ ศปก.ศบค.เตรียม 2-3 แนวทางยกระดับมาตรการเข้ม

กรุงเทพฯ 13 พ.ค.- "หมอทวีศิลป์" วอนประชาชนตามแนวชายแดน เป็นหูเป็นตา พบจนท.ทำผิดแจ้งฝ่ายมั่นคงทันที เผยเตรียม 2-3 แนวทางยกระดับมาตรการเข้มพรุ่งนี้ชี้ขาด

ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวถึงข้อเรียกร้องว่าตามบริเวณชายแดนมีการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย แม้รัฐบาลมีนโยบายผลักดันออกนอกประเทศ แต่ก็มีความพยายามที่จะเข้ามาจะแก้ไขปัญหาอย่างไร ว่า เรื่องนี้นายกรัฐมนตรี ในฐานะผอ.ศบค. ได้ให้นโยบายมาอย่างชัดเจนทางเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ให้ฝ่ายความมั่นคง ศบค.มท. ตรวจเข้มและรายงานเข้ามาทุกวัน แต่อย่างที่บอกถึงแม้เราจะมีฝ่ายความมั่นคงคอยกระจายอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งตอนนี้คนที่เข้ามาเราก็ผลักดันออกไปทันที แต่ก็พบว่ายังมีการกระทำผิดซ้ำ และบางข่าวบอกว่าเชื่อมโยงกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ของรัฐบางคนที่ไม่ดี จึงมีการเน้นย้ำว่าขอให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา หากมีหลักฐานขอความกรุณาแจ้งมา ถ้ามีหลักฐานขอให้แจ้งมาที่ฝ่ายความมั่นคงโดยตรงที่เบอร์ 191 ,1159 , และ 1138 ได้ทันที

เมื่อถามถึงกรณีที่สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ พบว่าผลตรวจโควิดเป็นบวก 22 คนหลังจากฉีดวัคซีนวันที่ 29 เม.ย.แต่ทำไมยังติดเชื้อได้ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า นี่เป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้ไปด้วยกัน ซึ่งเราก็เคยบอกกันมาก่อนหน้านี้แล้วว่าการฉีดวัคซีนเป็นเรื่องที่ดีที่จะป้องกันโรค แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ป่วยไม่เจ็บ หรือถ้ามีการติดเชื้อก็เกิดขึ้นได้ แม้จะฉีดวัคซีน แต่จะทำให้การเสียชีวิตน้อยลงกว่าที่ไม่ฉีดวัคซีน เพราะฉะนั้นนักกีฬาวอลเลย์บอลก็จะเป็นบทเรียนให้เราว่าแม้ฉีดไปแล้วก็ยังติด เพราะฉะนั้นถ้าไม่ใส่หน้ากากอนามัย การไม่อยู่ในที่แออัด การเล่นกีฬาก็มีสารคัดหลั่งก็มีโอกาสที่จะติดเชื้อได้ ซึ่งเป็นหลักฐานทางวิชาการแต่ประโยชน์ของการฉีดวัคซีนคือติดแล้วไม่หนักหรือเสียชีวิต

เมื่อถามต่อถึงกรณีที่จะครบกำหนดมาตรการ 14 วันแล้วจะมีการเพิ่มมาตรการอีกหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า วันเดียวกันนี้ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (อีโอซี) ของกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการหารือในเรื่องการปรับระดับพื้นที่ของจังหวัดต่าง ๆ ซึ่งขณะนี้อยู่ในการพิจารณาขั้นตอนสุดท้าย โดยเบื้องต้นมีการวางไว้ 2-3 รูปแบบ แต่ยังมีข้อถกเถียงกันอยู่ในบางประเด็นทั้งในระดับของคณะกรรมการ และทีมที่ปรึกษา คาดว่าในวันที่ 14 พ.ค.นี้จะสามารถนำเสนอให้ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) พิจารณาได้ คงต้องใช้เวลาอีกสักวัน อาจจะภายในวันที่ 14 พ.ค.จะได้นำเสนอเข้ามายัง ศปก.ศบค. เพื่อพิจารณา และปรับระดับในเรื่องนี้ ถ้ามีความคืบหน้า จะรีบแจ้งให้ทราบ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขที่เกิดขึ้น ทุกอย่างสะท้อนภาพแนวโน้มยังติดเชื้อทรงตัวและเป็นแนวโน้มที่จะต้องร่วมมือกันควบคุมการให้เร็วที่สุด ลดการเดินทางไปในสถานที่แออัด จะเป็นหนทางที่นำไปสู่การควบคุมการติดเชื้อได้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) เจ้อเจียงเปิดตัว 'แพลตฟอร์มท่องเที่ยว' พลัง AI
กกล.บูรพา รวบ 2 สาวไทย อ้างถูกหลอกทำงานปอยเปต เบื้องหลังรับจ้างข้ามแดนเปิด "บัญชีม้า-สแกนหน้า" ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์
“50 ปีไม่มีแก่” คำนี้ไม่มีอยู่จริงสำหรับคุณอาร์ต วศิน วรรณพฤกษ์ ผู้บริหารรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง
ศน. ต่อยอดกิจกรรมเข้าวัดปฏิบัติธรรมวันธรรมสวนะ “ตักบาตรทางน้ำริมคลองข้าวตอก จังหวัดพิจิตร” ส่งเสริมพุทธศาสนิกชนเข้าวัด น้อมนำหลักธรรมดำเนินชีวิต
รมว.คลัง โต้ลือ "สหรัฐ" ตัดสินใจเก็บภาษีไทย 36% แจงเร่งยื่นข้อเสนอใหม่ก่อน 9 ก.ค. นี้
"ศิริโชค" อดีตสส.สงขลา โพสต์อัปเดต จับมือลอบเผารถยนต์ได้แล้ว เร่งขยายผลผู้จ้างวาน ไม่หวั่นอิทธิพลมืด
เหยื่อร้อง Top News ถูกตัวแทนนายหน้าประกัน โกงค่าสินไหมอุบัติเหตุกว่าแสน เชื่อทำเป็นขบวนการ
"จีน-เมียนมา-ไทย" เห็นพ้อง ร่วมมือยกระดับกวาดล้างเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ เมืองเมียวดี
“นันทิวัฒน์” ตอกย้ำเขมร ปราสาท “ตาเมือนธม” เป็นของไทยตั้งแต่อดีต ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน ตั้งแต่ยังไม่มีชื่อกัมพูชา
เจอแล้ว! “รั้วกั้น-หมุดหลักเขต” นับ 100 หมุด ชี้ชัด 3 ปราสาทอยู่ในแผ่นดินไทย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น