นายตำรวจอดีตคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงอดีตนายตำรวจติดตาม “น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี เผย การได้กลับเข้ามารับราชการอีกครั้งแถมยังมีตำแหน่งใหม่เป็นถึง รองผู้บังคับการกลุ่มงานผู้เชี่ยวชาญการข่าว กองบัญชาการตำรวจสันติบาล เป็นเรื่องปกติเพราะ“ผู้กำกับหนุ่ย” สามารถชี้แจงหลักฐานการถูกสอบได้ และตำแหน่งที่ได้รับเพราะมีอาวุโสตามหลักเกณฑ์
ชื่อของ “ผกก.หนุ่ย” พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัย อดีตนายตำรวจติดตาม “น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาอยู่ในโฟกัสของวงการสีกากีอีกครั้ง หลังมีคำสั่งให้ขยับเป็น รองผู้บังคับการกลุ่มงานผู้เชี่ยวชาญการข่าว กองบัญชาการตำรวจสันติบาล (รอง ผบก.กชข.)
ประเะด็นดังกล่าว วงการเมืองรู้กันดีว่า “ผกก.หนุ่ย” เป็นคนที่ตระกูล “ชินวัตร” ไว้ใจมากที่สุดคนหนึ่ง เนื่องจากเคยเป็นบอดี้การ์ดคู่ใจของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และให้มาดูแลอารักขา “ยิ่งลักษณ์” ในช่วงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วย
ผู้สื่อข่าวท็อปนิวส์ สอบถามนายตำรวจ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2561 มีภาพ “ผกก.หนุ่ย” อยู่ข้างกาย “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ที่สนามลุซนิกิ สเตเดียม ประเทศรัสเซีย ขณะเชียร์ฟุตบอลโลกรอบรองชนะเลิศระหว่างอังกฤษ-โครเอเชีย จนนำมาสู่การตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีดังกล่าว
แหล่งข่าวระบุว่า ในช่วงที่มีการสอบสวน พ.ต.อ.วทัญญู พบว่า มีการเดินทางออกนอกประเทศ 10 ครั้ง โดยมีการขออนุญาตผู้บังคับบัญชาในบางครั้ง และบางครั้งไม่มีการลาราชการตามระเบียบของทางราชการ แต่ไม่ได้ขาดราชการติดต่อกันจนเกินกำหนด แต่เมื่อมีผู้นำเรื่องนี้มาร้องเรียนก็ต้องมีการสอบสวน กระทั่งวันที่ 3 ธันวาคม 2562 มีคำสั่ง บช.ส.ที่ 68/2562 ลงวันที่ 22 เม.ย.2562 ให้ พ.ต.อ.วทัญญู ออกจากราชการ
ก่อนที่ พ.ต.อ.วทัญญู จะยื่นอุทธรณ์ ต่อ ก.ตร. ซึ่ง อนุกรรมการ ก.ตร.อุทธรณ์ ได้พิจารณามีมติให้ บช.ส.ยกเลิกคำสั่งปลด พ.ต.อ.วทัญญู ออกจากราชการ แล้วสั่งให้กลับเข้ารับราชการ ต่อมา บช.ส. มีคำสั่งยกเลิกคำสั่งปลดออกและลงโทษภาคทัณฑ์ โดยพ.ต.อ.วทัญญู กลับเข้าราชการวันที่ 20 ก.ค.2564
แหล่งข่าวระบุอีกว่า การเข้ามารับตำแหน่ง รองผู้บังคับการกลุ่มงานผู้เชี่ยวชาญการข่าว กองบัญชาการตำรวจสันติบาล (รอง ผบก.กชข.)ของ พ.ต.อ.วทัญญู นั้นเป็นไปตามลำดับอาวุโส เพราะเมื่อ อนุกรรมการ ก.ตร.พิจารณาให้กลับเข้ามารับตำแหน่งก็ต้องมีการพิจารณาเลื่อนขั้นตามปก ที่สำคัญ พ.ต.อ.วทัญญู อยู่ในเกณฑ์พิจารณาการเลื่อนขั้นในส่วนของ “ลำดับอาวุโส 33 เปอร์เซ็นต์” อยู่แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับผู้ที่รับ ราช การตำรวจ ส่วนตำแหน่งที่ได้รับนั้นในวงการตำรวจรู้ดีว่า ไม่ได้เป็นตำแหน่งสำคัญเพราะไม่ได้ควบคุมกำลังพล ไม่ได้มีลูกน้อง โดยต้องขึ้นตรงต่อผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล ซึ่งจะมอบหมายหน้าที่ให้ทำตามความเหมาะสม