เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 15 พ.ย.ที่จ.กระบี่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมคณะ ประกอบด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) เดินทางถึงตำบลไสไทย อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ท่ามกลางฝนตกโปรยปรายตลอดเวลาที่ปฏิบัติภารกิจ เพื่อเดินทางตรวจเยี่ยมศูนย์พัฒนาประสิทธิภาพการให้ความช่วยเหลือและสร้างความปลอดภัย ทางการท่องเที่ยวจ.กระบี่ พร้อมชมการสาธิตเหตุการณ์จำลองการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว
โดยนายกฯ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวถือเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อให้ประเทศปลอดภัยจากภัยพิบัติทั้งภัยธรรมชาติและภัยที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ ทั้งนี้ บ้านเมืองเจริญเติบโตขึ้นทุกวันและมีความเสี่ยงการท่องเที่ยวมีมากขึ้น ปัญหาที่เจอในวันนี้มีทั้งทางบกและทางทะเล ในการท่องเที่ยวทุกประเภทว่าจะดำเนินการส่งข่าวแจ้งเหตุกันอย่างไร จึงจะต้องทำงานแบบบูรณาการไม่ใช่ทำงานแบบของใครของมัน จึงต้องให้ความสำคัญในเรื่องเหล่านี้ รวมถึงเรื่องของเรือรั่วและน้ำมันรั่วจะต้องศึกษาปัญหาต่างๆเหล่านี้ ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลอยู่แล้ว แต่สิ่งสำคัญการทำงานจะต้องบูรณาการของทุกหน่วยงาน เราจะมีความพร้อมเพียงหน่วยงานเดียวไม่ได้ แต่จะต้องดูหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการกู้ภัยช่วยเหลือว่ายังมีหน่วยงานอะไรบ้างทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งตนยินดีที่ได้มีการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวเหล่านี้ และวันนี้ต่อไปอาจจะเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนได้เปิดสถานฝึกดังกล่าวเหล่านี้ขึ้นมาบ้าง เพื่อลดปัญหาในเรื่องงบประมาณของภาคราชการแต่สถานที่ฝึกจะต้องมีใบรับรองครบถ้วนสมบูรณ์ เหมือนกับในต่างประเทศที่มีมาตรฐาน ทั้งนี้ภัยต่างๆที่เกิดขึ้นจะประมาทไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงนี้มีการเปิดประเทศ เราไม่ต้องการที่จะถอยหลังกลับไปที่เก่าอีกเป็นอันขาด สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการเตรียมความพร้อมล่วงหน้า
นายกฯ กล่าวว่า ตอนนี้อยากฝากว่าบ้านเมืองเจริญเติบโตไปมากแล้วและที่ตนประกาศเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ทุกคนทราบดีว่าเป็นการประกาศบนพื้นฐานความเสี่ยงสูงสุดของตน ก็ต้องขอบคุณคนไทยที่เกี่ยวข้อง ทั้งข้าราชการ ท้องถิ่น ทหาร ตำรวจ และประชาชน ที่ร่วมมือจนเกิดวันนี้ขึ้นมาได้ และทราบว่านักท่องเที่ยวแสนกว่าคนจองมาเที่ยวประเทศไทย และคาดว่าจะมีมากกว่านี้ในหลายแสนและหลักล้านในโอกาสต่อไป ตนพูดในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค และการประชุมอาเซียนที่ผ่านมา เรากำลังเป็นผู้นำในการเปิดประเทศทุกอย่างจะดีหรือไม่ดีอยู่ที่เราทุกคนจะช่วยกันทั้งในเรื่องการฉีดวัคซีน การดูแลรักษาผู้ป่วยเจ็บ และวันนี้วัคซีนก็ไม่ได้ขาดแคลนจะต้องฉีดให้ทั่วถึง แต่ถ้าเลือกกันมากก็จะทำให้เสียโอกาส ขอให้ประสบความสำเร็จในการทำงานทุกคนต้องปลอดภัน ขอให้เอาแบบการฝึกของต่างประเทศมาดูด้วย เพื่อพัฒนาต่อไป มีภาพยนต์ตัวอย่างหลายเรื่อง ถือเป็นสิ่งที่ดีที่เกิดขึ้นในประเทศไทย
จากนั้น นายกฯพบปะสมาคมกลุ่มแม่บ้านจ.กระบี่ที่มารอให้การต้อนรับ พร้อมกล่าวย้ำให้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเชิญชวนให้ร้องเพลงบ้านเกิดเมืองนอนร่วมกัน โดยนายกฯ กล่าวว่า วันนี้มาเยี่ยมประชาชนภาคใต้ฝั่งอันดามัน คิดถึงเสมอมา และดีใจที่ได้เห็นการแต่งกายในชุดท้องถิ่น ประเทศไทยมีความหลากหลายอัตลักษณ์ประเพณีเป็นสิ่งสำคัญ ยืนยันว่าประเทศไทยมีศักยภาพในการท่องเที่ยว และการเปิดประเทศแม้มีความท้าทายสูง ประกาศแล้วต้องทำให้ได้ โดยเราจะต้องทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดีเตรียมรับความพร้อมกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นและแก้ปัญหาให้ทันเวลา ไม่เช่นนั้นทุกอย่างจะกลับไปที่เดิม วันนี้ดีใจเห็นทั้งคนรุ่นสาว รุ่นเด็ก และเยาวชน พร้อมกันนี้ทราบว่ามีการฉีดวัคซีนเกือบครบ 100% แล้ว ขอให้ฉีดวัคซีนไม่ต้องกลัว เพราะเขาฉีดกันทั้งโลกและWTO มีการรับรองวัคซีนแล้วทุกตัว ฉีดเข็ม1-2 ภูมิขึ้นระดับหนึ่ง และฉีดเข็ม 3 ภูมิขึ้นสูง ซึ่งในปี 2565 ถ้าโควิด-19 ยังอยู่เราก็ฉีดแค่เข็มเดียว เหมือนไข้หวัดใหญ่ ไม่ต้องไปกลัวอะไร ต้องปลอดภัยไว้ก่อน เพื่อไม่ให้มีอาการรุนแรงไม่เสียชีวิต เมื่อวัคซีนครบเศรษฐกิจจะดีขึ้น สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก ถ้าไม่ฉีดวัคซีนคงจะมีมาตรการทางสังคม โดยวันข้างหน้าจะมีพื้นที่สีขาว สีฟ้า จึงขอให้ไปฉีดฉีดวัคซีนกัน ตอนนี้คนฉีดวัคซีนน้อยลงไม่ทราบว่าเพราะอะไร
อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้นายกฯได้พูดคุยกับเด็กนักเรียนจากโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ว่า ขอให้สงสัยในเรื่องที่เป็นประโยชน์อย่าไปสงสัยในเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์กันมากนักวันนี้รัฐบาลส่งเสริมธุรกิจสตรี สนับสนุนเอสเอ็มอีเกิดความเข้มแข็ง รัฐบาลดูแลทุกกลุ่มวันหน้าโตมาจะมาแทนลุง วันนี้ลุงคิดให้ล่วงหน้า บางอย่างต้องใช้เวลาศึกษารับฟังความคิดเห็น ถ้าออกมาไม่ได้ก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งหมด เพราะเราเป็นประชาธิปไตยต้องรับฟังประชาพิจารณ์ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ อะไรที่เป็นประโยชน์กับพื้นที่ก็ดำเนินการ แต่ถ้าไม่เห็นด้วยอยู่ตลอดมันก็จะไปไม่ได้ อาจารย์ต้องสอนให้เด็กนักเรียนมีกระบวนการในความคิด วิสัยทัศน์และเด็กทุกคนต้องมีกระบวนการคิดในสมองของตนเองและมีวิสัยทัศน์ นายกฯเองก็มีกระบวนการในความคิด ซึ่งต้องมีขั้นตอนนักเรียนต้องเรียนรู้และอ่านหนังสือให้เยอะบ้านเมืองเราไม่ได้ด้อยกว่าใคร คนของเราก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร เพียงแต่ต้องคิดให้เป็นและทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง อย่าต้องเคารพในสถาบันหลักของชาติประเทศไทยนั้นคือประเทศไทย
“ผมย้ำกี่ทีกี่ทีวันนี้คือประเทศไทย เกิดที่นี่หากินที่นี่และตายกันที่นี่ เราอย่าทำลายสิ่งที่มีอยู่แล้ว สร้างสิ่งที่มีอยู่แล้วไปสู่การพัฒนาที่มีในอนาคตจะดีกว่า ผมฝากไว้แค่นี้ ขอให้เข้าใจด้วยข้าราชการทุกคนก็ต้องพัฒนา และเรียนรู้เราจะทำแบบเดิมไม่ได้ หากไม่มีงบประมาณก็จะต้องเรียนรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรนายกฯก็ไม่ได้เป็นนายกฯ มาตั้งแต่เกิด ที่เป็นทุกวันนี้พัฒนามาจากทหารและคิด ปรึกษาหารือกับคณะรัฐมนตรี(ครม.)และส.ส.ที่เป็นผู้แทนของประชาชนอะไรที่เสนอมา ผมก็ดูแลแต่งบประมาณเป็นเรื่องของครม.ซึ่งมี 20 กว่ากระทรวงที่จะต้องทำงาน ทั้งงบกลาง งบฟังชั่น ที่จะต้องดูแลในหลายส่วนไม่ใช่เงินน้อยๆ แต่จะต้องใช้ตามระเบียบ ก็ต้องพยายามใช้อย่างเต็มที่และระมัดระวัง เราต้องทำให้ประเทศมีรายได้สูงขึ้น การค้าขายนำไปสู่ระบบออนไลน์ ทุกอย่างเริ่มที่ตัวเราใช้ปัญาเศรษฐกิจพอเพียง มีเงินมากใช้มากมีเงินน้อยใช้น้อยมีเหตุผลในการใช้จ่ายและต้องมีภูมิคุ้มกันโดยมีคุณธรรม จริยธรรมไม่ส่งเสริมกระบวนการทุจริตทั้งสิ้น นายกฯพร้อมรับฟังใครทุจริตขอให้บอกมาไม่ต้องกลัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ นายกฯได้ใช้รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าอัลพาร์ด สีดำ หมายเลขทะเบียน กฉ 888 กระบี่
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่จ.กระบี่ครั้งนี้ นายกฯได้มอบหมายให้รองนายกฯ ทั้ง 6 คนลงพื้นที่จังหวัดในความรับผิดชอบเพื่อติดตามงานตามนโยบาบของรัฐบาลด้วย อาทิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ลงพื้นที่จ.ระนอง และจ.กระบี่ เพื่อติดตามผลการดำเนินงานการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล และพบปะผู้ประกอบการและแรงงานในการมีส่วนร่วมป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 รวมถึงเป็นประธานพิธีเปิดแหล่งท่องเที่ยว และเยี่ยมชมบ่อน้ำแร่ร้อนพรรั้ง อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว จ.ระนอง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ลงพื้นที่จ.พังงา เพื่อติดตามโครงการประกันรายได้สินค้าเกษตร ผู้ปลูกยางพาราและปาล์มน้ำมัน และพิธีมอบเช็คชำระหนี้และมอบโฉนดที่ดินของกองทุนฟื้นฟูช่วยเหลือเกษตรกรให้แก่เกษตรกรจังหวัดพังงา และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯลงพื้นที่จ.กระบี่ เพื่อติดตามการแก้ปัญหาที่ดินและที่อยู่อาศัยภาคใต้ และเยี่ยมชมวิถีชุมชนบนพื้นฐานเศรษฐกิจจากทรัพยากรในท้องถิ่น