โดย ปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา
คนอ่านข่าววันนี้อ่านข่าวว่าอาเซียนจะคุยกับแคนาดาเรื่อง FTA หลังจากโปรยหัวข่าว เขาก็วิเคราะห์เจาะลึกว่าจะคุยเรื่องอะไรกันบ้าง เราจะได้ประโยชน์อะไร จะเสียประโยชน์อะไร …
เอ่อ … จริง ๆ ก็แค่ “คิดจะคุย” ยังไม่ได้คุยเลย … น่าจะบอกเสียหน่อยว่าเป็นความเห็นส่วนตัว คนจะได้ไม่สับสน ฟังเหมือนไปคุยมาแล้วยังไงยังงั้น
แต่ที่พูดเรื่องนึงนั้นน่าสนใจ เขาพูดว่าที่เราจะเสียเปรียบเพราะเราขาด “ความสามารถในการแข่งขัน” รัฐต้องสร้างความสามารถในการแข่งขันในด้านต่าง ๆ โดยผู้ต้องหาลำดับที่ 1 คือกฎหมายล้าสมัย เป็นแพะตลอดกาล
จะว่าไม่จริงก็คงไม่ได้ แต่กฎหมายก็ไม่ใช่อุปสรรคในการสร้างความสามารถในการแข่งขันทุกเรื่องไป ยกตัวอย่างสินค้าเกษตร ข้าวก็ดี ยางก็ดี ปาล์มก็ดี ผลไม้ก็ดี ที่ขายแข่งกับใครไม่ได้ จนต้องประกันราคาบ้าง จำนำบ้าง สลับไปสลับมาอยู่อย่างนี้ ไม่ใช่กฎหมายสักหน่อยที่ไปด้อยความสามารถในการแข่งขัน … “ต้นทุนการผลิต” และ “คุณภาพ” ต่างหากที่มีส่วนสำคัญที่ทำให้แข่งขันไม่ได้
ส่วนตัวก็เห็นพูดถึงสองเรื่องนี้มาตั้งแต่แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 1 แล้วว่าจะลดต้นทุนการผลิต พัฒนาสายพันธุ์ เพิ่มปริมาณและคุณภาพของผลผลิต แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม value added
จนบัดนี้จะเข้าแผน 13 แล้ว ซึ่งก็คงไม่แคล้วจะพูดเรื่องเดียวกันนี้ซ้ำ ๆ อีกเหมือนแผ่นเสียงตกร่องเป็นแน่ และคงเพิ่มวลีทองเข้าไปด้วยว่า “ทำน้อยได้มาก” … แต่เมื่อไรจะลงมือทำจริงจังเสียทีก็ไม่รู้ พอไม่ทำ มันก็แข่งกับใครไม่ได้ จะทำน้อยได้มากได้ยังไง มีแต่ “ทำมากได้น้อย” … งบประมาณก็มีจำกัด เอามารับจำนำ เอามาประกันราคา กันทุกปี ทุ่มเทงบประมาณกับสองเรื่องนี้มาน่าจะหลายล้าน ๆ บาทแล้ว ไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย แต่ป๋าก็ยังทุ่มกันทุกปีต่อไป
ถ้าทำ ex post evaluation of policy ส่วนตัวผมเห็นว่านโยบายเรื่องประกันราคากับจำนำราคานี่จึงน่าจะเลิก ๆ ไปได้แล้ว เสียเงินไปเปล่า ๆ ไปมุ่งลดต้นทุนการผลิต เพิ่มศักยภาพการผลิต พัฒนาสายพันธุ์ พัฒนาผลิตภัณฑ์ เปิดตลาดใหม่ น่าจะเป็นรูปธรรมมากกว่า
แต่อย่างว่าแหละ พอไม่มีการจำนำ ไม่มีประกันราคา ขบวนคาราวานก็คงจะพากันออกเดินให้เอิกเกริก … พี่น้องงงง พวกเราไม่มีจะกินอยู่แล้ว ยังไม่ช่วย คราวหน้าอย่าไปเลือก … ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างหนึ่งว่าคนของเราเองก็ไม่อยากที่จะพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของตัวเองเหมือนกัน เพราะถ้าทำคงเหนื่อยเพิ่ม อยู่แบบเดิม ๆ นี่แหละ ราคาตกก็ยกขบวนกันจะก็ได้ตามที่ต่อรองแล้ว
วิธีคิดกันแบบนี้นี่เองที่ทำให้เราต้องอยู่กับจำนำและประกันราคาต่อไป ซึ่งมันเป็นส่วนหนึ่งของ “กับดักความยากจน”
///