นายฟุมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวที่การประชุมคณะทำงานพิเศษว่า การรักษาระบบการแพทย์ที่อิงสถานการณ์จำลองอันเลวร้ายที่สุด และการขยายการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จะทำให้เราสามารถดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมต่อไปได้ แม้โรคร้ายจะยังระบาดอยู่
รัฐบาลญี่ปุ่นบรรลุข้อตกลงกับเมอร์ค แอนด์ โค (Merck & Co) บริษัทเวชภัณฑ์สัญชาติอเมริกัน ในการจัดซื้อยาโมลนูพิราเวียร์ ซึ่งเป็นยาเม็ดรับประทาน จำนวน 1.6 ล้านโดส โดยรัฐบาล มีแผนจะจัดส่งยาดังกล่าวไปยังบ้านของผู้ป่วยนอกจากนี้ รัฐบาลยังจะจัดสรรเงิน 2 พันล้านเยน (ราว 580 ล้านบาท) เพื่อพัฒนายารักษาโรคโควิด-19 แบบรับประทานในประเทศด้วย
แผนรับมือโรคโควิด-19 ยังรวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถรักษาโรคของโรงพยาบาลให้เพียงพอสำหรับผู้ป่วยประมาณ 37,000 รายภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายน โดยญี่ปุ่นมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สูงสุดในช่วงฤดูร้อน ผู้ป่วยจำนวนมากต้องพักฟื้นที่บ้าน เพราะโรงพยาบาลมีเตียงจำกัด
ทั้งนี้ หากเชื้อไวรัสโคโรนาชนิดกลายพันธุ์ ที่แพร่ระบาดในญี่ปุ่นสามารถระบาดได้มากกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมถึง 3 เท่า รัฐบาลกลางจะเรียกร้องให้พื้นที่ที่ไม่ได้รับผลกระทบรุนแรง จัดส่งบุคลากรการแพทย์เข้าไปช่วยเหลือยังพื้นที่ที่มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น