นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยกรณีหญิงไทยเสียชีวิตที่อินเดียจากการติดเชื้อโควิด-19 ว่า สถานเอกอัครราชทูตไทยที่กรุงนิวเดลีได้รับการติดต่อจากญาติของหญิงไทยคนดังกล่าวแล้ว ซึ่งติดเชื้อโควิด- 19 อาการสาหัส มีระดับออกซิเจนในกระแสเลือดอยู่ที่ประมาณ 50 – 70 รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเมืองลัคเนาว์ รัฐอุตตรประเทศ ขอให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ช่วยส่งตัวกลับมารักษาที่ประเทศไทย โดยเที่ยวบินพิเศษวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ประสานโรงพยาบาลเพื่อหารถพยาบาลมาส่งผู้ป่วยที่กรุงนิวเดลี พร้อมทั้งติดต่อกับแพทย์ที่ดูแลเพื่อให้ความเห็นเป็นลายลักษณ์อักษรว่าสามารถเดินทางได้
“ทางสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดหารถพยาบาลเตรียมไว้แล้ว แต่เช้าวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา ญาติได้แจ้งสถานเอกอัครราชทูตฯ ว่าได้โทรศัพท์สอบถามหญิงไทยรายดังกล่าวแล้วและยังไม่ขอเดินทางกลับ อยากขอดูอาการตนเองไปก่อน สถานทูตฯ แจ้งไปว่าหากมีประเด็นเร่งด่วนที่ประสงค์ให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ช่วยเหลืออีกสามารถติดต่อได้ทุกเมื่อ จนกระทั่งวันที่ 3 พฤษภาคม สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้รับแจ้งว่าหญิงไทยรายดังกล่าวเสียชีวิตแล้ว สาเหตุจากภาวะพร่องออกซิเจนในเลือดจากการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ดูแลประสานเพื่อออกมรณบัตรอินเดียและฌาปนกิจตามความประสงค์ของญาติ” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว
นายธานี กล่าวว่า สถานเอกอัครราชทูตฯ จะดำเนินการอย่างเต็มที่ ตามความประสงค์ของญาติที่ต้องการรับอัฐิและของใช้ส่วนตัวกลับมาในโอกาสแรก แม้ว่ามีแนวโน้มที่กระบวนการทั้งหมดจะใช้เวลาพอสมควร เนื่องจากหลายเมืองในอินเดียรวมถึงเมืองลัคเนาว์อยู่ในภาวะปิดเมือง ทำให้ขนส่งพัสดุไม่ได้ และผู้ดูแลไม่สามารถออกนอกเมืองได้ รวมถึงขั้นตอนการออกมรณบัตรใช้เวลานาน ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้แจ้งให้ญาติถึงเหตุผลข้างต้นแล้ว