วันที่ 12 พ.ย. 2564 ที่บริเวณน้ำตกหนานหินท่าหา ต.กำโลน ต.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วย ปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราช ปภ.จังหวัดนครศรีธรรมราช ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช นายวีรศักดิ์ บัวศรี นายอำเภอลานสกา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำป่าต้นน้ำคีรีวง เพื่อสำรวจจุดเสี่ยงภัยที่เกิดเหตุกรณีเด็กถูกน้ำซัดจมเสียชีวิตเมื่อวานนี้ (10 พ.ย.) เพื่อเป็นการวางแผนหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวต้องย้อนไปดูว่าสถานการณ์เมื่อวานมีปริมาณฝนตกลงมาค่อนข้างมากประมาณ 165 มิลลิเมตร ในพื้นที่อำเภอลานสกา ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำที่เราต้องเฝ้าระวัง ทั้งคลองกำโลน เมื่อฝนตกประมาณ 125 มิลลิเมตร เราก็มีการเตือนภัยกันแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เตือนมารอบนึง แต่พอมาถึง 125 มิลลิเมตร ก็เตือนอีกรอบนึง ให้เห็นว่าภัยใกล้จะถึงปริมาณฝนที่ตกลงมา 165 มิลลิเมตร ซึ่งจะทำให้เกิดน้ำหลาก น้ำเชี่ยวไหลแรง ซึ่งการเฝ้าระวังในพื้นที่อำเภอลานสกา ตั้งแต่คลองกำโลน ไปออกคลองท่าดี ต้องมีการเตือนภัยเพิ่มขึ้นใน 3 เรื่อง คือ 1. จัดชุดคอยเหตุ แจ้งเตือนภัย 2. ปักป้ายให้เห็นว่าจุดไหนเป็นจุดอันตราย เสี่ยงน้ำหลาก น้ำล้น และ 3. การซ่อมหรือป้องกันน้ำท่วม อาทิ การจัดวางกระสอบทราย และขอชื่นชมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชาวบ้านในพื้นที่ได้มาช่วยกันทำแนวกั้นตลิ่ง ซึ่งจากการลงพื้นที่จะสังเกตเห็นว่าปริมาณน้ำขณะนี้ ยังไม่ล้นตลิ่ง แต่เนื่องจากยังมีฝนตก และลักษณะการไหลของน้ำก็จะไหลเชี่ยวแรง ยังเป็นอันตราย ต้องเฝ้าระวังเด็กเล่นน้ำ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ เป็นลำดับแรก “ จุดต่อไปที่ต้องเฝ้าระวัง คือ พื้นที่ในเมือง ซึ่งขณะนี้มวลน้ำป่าต้นน้ำคีรีวงบางส่วนไหลไปสู่คลอง 5 สาย ของจังหวัดนครศรีธรรมราช แล้ว โดยคลองท่าดี จะไหลไปสู่นาพรุ โพธิ์เสด็จ ก็จะกระจายไป 2 คลองหลัก คือ คลองท่าเรียน ซึ่งจะไหนไปสู่คลองราเมศวร์ หรือ คลองท่าซัก แต่คลองหลัก ๆ ที่ไหลเข้าสู่ตัวเมือง คือ คลองนครน้อย หรือคลองหน้าเมือง จะไหลสู่ปากนคร ซึ่งจากการลงพื้นที่สำรวจปริมาณน้ำเมื่อคืนนี้ประมาณ 1 ทุ่ม ซึ่งจะเป็นช่วงจังหวะที่น้ำทะเลหนุนสูงสุด ขณะที่น้ำทะเลหนุนสูงสุดแต่ระดับน้ำยั้งไม่ล้นตลิ่งยังมีตลิ่งห่างประมาณ 1 เมตร ขณะนี้แม้ว่าน้ำทะเลหนุนการระบายน้ำยังสามารถระบายน้ำได้ ซึ่งสามารถรับปริมาณน้ำได้ที่ระดับตลิ่ง ประมาณ 3.20 เมตร ขณะนี้ระดับน้ำอยู่ที่ 2.36 เมตร ตอนนี้เราก็แจ้งเตือนภัยกันแล้ว แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่า หากปริมาณน้ำเพิ่มเติมขึ้นมา ก็อาจแจ้งเตือนประชาชนอพยพออกจากบ้านเรือน”
นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามต้องดูปริมาณน้ำที่ไหล แม้ว่าฝนไม่ตก หากต้นน้ำลานสกามีปริมาณน้ำมาก ก็ต้องแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่พื้นที่โดยรอบคลองนครน้อยซึ่งปริมาณเริ่มไหลเข้าสู่คลองนครน้อย เพื่ออพยพ เป็นลำดับแรก รวมถึงการเตรียมระบายน้ำออกสู่ทะเล โดยชลประทานจะมาบูรณาการร่วมในการบริหารจัดการทั้งแจ้งสถานการณ์ป่าต้นน้ำ น้ำล้นตลิ่ง การเช็คระดับน้ำในพื้นที่ในเมือง ในระบบการช่วยเหลือระงับภัย ปภ.จะต้องบริหารจัดการในภาพรวมชี้จุดวางเครื่องสูบน้ำ กระสอบทราย จากนั้นเป็นการเตือนเตรียมความพร้อมในส่วนของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ต้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำระบายน้ำตลอดเวลาในระยะนี้”.
ไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครศรีธรรมราช