ฟ้องศาลเอาผิด ตร.ชดใช้ 3 ล้าน สลายม็อบหน้ารัฐสภา

“ลูกเกด-อังคณา”พร้อมผู้เสียหายรวม 9 คน ฟ้องศาลแพ่ง เอาผิด สตช.-ผบ.ตร. เหตุสลายม็อบหน้าสภา 17 พ.ย. 63 เรียกค่าเสียหาย 3 ล้านบาท

ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด แกนนำม็อบราษฎร และนางอังคณา นีละไพจิตร ตัวแทนกลุ่มปกป้องสิทธิมนุษยชน และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการสลายม็อบที่หน้าอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2563 จำนวน 9 คน มายื่นฟ้องทางแพ่งกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายต่อเสรีภาพการชุมนุม และสิทธิในชีวิตและร่างกาย ค่ารักษาพยาบาล จำนวน 3,020,147 บาท และขอให้กำหนดมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปิดกั้นขัดขวาง และใช้กำลังสลายการชุมนุมโดยไม่เป็นไปตามกฎหมายการชุมนุมสาธารณะและหลักสากล

นางอังคณา เปิดเผยว่า วันนี้มาฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กรณีใช้กำลังสลายการชุมนุม ซึ่งมองว่าเหตุการณ์ขณะนั้นยังไม่มีผู้ชุมนุม และยังมีการสัญจรไปมาตามปกติ แต่เจ้าหน้าที่ใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูง ทำให้ประชาชนในบริเวณนั้นได้รับผลกระทบ และถือเป็นการสลายการชุมนุมตั้งแต่ยังไม่ใช่เวลานัดหมายชุมนุม ซึ่งผู้ฟ้องคดีทั้งหมดได้รับบาดเจ็บรวม 9 ราย จึงมาขอความเป็นธรรมในวันนี้ โดยค่าเสียหายทั้งหมด เฉลี่ยคนประมาณ 3 แสนบาท และมีผู้เสียหาย 1 ราย ที่ได้รับบาดเจ็บมากที่สุด เรียกค่าเสียหาย 4 แสนกว่าบาท โดยได้นำหลักฐานเป็นภาพถ่ายมาและมีใบรับรองแพทย์ แนบมาด้วย

ขณะที่นางสาวชลธิชา กล่าวว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว มีการประชุมสภา และยังไม่ได้เริ่มมีการชุมนุม แต่ตำรวจปิดกั้นสิทธิเสรีภาพ ทั้งการตั้งแนวรั้วกันพื้นที่ การใช้น้ำแรงดันสูงสลายการชุมนุมซึ่งการกระทำดังกล่าวมองว่า ผิดหลักสากล และผิดต่อหลักกฎหมาย และในวันดังกล่าวไม่ได้มีการแจ้งหรือเจรจา เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงความรุนแรง ทำให้มีทั้งผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และบาดเจ็บสาหัส โดยการฟ้องในวันนี้จะเป็นการเรียกค่าใช้จ่ายการได้รับบาดเจ็บและค่าเสียหายที่ถูกละเมิดสิทธิการเดินทาง รวมถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการถูกขัดขวางการใช้สิทธิและเสรีภาพ เพราะมองว่าการที่ตำรวจตั้งเครื่องกีดขวางการใช้สิทธิในการชุมนุมนั้น ความเสียหายได้เกิดขึ้นแล้ว อย่างไรก็ตามก่อนชุมนุม เราได้แจ้งการชุมนุมแล้ว และจากเหตุการณ์ดังกล่าวตนเองกับผู้ชุมนุมประมาณ 6 คน ถูกดำเนินคดีข้อหา พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะและฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นพนักงานอัยการว่าจะฟ้องหรือไม่

ด้านอัมรินทร์ สายจันทร์ ทนายความ กล่าวว่า การมายื่นฟ้องวันนี้เพื่อยืนยันว่า การกีดขวางการใช้สิทธิเสรีภาพการชุมนุมจะต้องได้รับการตรวจสอบจากกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ได้รับการเยียวยา และเป็นการตรวจสอบการใช้อำนาจ เพื่อไม่ให้เกิดการขัดขวางการชุมนุมเกิดขึ้นอีก และคาดหวังว่าคดีนี้จะเป็นบรรทัดฐานให้กับกรณีต่างๆ ซึ่งในวันนี้ก็จะขอให้ศาลกำหนดมาตรการว่าต่อไปจะต้องไม่มีการใช้กำลังเข้ามาควบคุมดูแลการชุมนุมสาธารณะอีก และสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน โดยยืนยันว่า การชุมนุมในวันที่ 17 พ.ย. 2563 เป็นการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ

อย่างไรก็ตาม คดีนี้เคยยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง แต่ศาลปกครองกลางไม่รับฟ้อง จึงอยู่ระหว่างการอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ทำให้ตัดสินใจถอนฟ้อง เพราะมองว่ามีความคลุมเครือของเขตอำนาจศาล และมายื่นศาลแพ่งแทนในวันนี้ เพราะทางอายุความการจะยื่นฟ้องคดีใหม่ต่อศาลยุติธรรมจะต้องยื่นฟ้องภายในระยะเวลา 1 ปี นับจากวันที่เกิดเหตุ

ทั้งนี้ ศาลแพ่งได้รับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ พ.5341/2564 และนัดพิจารณาคดีครั้งแรกวันที่ 8 ก.พ. 2565 เวลา 09.00 น.

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ฮุนมาเนต" นายกรัฐมนตรีกัมพูชา แสดงความอาลัยการสวรรคต "สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง" ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย
วัดนางพระยา ประกาศยกเลิกงานลอยกระทง ประจำปี 2568 เพื่อแสดงความอาลัย
"กษัตริย์จิกมี" แห่งภูฏาน โพสต์แสดงอาลัย การเสด็จสวรรคตของ "สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง"
ชาวเบตงร่วมแสดงความอาลัย “สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง” รำลึกพระมหากรุณาธิคุณ เมื่อครั้งเสด็จเยี่ยมราษฎรปี 2519
ส.ไต้หวัน ยืนสงบนิ่ง แสดงความอาลัย ก่อนเปิดงานเทศกาลกินเจ ฉบับไต้หวัน
“อนุทิน” ลุยกระบี่ มอบนโยบายท้องถิ่น ย้ำ “กระบี่ต้องโกอินเตอร์” เมืองปลอดภัย ปลอดสิ่งเสพติด สร้างรายได้ยั่งยืน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​