No data was found

สุดารัตน์ จี้รัฐนำเสนอนโยบายลดก๊าซเรือนกระจก อย่างเป็นรูปธรรม

กดติดตาม TOP NEWS

กรุงเทพฯ 12 พ.ย.- สุดารัตน์ จี้รัฐนำเสนอนโยบายลดก๊าซเรือนกระจก หากไม่มีนโยบายที่เป็นรูปธรรมหวั่นถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือกีดกันทางการค้าในอนาคต

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย โพสต์เพชบุ๊ก ว่า พรรคไทยสร้างไทย ตั้งเป้าขับเคลื่อนประเทศ สู่สังคม Carbon Neutrality อย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการสนับสนุนธุรกิจ SMEs ในการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อเศรษฐกิจสีเขียว หนุนใช้รถยนต์ไฟฟ้าให้แพร่หลายในประเทศ ปรับแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และรณรงค์ใช้พลังงานทางเลือก”

ประธานพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า ในการแสดงวิสัยทัศน์ที่ฟอรั่ม “ท้าเปลี่ยนประเทศไทย” ดิฉันได้จุดประเด็นในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งรัฐบาลปัจจุบัน ประกาศจะนำประเทศไทยไปสู่เป้าหมายสังคม Carbon Neutrality ในปี 2050 ทว่ายังไม่มีแนวนโยบายอย่างเป็นรูปธรรมนำเสนอสู่สังคม แต่พรรคไทยสร้างไทย มีคำตอบให้แล้วค่ะ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นปัญหาที่สำคัญที่สุดในโลก ก่อให้เกิดภัยทางธรรมชาติที่มีความถี่มากขึ้น และทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจมหาศาล กรณีของไทย วิกฤติน้ำท่วมในปี พ.ศ.2554 ซึ่งติดอันดับมหันตภัยธรรมชาติที่สร้างความเสียหายเป็นอันดับ 4 ของโลกแล้ว ผู้เชี่ยวชาญยังระบุว่า วิกฤตน้ำท่วมในครั้งนั้น เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ดิฉันมีความกังวลว่า ประเด็นการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จะถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการกีดกันทางการค้าแบบใหม่ของประเทศพัฒนาแล้ว ในอดีตที่ผ่านมา ไทยเคยถูกกีดกันการค้าในอุตสาหกรรมประมง เนื่องจากมีการใช้แรงงานเด็ก และมีการละเมิดสิทธิแรงงานต่างด้าว ซึ่งเข้าข่าย IUU Fishing (Illegal Unreported and Unregulated Fishing) ทำให้ประเทศไทยต้องเกิดความเสียหาย 3 ถึง 4 แสนล้านบาท ซึ่งกระทบชาวประมงไทย และผู้ประกอบการในห่วงโซ่อุปทานอย่างมหาศาล ล่าสุด นายกรัฐมนตรีได้ร่วมงาน UN Climate Change Conference (COP26) โดยให้สัญญาว่าจะขับเคลื่อนเป้าหมายเพื่อเข้าสู่สังคม Carbon Neutrality จากปี ค.ศ.2065 เป็น 2050 แต่ปัญหาคือ ประเทศไทย ยังไม่มีการเตรียมตัวอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าวให้สำเร็จ

ประธานพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า ประการแรก รัฐต้องวางโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) โดยสนับสนุนธุรกิจรายเล็กให้สามารถเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีได้อย่างราบรื่น ซึ่งต้องสร้างแรงจูงใจทางเศรษฐกิจ ประกอบด้วย เงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) เงินช่วยเหลือให้เปล่า และมาตรการลดหย่อนทางภาษี ส่วนธุรกิจขนาดใหญ่ โดยเฉพาะบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ พวกเขามีศักยภาพมากพอที่จะขับเคลื่อนไปสู่การผลิตสีเขียวได้มากกว่า ดังนั้น จึงให้ประโยชน์ในมาตรการลดหย่อนทางภาษีอย่างเดียว

ประการที่สอง รัฐบาลต้องมีความจริงใจที่จะสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า (EV car) โดยไม่ตั้งแง่ที่จะบังคับให้มีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศ เพื่อผลประโยชน์ทางภาษีอย่างเดียว หากรถยนต์ไฟฟ้ายังมีไม่มากพอ การสร้างระบบการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั่วประเทศ ย่อมเป็นไปได้ยาก ดังนั้น จึงจำเป็นต้องลดภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้มีการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าให้แพร่หลาย ประกอบกับการส่งเสริมให้มีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น หากความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าในไทยมีมากขึ้น ย่อมดึงดูดการลงทุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทยได้ ประการที่สาม ธุรกิจขนาดใหญ่ และภาครัฐ ต้องเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนไปสู่สังคม Carbon Neutrality ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องออกกฎหมายควบคุมก๊าซเรือนกระจก และต้องมีการกำหนดแผนการลดก๊าซเรือนกระจกให้ชัดเจน

ประการที่สี่ รัฐบาลต้องเตรียมพร้อมในการลดบทบาทของอุตสาหกรรมที่ปล่อยคาร์บอนสูง โดยจำเป็นต้องเปลี่ยนโครงสร้างการผลิตไฟฟ้าที่ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมฟอสซิล ให้เป็นพลังงานทางเลือกมากขึ้น รัฐบาลต้องลดอุปสรรคในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทางเลือก อาทิ พลังงานแสงอาทิตย์ให้ครัวเรือนสามารถขายไปเข้าสู่ Grid ของการไฟฟ้าได้สะดวกมากขึ้น โดยไม่ต้องเกรงกลัวว่าการไฟฟ้าจะสูญเสียรายได้จากการผูกขาดการผลิตไฟฟ้า

ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่อยู่ในประชาคมโลก หลีกหนีไม่พ้นความรับผิดชอบต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ การไม่ริเริ่มที่จะลดก๊าซเรือนกระจกในประเทศอย่างจริงจัง นอกจากจะไม่ช่วยแก้ไขปัญหาความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศแล้ว ในอนาคต เราอาจจะถูกลงโทษจากประเทศพัฒนาแล้ว หากไม่สามารถปฏิบัติตามเกณฑ์ที่พวกเขาได้กำหนด ดิฉันจึงเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งนำเสนอแนวนโยบายเพื่อรับมือกับวิกฤติดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อไม่ให้เกิดเป็นปัญหาต่อลูกหลานในอนาคต

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"อาจารย์อุ๋ย ปชป." ชี้ชัด เศรษฐกิจพอเพียงไม่ใช่แค่อยู่กระท่อม ปลูกผัก ซัดกลับคนบิดเบือน
เมียนมา ‘อากาศร้อนจัด’ กระทบรายได้คนขับแท็กซี่
ประมวลภาพโมเมนต์สำคัญ ‘สีจิ้นผิง-มาครง’
เจ้าคณะฯ สั่งปลดแล้ว "เจ้าอาวาส" เคลมเด็กหนุ่ม เผยยังสอบวินัยสงฆ์ไม่ได้ เหตุหายตัวไร้เงา
รัสเซียเยาะเซเลนสกี้แอบอ้างพระเจ้าเป็นพันธมิตรยูเครน
เดือดกว่านี้ไม่มีแล้ว "อ.สุวินัย" จัดหนัก "โน้ส อุดม" ลงลึกธาตุแท้ ลั่นเมริงกับKuเป็นมนุษย์คนละสายพันธุ์
กองทัพบกนำกำลังพล ขนน้ำแจกปชช. 7 หมื่นลิตร  ด้านทัพอากาศ จ.ชุมพร ขนน้ำช่วยชาวสวนทุเรียนสู้ภัยแล้ง
วธ.เปิดชุมชนคุณธรรมฯ วัดท่าขนุน กาญจนบุรี 1 ใน 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ปี 66 ดินแดนประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 หลากหลายชาติพันธุ์ ชมเส้นทางรถไฟสายมรณะ บ้านหลบภัยเชลยศึก ไหว้พระยอดเขารอยพระพุทธบาท-พระพุทธเจติยคีรี ช้อปชิมสินค้า-อาหารตลาดริมแคว
TPIPL จัดงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567
"พิพัฒน์" ห่วงใย เยียวยาแรงงานเทศบาลเมืองชัยภูมิ พลัดตกหลังคาเสียชีวิต มอบประกันสังคมช่วยทายาท กว่า 1.3 ล้านบาท

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น