ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรค แถลงประเด็นวัคซีนโควิดของบริษัทไฟเซอร์ว่า ตอนแรกหนังสือพิมพ์นิวยอกไทม์ของอเมริกาได้ขึ้นแผนที่ประเทศที่ใช้วัคซีน Pflizer ซึ่งปรากฎแผนที่ประเทศไทยด้วย แต่จู่ๆก็มีการลบแผนที่ประเทศไทยออก ขณะเดียวกันก็มีข่าวเรื่องการนำวัคซีนมาฉีดให้เจ้าหน้าที่ในสถานทูต เพราะ 1.โรคระบาดโควิดถือเป็นโรคระบาดอยู่ในข้อบังคับตามกฎหมายไทย และสากล 2.วัคซีนโควิดจัดหมวดเป็นสินค้าควบคุม คุณไม่สามารถใช้เอกสิทธินำเข้ามาได้ และ3.การนำเข้าวัคซีนจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการจัดหาวัคซีนที่มีปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน ดังนั้น วัคซีนโควิดเป็นวัคซีนป้องกันโรคติดต่อ ซึ่งเป็นโรคระบาดต้องเป็นไปตามกฎหมายประเทศนั้นๆ กฎหมายไม่ได้กำหนดให้มีเอกสิทธิทางการทูตคุ้มครอง การนำเข้าต้องแจ้งกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการคลังให้ทราบด้วย
นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า การที่เรามาเปิดเผยการนำเข้าวัคซีนของทางสถานทูตอเมริกา ไม่ได้มีเจตนาจะให้ร้าย หรือเจตนาอื่นใด เพียงแต่เพราะอยากนำเสนอทางรัฐบาล และ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าถ้าไม่รู้จะนำเข้าวัคซีนอย่างไรก็สามารถไปขอคำแนะนำจากสถานทูตอเมริกาได้ เพราะตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ มีคนไทยได้ฉีดวัคซีนเพียง 1.8% ของประชากรทั้งประเทศ และหากจะฉีดให้ได้ 100 ล้านโดส หรือ 200 ล้านโดส ภายในปีนี้ตามที่พลเอกประยุทธ์ประกาศ จะต้องฉีดเฉลี่ยนวันละ 4 แสนคน ขณะที่สถาบันบำราชนราดูลซึ่งเป็นที่ฉีดวัคซันที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ตนคำนวนว่าวันหนึ่งฉีดวัคซีนได้เพียงประมาณ 1000 คนเท่านั้น อยากเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดไทม์ไลน์ออกมาเลยว่า คุณจะเริ่มฉีดที่ไหน เมื่อไหร่ ออกมาให้ประชาชนได้รับทราบเลย อย่าเพียงพูดลอยๆ