“ยุทธพร” ชี้ “อนุทิน” สั่งสู้กัมพูชา ไม่ใช่เกมการเมือง แต่สถานการณ์บีบให้ต้องรบ มั่นใจไทยลุยม้วนเดียวจบ ก่อนเปิดทางเจรจาเมื่อเขมรหมดฤทธิ์

“ยุทธพร” ชี้ “อนุทิน” สั่งสู้กัมพูชา ไม่ใช่เกมการเมือง แต่สถานการณ์บีบให้ต้องรบ มั่นใจไทยลุยม้วนเดียวจบ ก่อนเปิดทางเจรจาเมื่อเขมรหมดฤทธิ์

รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ให้ความเห็นต่อสถานการณ์ความขัดแย้งไทย–กัมพูชา โดยระบุว่า ฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้เปิดฉากก่อน และดูมีการเตรียมแผนไว้ล่วงหน้า เนื่องจากผู้นำกัมพูชากำลังเผชิญภาวะเสื่อมถอยทางอำนาจ การสร้างสถานการณ์ชาตินิยมจึงเป็น สูตรสำเร็จที่หลายประเทศในเอเชียใช้เพื่อดึงความนิยมกลับคืน แต่ประเทศไทยในครั้งนี้เป็นเสมือนเครื่องมือมากกว่าจะเป็นฝ่ายเริ่ม เพราะหากดูตามไทม์ไลน์ จุดปะทะเล็ก ๆ สามารถดับได้ตั้งแต่แรก แต่กัมพูชากลับขยายแนวรบอย่างมีนัยสำคัญ ชี้ชัดว่าฝ่ายโน้นต้องการยั่วยุให้สถานการณ์บานปลาย

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ด้านไทยเอง นายกรัฐมนตรีจำเป็นต้องแสดงภาวะผู้นำที่แข็งแกร่ง เพราะในสถานการณ์เช่นนี้ ความอ่อนแอคือสิ่งที่ข้าศึกต้องการเห็น การตอบโต้จึงเป็นเรื่องจำเป็นไม่ใช่ตัวเลือก

ต่อข้อสังเกตุ เรื่องความแข็งกร้าวของนายกรัฐมนตรีอาจเป็น แผนการเมืองเพื่อดึงคะแนนนิยม รศ.ดร.ยุทธพร ยืนยันว่า ไม่ใช่แผนแต่เป็นเงื่อนไขสถานการณ์ที่บังคับให้ต้องทำ ส่วนคะแนนเสียงที่เพิ่มขึ้นได้ถือเป็นผลพลอยได้มากกว่า อีกทั้งการเลือกตั้งยังอีกไกล ไม่มีใครบอกได้ว่าความนิยมจะยืนระยะถึงวันนั้นหรือไม่ หรือในอีกด้าน หากการรบพลิกผัน สูญเสียมาก ประชาชนรับไม่ได้ พรรคการเมืองก็อาจเสียคะแนนอย่างหนัก เพราะสงครามคือสิ่งที่ ประเมินผลล่วงหน้าไม่ได้ไม่มีผู้นำคนไหนกล้าเดิมพันอนาคตทางการเมืองด้วยการเปิดสงครามโดยไร้ความจำเป็น

“ไทยไม่มีโครงสร้างอำนาจแบบกัมพูชาที่ผู้นำจะสร้างสถานการณ์ใหญ่เพื่อผลทางการเมืองได้ง่าย ๆ ความดุดันของนายกฯ จึงเป็นเพียงการตอบสนองต่อสถานการณ์ที่สันติวิธีหมดทางเลือกแล้วเท่านั้น”

 

ส่วนโอกาสในการเจรจา รศ.ดร.ยุทธพร มองว่า ต้องมาแน่ แต่ไม่ใช่เร็ว ๆ นี้ เพราะตามที่นายกฯ ระบุ “เมื่อเริ่มแล้ว มันหยุดไม่ได้ทันที” ขณะนี้ไทยต้องรวบรวมหลักฐานและชี้แจงต่อประชาคมโลกว่าไทยไม่ใช่ผู้ก่อเหตุ แต่ถูกโจมตีก่อน และกำลังใช้สิทธิในการป้องกันตนเองเพื่อคุ้มครองชีวิตประชาชน

พร้อมประเมินว่า การเจรจาจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อสองเงื่อนไขเกิดพร้อมกัน คือ 1 ไทยยึดพื้นที่คืนได้ครบตามเป้าหมาย 2 กัมพูชาสูญเสียศักยภาพที่จะคุกคามไทยต่อไป เมื่อสองจุดนี้ประจวบกัน การเจรจาจะเริ่มขึ้นอย่างแน่นอน

ท้ายที่สุด รศ.ดร.ยุทธพร เสนอให้ภาครัฐสื่อสารกับประชาชนอย่างตรงไปตรงมา ว่าสงครามครั้งนี้มีตอนจบ และตอนจบนั้นคืออะไร เพื่อให้สังคมคลายความกังวล เพิ่มความมั่นใจต่อสถานการณ์ และสร้างเสถียรภาพเชิงจิตวิทยาให้ภาคธุรกิจในช่วงเวลาที่อ่อนไหวนี้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สืบเมืองนครสวรรค์ไม่ปล่อยผ่าน ติดตามตัวผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้อื่นกลางสี่แยกไฟแดงพหลโยธินได้แล้ว เตรียมดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกายตามกฏหมาย
กัมพูชาเตรียมยื่นคำร้องสองแม่ทัพไทยต่อยูเอ็น
"กระทรวง อว.– ทปอ." แถลงเลื่อนสอบ TCAS 7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา "สุรศักดิ์" ชี้ความปลอดภัยต้องมาก่อน ย้ำเลื่อนสอบเฉพาะพื้นที่เสี่ยงเพื่อไม่ให้กระทบส่วนรวม
วัดเขาโรจัดพิธีไหว้ครูบูรพาจารย์ประจำปี ลูกศิษย์ร่วมบวงสรวงแน่นวัด
"ซาบีดา" ยัน โบราณสถาน เสียหายซ่อมใหม่ได้ ชี้ต้องรักษาประเทศไว้ก่อน
เปิดนาที "กัมพูชา" ยิงจรวด Type-90B จากถนนพลเรือนในอุดรมีชัย เป้าหมายปราสาทคนา

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​