ครม.อนุมัติ 2.7 หมื่นล้านประกันรายได้เกษตรกรปลูกมัน-ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์-ข้าว

ทำเนียบฯ 25 ต.ค.- นายกฯ ห่วงใยเกษตรกรที่เดือดร้อน ครม. อนุมัติกรอบวงเงินรวม 2.7 หมื่นล้านบาท สำหรับ 3 พืชสำคัญในโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และข้าว ปี 64/65

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติโครงการประกันรายได้เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร รวม 3 โครงการ วงเงินรวมทั้งสิ้น 27,390.09 ล้านบาท ประกอบด้วย 1. โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ปี 2564/65 วงเงิน 6,811.28 ล้านบาท และมาตรการคู่ขนานโครงการประกันรายได้ฯ ปี 64/65 จำนวน 4 โครงการ รวมเงิน 291.4 ล้านบาท  2. โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2564/65 วงเงินรวม 1,863.51 ล้านบาท และมาตรการคู่ขนานโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2564/65 จำนวน 2 โครงการ วงเงินรวม 45 ล้านบาท และ 3. โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 รอบที่ 1 และมาตรการคู่ขนานโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 วงเงินรวมทั้งสิ้น 18,378.90 ล้านบาท  ซึ่งจะครอบคลุมพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ประมาณ 4.7 ล้านครัวเรือน ปลูกมันสำปะหลัง ประมาณ 5 แสนครัวเรือน และปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ประมาณ 4.5 แสนครัวเรือน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยพี่น้องเกษตรกรที่ประสบปัญหาต้นทุนการเกษตรที่มีราคาปรับตัวสูงจากราคาน้ำมัน และปุ๋ยแพง จึงได้สั่งการให้แก้ปัญหาราคาปุ๋ยแพงอย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกร ซึ่งปุ๋ยมีราคาสูงขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี ด้วยปัจจัยต่าง ๆ ทั้ง ราคาน้ำมัน ค่าขนส่ง ค่าระวางเรือ ความต้องการ Demand สูงกว่า Supply ในขณะนี้ โดยให้กระทรวงพาณิชย์  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งพิจารณาแนวทางในการแก้ปัญหาปุ๋ยแพง รวมทั้งต้องมีการส่งเสริมและพัฒนาการผลิตปุ๋ยภายในประเทศ ทั้งปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ ให้เร่งหารือช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อลดต้นทุนค่าปุ๋ยในช่วงที่ราคาปุ๋ยปรับตัวสูงขึ้น ลดการพึ่งพิงตลาดนำเข้า รวมทั้งต้องเร่งชี้แจงทำความเข้าใจกับพี่น้องเกษตรกรว่ารัฐบาลกำลังเร่งแก้ปัญหาอยู่ โดยนายกรัฐมนตรี เป็นห่วงปัญหาราคาพืชผลเกษตรรายตัวตกต่ำขณะนี้ ในขณะที่ต้นทุนการผลิตของพี่น้องเกษตรเพิ่มสูงขึ้น ทั้งจากสถานการณ์โควิด-19 น้ำท่วม และราคาน้ำมันโลกที่สูงขึ้น

“นายกรัฐมนตรียังได้สั่งการ ให้ทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลกระทบที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจการเกษตรในช่วงไตรมาส 4 ที่ยังมีปัจจัยเสี่ยง ทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศและต่างประเทศ ความแปรปรวนของสภาพอากาศ แนวโน้มราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และความผันผวนของค่าเงินบาท ที่อาจส่งผลต่อต้นทุนการผลิตของเกษตรกร  การช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรโครงการต่าง ๆ และการประกันรายได้ เป็นหนึ่งในนโยบายหลักของรัฐบาล ซึ่งจะเดินหน้าโครงการอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คิดต่อไป ต้องดูแลเกษตรรายย่อย โดยเฉพาะเกษตรกรที่ทำการเกษตร ในพี้นที่เล็ก ๆ รวมทั้ง ให้แนวทางการช่วยเกษตรในรูปแบบใหม่เพี่อยกระดับ การเกษตรของไทย ให้ยั่งยืน และ พึ่งพาตนเองได้ วันนี้รัฐบาลมีนโยบายหลัก คือการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร ด้วยการแปรรูปสินค้าเกษตร  รัฐบาลให้ความสำคัญกับเกษตรกรไทย โดยจะเดินหน้าโครงการช่วยเหลือเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นหลักประกันให้เกษตรกรมีรายได้ที่แน่นอน” นายธนกร กล่าว

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"แอ๊ด-หงา-ปู" ประกาศจุดยืน ปล่อยเพลงต้านนโยบายกาสิโนเพื่อไทย
"หมอตุลย์" เดินหน้ายื่นปธ.วุฒิฯ ส่งคำร้องศาลรธน.วินิจฉัย "อุ๊งอิ๊ง" พ้นรมว.วัฒนธรรม พร้อมหยุดปฏิบัติหน้าที่
"นิพิฏฐ์" เตือน "แพทองธาร" เสี่ยงมาก เลี่ยงย้ายทำหน้าที่รมว.วัฒนธรรม ชี้คำร้องเรื่องคุณสมบัติ เป็นไปตามรธน.มาตรา 160
"อุตุฯ" เตือน 45 จังหวัด รับมือฝนฟ้าคะนอง กทม.ไม่รอด ร้อยละ 70 ของพื้นที่
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) วนอุทยาน 'ไซห่านป้า' ผืนป่าฝีมือมนุษย์ใหญ่สุดในโลก
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) เซี่ยงไฮ้ต้อนรับ 'นักท่องเที่ยวต่างชาติ'พุ่งสูง คนไทยติดอันดับ
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) มวยไทย-ระบำเอ็งกอ ผูกโยงวัฒนธรรมไทย-จีน
ราชกิจจาฯ ประกาศอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท ตามประเภทกิจการ พื้นที่กำหนด มีผลทันที
"หนุ่มถูกจับเมาขับ" หัวร้อน ทำร้ายตำรวจสิบเวรหน้าห้องขัง เหตุญาติไม่มาประกันตัว พาครอบครัวไหว้ขอขมาก่อนรับเพิ่ม 1 ข้อหา
"แม่ค้าก๋วยจั๊บ" สระบุรี  ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 รับ 6 ล้านบาท ดีใจแจกก๋วยจั๊บให้ชาวบ้านทานฟรี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น