สาวตรังวัย 38 ปี เดินทางมาใช้บริการร้านนวดเพื่อสุขภาพ ก่อนนวดต้องเปลี่ยนชุด เอาของมีค่าใส่ไว้ในล็อกเกอร์ของทางร้าน นวดเสร็จ ตรวจดูทรัพย์สินของมีค่า พบว่ากระเป๋าใส่ทองรูปพรรณน้ำหนักรวมเกือบ 5 บาท รวมมูลค่าเกือบ 3 แสนบาท สูญหายไป ทางร้านไม่รับผิดชอบ ก่อนเดินทางไปแจ้งความ
เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น.วันนี้ ( 3 ธันวาคม 2568) นางสาวสุวดี ฝาดชิ้น อายุ 38 ปี บ้านอยู่ที่จังหวัดตรัง ได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.ฉัตรพล เผ่นโผน สารวัตรสอบสวน สภ.ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ว่า เดินทางไปใช้บริการร้านนวดแผนไทยแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ศรีราชา แล้วทองรูปพรรณที่ใส่ไว้ในกระเป๋าสะพาย รวมเกือบ 5 บาท ได้สูญหายไป หลังจากได้ใส่ไว้ในล็อกเกอร์ของทางร้าน พร้อมทั้งเปิดเผยรายละเอียดว่า เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. นางสาวสุวดีได้เดินทางไปใช้บริการร้านนวดแผนไทย ในพื้นที่ตำบลศรีราชา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยมาทำการนวดผิว สปาผิว พอเข้าไปแล้วพนักงานที่ร้านบอกให้นำทรัพย์สินของมีค่าใส่ไว้ในตู้ล็อกเกอร์ที่อยู่ด้านในห้องนวด และทำการนวดขัดผิว ผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง พนักงานก็ได้ให้ตนเองไปอาบน้ำ ระหว่างที่ไปอาบน้ำก็ถือกุญแจล็อกเกอร์ไปด้วย
โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงออกมานวดน้ำมันต่อประมาณ 1 ชั่วโมง พอนวดเสร็จจึงออกมาแต่งตัว และพนักงานที่ร้านบอกว่าให้ตรวจสอบทรัพย์สินที่มีค่าก่อนออกไปนะคะ จึงได้ทำการตรวจสอบปรากฏว่าทองในกระเป๋าได้หายไป จึงตกใจ ทั้งที่กุญแจล็อกเกอร์ก็อยู่กับเรา จึงหันไปเห็นกุญแจล็อกเกอร์ช่องอื่นที่เสียบคาไว้ จึงดึงออกมาแล้วลองไปไขที่ล็อกเกอร์ที่เราใส่กระเป๋าไว้ ปรากฏว่ากุญแจล็อกเกอร์อื่น สามารถไขล็อกเกอร์ของเราได้ โดยทองที่หายไปประมาณ 5 บาท เป็นสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 บาท มูลค่าประมาณ 180,000 บาทสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนัก 1 บาท มูลค่าประมาณ 60,000 บาท แหวนทองคำสองสลึง 1 เส้นมูลค่าประมาณ 30,000 บาท และต่างหูทองคำ น้ำหนัก 1 สลึง มูลค่าประมาณ 15,000 บาท โดยทั้งหมดเก็บไว้ในกระเป๋าใบเล็ก แล้วใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายใบใหญ่
โดยตนเองคาดว่าทองที่หายไปน่าจะหายไปตอนเข้าไปอาบน้ำ เนื่องจากห้องน้ำอยู่ด้านนอกห้องนวด ซึ่งได้แจ้งทางร้านว่าทองหาย พนักงานก็เลยแสดงความบริสุทธิ์ใจให้เอากระเป๋าของพนักงานในร้านที่มี 3 คน เอาออกมาเทให้ดู แต่ตนเองบอกให้รอก่อน ก่อนที่จะโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ และทำการค้นหาภายในร้านก็ไม่เจอทองที่หายไป จึงได้แจ้งกับเจ้าของร้าน ซึ่งทางร้านก็ไม่รับผิดชอบ บอกว่าเราได้ติดป้ายเตือนไว้แล้วว่าจะไม่รับผิดชอบทรัพย์สินที่สูญหายที่ติดไว้ตรงประตู ซึ่งตนเองก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากและจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ศรีราชา ได้เดินทางมาตรวจสอบในที่เกิดเหตุ และทำการขอยึดกระเป๋าสะพายไปตรวจสอบลายนิ้วมือบนกระเป๋าสะพาย ก่อนเชิญตัวพนักงานที่อยู่ในร้านไปสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อจะทำการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินการตามกระบวนกฎหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว สิงห์ทอง นามมาลา ผู้สื่อข่าว TOPNEWS ทั่วไทย จ.ชลบุรี
