ตรวจบ้านหลวง“นายกฯ”ต้องขออนุญาต “สำนักงานพระราชวัง”ผ่านทางเข้าออก

ยกราชกิจจาฯ 'เสรีพิสุทธ์' ตรวจบ้านหลวง 'นายกฯ' ต้องขออนุญาต 'สำนักงานพระราชวัง' ผ่านเส้นทาง หลังราชกิจจาฯ ประกาศโอนกำลังพล-หน่วย สังกัดหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ ปี 2562

เมื่อวันที่ 7 พ.ค. จากกรณีที่คณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร ที่มีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เป็นประธานฯ จะลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม กรณีการอยู่บ้านพักรับรองในค่ายทหารของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตามที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ยื่นเรื่องให้ กมธ.ป.ป.ช.ตรวจสอบตามความผิดฝ่าฝืนพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 128 ที่รับผลประโยชน์อื่นใดที่มีมูลค่าเกิน 3,000 บาท พร้อมทำหนังสือขออนุญาตจากกองทัพบกนั้น

รายงานข่าวแจ้งว่า การเดินทางไปยังบ้านพักรับรองของพล.อ.ประยุทธ์ ต้องใช้ทางเข้า-ออกผ่านกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ซึ่งขณะนี้ถือเป็นเขตพระราชฐาน และเป็นพื้นที่ปิด โดยต้องทำหนังสือขออนุญาตไปยังสำนักพระราชวัง เพื่อขอผ่านทาง ส่วนรายละเอียดการเข้าพักบ้านหลวงของพล.อ.ประยุทธ์ รวมถึงเรื่องค่าน้ำ-ค่าไฟนั้น ที่ผ่านมากองทัพบกเคยส่งข้อมูลไปยังศาลรัฐธรรมนูญและสำนักงาน ป.ป.ช. แล้ว

รายงานข่าวแจ้งต่อว่า ทั้งนี้เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2562 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระราชกำหนด โอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ. 2562 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรโอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ และกรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 172 ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกำหนดขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

มาตรา 1 พระราชกำหนดนี้เรียกว่า “พระราชกำหนดโอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ. 2562”

มาตรา 2 พระราชกำหนดนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป

มาตรา 3 ให้โอนบรรดาอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ และกรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมประกาศกำหนด ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการในพระองค์

มาตรา 4 ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชกำหนดนี้

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ภูมิใจไทย" รุกใหญ่ "อนุทิน" ตั้งกก.สรรหาผู้สมัคร ทำไพรมารีโหวต เตรียมพร้อมเลือกตั้งแล้ว
"ภูมิธรรม" ลั่นแรง “ปลุกระแสรัฐประหาร พยายามให้ตายก็ยาก” เผยคุย ผบ.เหล่าทัพ ไม่คิดปฏิวัติ-อยากช่วยให้ประเทศผ่านวิกฤต
แต่งตั้ง "พระพรหมวชิรรังษี" รักษาการแทน เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ เปิดภาพ "เจ้าคุณอาชว์" โผล่ลาสิกขาปริศนาถึงหนองคาย
หนุ่มโรงงานยิงนกตกในบ่อน้ำว่ายตามไปเก็บจมหาย
สระแก้ว คนไทยหลายพื้นที่ร่วมส่งกำลังใจให้ทหารชายแดน
"นายกฯ" โพสต์หารือ "มาครง" กระชับร่วมมือทุกมิติ ยกระดับสัมพันธ์ หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ย้ำปราบอาชญากรรมออนไลน์ ยึดสันติแก้ปัญหากัมพูชา
"อ.แก้วสรร" ชี้ "ฮุน เซน" ถึงจุดเสื่อม เลือกสร้างวิกฤตก่อโอกาส เชื่อ MOU อ่าวไทยมีส่วนขัดแย้งทักษิณ ยัน"นายกฯ"ควรลาออก
"อุตุฯ" เตือน 40 จังหวัด รับมือฝนถล่มหนัก กทม.ก็ไม่รอด ร้อยละ 70 ของพื้นที่
นาทีเฉียดตายเมื่อหนุ่มใหญ่วัย 48 ขี่รถจักรยานยนต์กำลังจะกลับบ้าน เจอพายุหมุนเสาไฟหักโค่น 15 ต้น
ตร.รวบเขมร สวมชุดลายพราง ลักตัดสายไฟโรงงานรีไซเคิลขยะ หาเงินซื้อยาบ้าเสพ ขี่จยย. หนีสุดฤทธิ์ แต่ไม่รอด

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น