เรียกได้ว่า ที่เป็นกระแส อยู่ในขณะนี้ ที่ชาวตำบลแม่พูล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ได้พูดถึงและรู้จักกันเป็นอย่างดี กับรถ มอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง มีหลังคาคุม บังแดด บังฝน ตะลอนขาย ลอดช่องเค็ม ลอดช่องหวาน ส้มตำ ลูกชิ้นปิ้ง น้ำจิ๋มสูตรคุณทวด กาแฟเย็น นมเย็น ขับตะลอนขายไปตามหมู่บ้านต่างๆทุกซอกทุกซอย จนเป็นที่รู้จักของชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างดี และเมื่อมีใครเดินทางไปท่องเที่ยวหรือไปซื้อผลไม้ที่ตำบลแม่พูดล ต่างก็จะพูดถึงเธอ
วันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปดักรอพบกับคุณลำภู ยานะผูก หรือคุณภู อายุ 41 ปี ขณะกำลังขับรถเข้ามาจอดริมถนน ที่มีลูกค้าประจำยืนรออยู่ เพียงแค่คุณภูจอดรถ มอเตอร์ไซต์พ่วงข้างที่มุงด้วยหลังคา พร้อมกับบีบแตร แป๊บๆส่งสัญญาณว่า มาแล้ว ลูกค้าประจำต่างก็ออกมามุงรุมซื้ออาหารตามเมนูต่างๆไม่ว่าจะเป็นต้มตำปูปลาร้า ส้มตำไทย ตำป่า หรือเมนูตำต่างหลากหลายเมนู นอกจากนี้ยังมีลูกชิ้นปิ้ง น้ำจิ้มรุ่นคุณทวด ลอดช่องเค็ม ลอดช่องหวาน กาแฟเย็น ชาเย็น นมเย็น หมี่คลุก หมี่พัน และอื่นๆอีกหลายรายการที่น่ารับประทานในรถ มอเตอร์ไซต์พ่วงข้างคันนี้
และที่ว่าแปลกและเด็ด ไม่เหมือนใคร นั้นก็คือ “ลอดช่องเค็ม”ซึ่งเป็นสูตรโบราณตั้งแต่รุ่นคุณทวด ตกทอดต่อๆกันมาคนถึงตนเอง และในปัจจุบัน”ลอตช่องเค็มเป็น” ยังเป็นเมนูพื้นถิ่นเมืองลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ถูกโหวตให้เป็น “รสชาติ…ที่หายไป The Lost Taste” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568และเป็นเมนูหาทานยากอีกด้วย
คุณภู บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ลอดช่องเค็มเป็นเมนูที่โดดเด่น เป็นอาหารพื้นถิ่นของชาวเมืองลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งมีความแปลกและน่าสนใจตรงที่ถูกพลิกแนวคิดให้กลายเป็นของคาวที่มีรสชาติเค็ม เปรี้ยว และเผ็ดอ่อน ๆ แทน ซึ่งหน้าตาของลอดช่องเค็มจะคล้ายกับลอดช่องแบบหวาน แต่เส้นจะเป็นสีขาว ไม่ได้ใส่น้ำใบเตยหรือสีผสมอาหาร เส้นทำจากแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน และแป้งถั่วเขียว ผสมกันแล้วกวนให้สุก จากนั้นกดเส้นลอดช่องลงในน้ำเย็นให้เซ็ตตัว ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับการทำลอดช่องทั่วไป
สิ่งที่ทำให้เมนูนี้โดดเด่นก็คือเครื่องปรุงแบบคาวที่ใช้แทนน้ำกะทิและน้ำตาล เช่น ปลาย่างที่ป่นละเอียด ถั่วงอกลวก ผักชีฝรั่งซอย พริกป่น น้ำปลา และน้ำมะนาว เมื่อคลุกเคล้าเข้าด้วยกันแล้วจะได้รสเค็มจัด เปรี้ยวนิด เผ็ดหน่อย มีกลิ่นหอมของสมุนไพรพื้นบ้าน เสิร์ฟใส่ถ้วยจานเรียบง่ายแบบพื้นถิ่น ซึ่งจะจำหน่ายในราคาเพียง ถ้วยละ 20 บาท เท่านั้น
ทั้งนี้ ลอดช่องเค็มเป็นเมนูที่แปลกและหาทานยากแล้ว ตนจึงได้พลิกแพลง ให้เมนูที่ว่าแปลกและหาทานยาก ได้มีการเข้าถึงชาวบ้านด้วยรถ มอเตอร์ไซต์พ่วงข้างคันนี้ โดยเริ่มต้นความคิดนี้ได้สื่บต่อคุณแม่มา และนอกจาก จะมีลอดช่องเค็มแล้ว ภายในรถ ยังมีข้าวแคปแห้ง ข้าวแคปพันหมีคลุก ที่ติดรถอีกด้วย
โดยขั้นตอนการทำ ก็ไม่ยุ่งยาก ซึ่งภายในรถจะมีข้าวแคปแห้งติดรถไว้ เมื่อมีลูกค้ามาสั่งรับประทาน ก็จะนำเส้นหมี่ มีทั้งหมีขาว หมี่เหลือง เส้นหมี่ มาลวกในน้ำร้อน จนเส้นสุกอ่อนตามด้วยการคลุกเคล้าด้วยเครื่องปรุงต่าง อาทิ พริกป่น มะนาวสด น้ำตาล น้ำปลา ผงปรุงรส จากนั้นจะคนๆๆให้เข้ากัน นำมาข้าวแคปมาพันกับกับหมี่ลวกที่ปรุงด้วยเครื่องปรุงต่างๆจนกลายเป็นหมี่คลุกแล้ว ห่อม้วนเป็นชิ้นๆกลมๆยาวๆที่มีรสชาติ เปรี่ยวหวานมันเค็ม กรอบๆนุ่มๆ สำหรับทานเล่น ที่อร่อยลงตัวและยังเป็นเมนูพื้นบ้านอีก 1 เมนูของชาวลับแลอีกด้วย โดยจะขายในราคา ชุดละ 20 บาท ใน 1 ชุดจะมี 5 ม้วน
นอกจากนี้ยังมีส้มตำ ทั้งส้มตำปูปลาล้า ส้มตำปู ตำลาว ตำไทย และอีกสารพัดตำ และยังมีลูกชิ้นปิ้งด้วยเตาถ่าน ขับรถไปจอดปิ้งไป โดยใช้น้ำจิ้มสูตรเด็ดรุ่นคุณแม่ ซึ่งเป็นเอกลักษ์รสชาติประจำรถเลย และยังมี กาแฟเย็น นมเย็น น้ำมะนาว ชาเย็น ติดรถในราคา เพียงแก้วละ 10 บาทเท่านั้น
คุณภูบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองขับรถมอเตอร์ไซต์พ่วงข้างแบบนี้ตลอด ซึ่งก่อนหน้านี้จะช่วยคุณแม่ขาย ไปไหนก็ไปด้วยกัน ซึ่งคุณแม่ก็ขายแบบนี้มาแล้ว กว่า 33 ปี สืบทอดจากคุณแม่ที่คุณแม่สืบทอดมาจากคุณปู่คุณทวด และต่อๆกันมา ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อหลายปีก่อน คุณแม่ใช้ตระกร้าในการเดินหาบขาย ไปตามหมู่บ้าน แต่ก็ไปไม่ได้ไกลหนัก ต่อมา วิวัฒนาการได้ปรับเปลี่ยน มีรถมอเตอร์ไซต์ คุณแม่ก็ใช้มอเตอร์ไซต์ มาพ่วงกับรถพ่วงข้าง ในการออกขายตามพื้นที่ต่างๆ ซึ่งคุณแม่ไปไหนตนก็ไปด้วยและจดจำวิธีการทำต่างๆจากคุณแม่ จนทำเป็นเองแล้ว จึงได้แยกเป็นรถคนละคันกับคุณแม่ เพื่อให้เข้าถึงชาวบ้านในชุมชนได้มากขึ้นและรวดเร็ว
คุณภูเปิดเผยเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่คุณแม่ริเริ่มการเข้าถึงชาวบ้านโดยการใช้มอเตอร์ไซต์พ่วงข้าง เพราะมองว่า ชาวบ้านในพื้นที่ ส่วนมากจะทำสวนทำไร่ และทำงานอยู่กับบ้านเป็นส่วนใหญ่ หากมีบริการแบบเข้าถึงบ้าน โดยไม่ต้องออกมาหาซื้อเอง ก็จะเป็นการประหยัดเวลาในการทำงานในสวนในบ้านและอีกอย่าง ในรถก็มีเมนูอาหารที่เป็นอาหารพื้นถิ่นของชาวลับแลอยู่แล้ว ก็ยิ่งทำให้ชาวบ้านชาวสวนสะดวกสะบายเพิ่มขึ้น และในแต่ละวันคนที่เคยรับประทานประจำก็จะนั่งรอเวลาฟังเสียงแตร แป๊บๆ ของตนจะเข้าไปหรือบางคนที่รอไม่ไหว ก็จะโทรตามให้ไปก่อนเวลา ก็จะเป็นเรื่องที่ประทับใจของตัวเองกับลูกค้า คุณ ภู บอกกับผู้สื่อข่าว
โดยตนเองจะเริ่มออกวิ่งขายตามหมู่บ้าน ตั้งแต่ 12.00 น.จนถึงประมาณ 20.00 น.หรือบางครั้งก็ไม่ถึง เพราะบางวันของจะหมดก่อน ยิ่งช่วงเทศกาลผลไม้ ยิ่งขายดีมาก ต้องคอยเติมและตุนของไว้มากๆอยู่ตลอด เพราะของจะหมดเร็ว
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถโทรสอบถามได้ที่0878516694
