ไฟไหม้อพาร์ตเมนต์ “ฮ่องกง” ยังควบคุมเพลิงไม่ได้ทั้งหมด เสียชีวิตแล้ว 44 ราย ตร.จับกุมผู้ต้องสงสัย 3 คน เร่งสอบปากคำ หาสาเหตุ

ไฟไหม้อพาร์ตเมนต์ "ฮ่องกง" ยังควบคุมเพลิงไม่ได้ทั้งหมด เสียชีวิตแล้ว 44 ราย ตร.จับกุมผู้ต้องสงสัย 3 คน เร่งสอบปากคำ หาสาเหตุ

ไฟไหม้อพาร์ตเมนต์ “ฮ่องกง” ยังควบคุมเพลิงไม่ได้ทั้งหมด เสียชีวิตแล้ว 44 ราย ตร.จับกุมผู้ต้องสงสัย 3 คน เร่งสอบปากคำ หาสาเหตุ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สำนักข่าว AFP รายงานว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ ปะทุขึ้นที่อพาร์ตเมนต์ขนาดใหญ่ของโครงการวั่งฝุกคอร์ต ในเขตต้าโป๋ของฮ่องกง โดยเป็นอพาตเม้นท์ที่สูง 35 ชั้น มีผู้อยู่อาศัยเกือบ 2,000 ครัวเรือนใน 8 อาคาร ไฟเริ่มลุกตอนช่วงบ่ายวันพุธ ก่อนจะลุกลามผ่านนั่งร้านไม้ไผ่ที่ใช้ซ่อมแซมอาคาร และยังคงเผาไหม้อย่างต่อเนื่อง

จอห์น ลี ผู้นำฮ่องกงได้ออกแถลงข่าวระบุว่า เพลิงไหม้ครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 36 ราย และมีผู้สูญหาย 279 ราย ขณะนี้ยังมีผู้บาดเจ็บ 29 ราย ที่ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล โดยมี 7 รายที่มีอาการสาหัส ขณะที่การควบคุมเพลิงก็ค่อยๆ มีความคืบหน้า โดยยังพบเปลวไฟใน 4 จาก 8 อาคาร แม้เวลาจะล่วงเลยเกือบ 12 ชั่วโมง หลังเหตุไฟไหม้เริ่มต้นขึ้น และขณะนี้ก็ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของเพลิงไหม้ อย่างไรก็ดี ทางรัฐบาลได้ตั้งคณะทำงานสอบสวนต้นตอของไฟไหม้ พร้อมให้หน่วยตรวจสอบอาคารตรวจว่า ผนังภายนอกอาคารเป็นไปตามมาตรฐานหน่วงไฟหรือไม่ ซึ่งหากพบความผิด จะดำเนินการตามกฎหมาย

ด้านผู้สื่อข่าวของ AFP รายงานว่า ได้ยินเสียงแตกร้าวดังจากนั่งร้านไม้ไผ่ที่ถูกไฟเผา และพบกลุ่มควันหนาทึบลอยสูงเหนืออาคาร โดยเปลวไฟและเถ้าถ่าน พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ผู้อยู่อาศัยจำนวนมากเป็นผู้สูงอายุ ที่อาจเคลื่อนย้ายได้ลำบาก อีกทั้งบางคนไม่รู้ว่ามีไฟไหม้ เพราะหน้าต่างถูกปิดทับจากงานซ่อมแซม จนต้องมีเพื่อนบ้านโทรแจ้งให้รีบอพยพ ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่า มีประชาชนกว่า 900 คน ต้องไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว

เดเรก อาร์มสตรอง ชาน รองผู้อำนวยการปฏิบัติการดับเพลิง ระบุว่า อุณหภูมิภายในอาคารสูงมาก จนทีมช่วยเหลือไม่สามารถเข้าถึงบางชั้นที่มีผู้ร้องขอความช่วยเหลือได้ แต่ทางการจะยังดำเนินการต่อไป สำหรับไฟนั้น อาจลุกลามจากอาคารหนึ่งไปยังอีกอาคารหนึ่ง จากแรงลมและเศษวัสดุที่ปลิว เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนหาสาเหตุโดยละเอียด รวมถึงยังเตรียมตรวจสอบวัสดุภายนอกอาคาร ที่อาจทำให้ไฟลุกลามรวดเร็วกว่าปกติอีกด้วย

สำหรับเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ ถือได้ว่าร้ายแรงที่สุดในรอบสามทศวรรษของฮ่องกง พร้อมกับจุดกระแสความกังวลต่อการใช้โครงนั่งร้านไม้ไผ่ และตาข่ายที่ติดไฟง่าย ซึ่งยังคงแพร่หลายในงานก่อสร้าง แม้จะมีความเสี่ยงสูงต่อการลุกลามของเพลิงไหม้ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้เผยให้เห็นว่า ตาข่ายสีเขียวนั้นติดไฟได้อย่างรวดเร็วเพียงใด และส่งผลให้โครงไม้ไผ่ร่วงลงมาเป็นเปลวเพลิง

ทั้งนี้ ฮ่องกงซึ่งเต็มไปด้วยตึกระฟ้า ยังคงนิยมใช้ไม้ไผ่เป็นวัสดุนั่งร้านมายาวนาน เนื่องจากราคาถูก หาได้ง่าย และมีความยืดหยุ่น โดยจะมัดยึดด้วยเชือกไนลอน ช่างนั่งร้านไม้ไผ่ถือเป็นอาชีพเก่าแก่ที่สืบทอดมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ อย่างไรก็ดี จีนแผ่นดินใหญ่ได้ทยอยเลิกใช้ไม้ไผ่ในงานนั่งร้าน และหันมาใช้โครงเหล็กที่แข็งแรงกว่า แต่ฮ่องกงยังมีช่างนั่งร้านไม้ไผ่ขึ้นทะเบียนราว 2,500 คน

ทั้งนี้ แม้จะมีแรงกดดันเพิ่มขึ้น แต่รัฐมนตรีแรงงานของฮ่องกงเคยระบุเมื่อเดือนกรกฎาคมว่า ทางการยังไม่มีแนวคิดจะยกเลิกการใช้นั่งร้านไม้ไผ่ในตอนนี้ ขณะที่เจสัน พูน ผู้เคยเปิดโปงปัญหาการก่อสร้างในฮ่องกง ก็เปิดเผยในเฟซบุ๊กเมื่อวันพุธว่า มีความเสี่ยงด้านเพลิงไหม้อยู่ในโครงนั่งร้านของคอมเพล็กซ์ที่อยู่อาศัยหลายแห่ง ซึ่งตนก็เคยแจ้งหน่วยงานรัฐหลายแห่งตั้งแต่ปีก่อน เกี่ยวกับการขาดมาตรฐานกันไฟของตาข่ายนั่งร้าน ในอีกโครงการหนึ่ง แต่กลับถูกเพิกเฉย

ล่าสุดวันนี้ (27 พ.ย.) ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ ที่กลุ่มอพาร์ตเมนต์ ว่างฟุคคอร์ต ย่านไต่โป ทางเหนือของฮ่องกง เพิ่มเป็น 44 ราย สูญหายอย่างน้อย 279 คน บาดเจ็บสาหัสอย่างน้อย 45 คน และมีประชาชนมากกว่า 900 คน อพยพไปอยู่ศูนย์พักพิงชั่วคราว อาคารที่พักอาศัยจากทั้งหมด 8 หลัง มีเพียงหลังเดียวที่ไม่ถูกไฟไหม้ 4 หลังควบคุมเพลิงได้แล้ว อีก 3 หลังยังมีไฟคุกรุ่น พนักงานดับเพลิงคาดว่าจะขึ้นถึงดาดฟ้าของอาคารช่วงเที่ยงถึงเย็นวันนี้

 

 

สาเหตุเพลิงไหม้ยังอยู่ระหว่างสอบสวน แต่ประเด็นที่ตำรวจกำลังให้ความสนใจ คือ วัสดุป้องกันภายนอก รวมถึงแผ่นโฟม อาจมีส่วนทำให้เพลิงไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงพบเหตุการณ์ผิดปกติระหว่างดับเพลิง คือ ตาข่ายป้องกันผนังภายนอก ผ้าใบกันน้ำ และผ้าใบพลาสติก เผาไหม้รุนแรงกว่าและลุกลามเร็วกว่าวัสดุมาตรฐาน และตามประกาศจากบริษัทเจ้าของอพาร์ตเมนต์ เผยแพร่ในเดือนตุลาคม 2567 ระบุว่า บริษัทผู้รับเหมา เพรสทีจ คอนสตรักชัน แอดน์ เอนจิเนียริง จะใช้ “แผ่นโฟม” เพื่อปิดหน้าต่างห้องทั้งหมด เพื่อป้องกันเศษทรายและหิน กระทบกระจกในระหว่างการปรับปรุงก่อสร้าง นอกเหนือจากการเพิ่มผ้าใบและแผ่นไม้บนแท่นนั่งร้าน การใช้แผ่นโฟมและผ้าใบจำนวนมากที่พบในที่เกิดเหตุ กลายเป็นประเด็นสำคัญของการสอบสวน และนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องสงสัย 3 คน โดยสองคน เป็นกรรมการบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง อีกคนเป็นวิศวกรที่ปรึกษา เบื้องต้นแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา แต่ยังไม่ได้เปิดเผยว่าแต่ละคนมีความผิดอย่างไร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"รมช.มหาดไทย" ยัน ปภ.ช่วยน้ำท่วมไม่ล่าช้า รับน้ำเชี่ยวเป็นอุปสรรค บางจุดเรือท้องแบนเข้าไม่ถึง
ชัยภูมิ Kick Off เร่งฉีดวัคซีน "ปากและเท้าเปื่อย" ลุยทำลายเชื้อโรคในพื้นที่เสี่ยง หวั่นอากาศเปลี่ยนทำสัตว์อ่อนแอ
ชัยภูมิหนาวแล้ว เชิญชวนสัมผัสโอโซนบริสุทธิ์ 12 องศาฯ ณ ผาสุดแผ่นดิน เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวสุดฟิน
กาญจนบุรี///ส่งข้าวสาร 10 ตันพร้อมสิ่งของอุปโภคบริโภคสู่ภาคใต้ ธารน้ำใจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
กู้ภัยแม่โจ้ มาไกล 1.7 พันกิโลเมตร ช่วยน้ำท่วมหาดใหญ่ พบร่างผู้เสียชีวิตติดในบ้าน ย้ำเดินหน้าต่อไม่ท้อ ชาวบ้านพอยิ้มออก เช้านี้สงขลาน้ำลด เริ่มเห็นแสงแดด
หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล สิ้นชีพิตักษัยอย่างสงบ สิริชันษา 78 ปี

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​