ผู้สื่อข่าวลงลงพื้นที่เก็บภาพบรรยากาศ บริเวณแนวชายแดนไทยกัมพูชา พื้นที่อำเภอโป่งน้ำร้อนจังหวัดจันทบุรี เพื่อร่วมสังเกตการณ์ การทำงานวันสุดท้ายของการตกลงปักหมุดอ้างอิงชั่วคราว ระหว่างหลักเขตแต่ละเขต เพื่อใช้ยิงพิกัดเป็นเส้น เพื่อวางแผนในการสร้างรั้วชายแดน ในเขตจันทบุรีเป็นแห่งแรก โดยได้รับงบสนับสนุนจากโครงการ หทัยทิพย์ สาเหตุที่ต้องมีการจับพิกัดโดยมีเจ้าหน้าที่ทั้งสองประเทศ ปฏิบัติงานร่วมกันนั้น เพื่อที่จะใช้หลักหมุดชั่วคราวนี้ ในการส่องกล้องยิงแนวของเขตแดน ถ้าหากไม่มีหลักหมุดอ้างอิงชั่วคราว จะไม่สามารถยิงแนวเขตได้ เนื่องจากหลักเขตแต่ละหลัก มีความห่างไกลกัน จึงเป็นเหตุให้ต้องมีการ หาค่าพิกัด โดยใช้เครื่องมือพิเศษ GPS และมีเจ้าหน้าที่ทั้งสองประเทศเข้ามารับทราบและปฏิบัติงานร่วมกันดังกล่าว
เริ่มตั้งแต่หลักเขตที่ 52 ถึง 59 ทั้งหมดตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อำเภอโป่งน้ำร้อน โดยในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 เป็นกำหนดวันทำงานเสร็จสิ้นเป็นวันสุดท้าย สังเกตได้ว่ามีทหารและเจ้าหน้าที่กัมพูชามาร่วมกันทำงานเป็นจำนวนมากกว่าปกติ สลับการปฎิบัติงานในครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีความขัดแย้งกันแต่อย่างใด.. ทางด้านกองทัพเรือจึงได้ออกมาแถลงโดยให้ข้อมูลที่สอดคล้องกัน
พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจ้งว่า การดำเนินการสำรวจและปักหมุดอ้างอิงชั่วคราวตามชายแดนไทย–กัมพูชา บริเวณหลักเขตที่ 52 ถึง 59 ระยะทาง 8.3 กิโลเมตร ขณะนี้ได้เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย โดยใช้เวลาในการปฏิบัติงาน รวมทั้งสิ้น 16 วัน คณะทำงานชุดสำรวจร่วมไทย–กัมพูชาได้ปักหมุดอ้างอิงชั่วคราวครบจำนวน 166 หมุด ถือเป็นความคืบหน้าสำคัญในการจัดทำข้อมูลอ้างอิงร่วมกันระหว่างสองประเทศ
การสำรวจดังกล่าวเป็นกระบวนการทางเทคนิคตามมาตรฐานสากลที่เป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่าย เพื่อให้ทั้งสองประเทศมีข้อมูลภูมิประเทศที่ตรงกัน ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการปรับเปลี่ยนเส้นเขตแดนในขั้นตอนนี้
ขั้นตอนถัดไปคือ การบินโดรนสำรวจภาพถ่ายทางอากาศเพื่อจัดทำข้อมูลแผนที่ที่มีความละเอียดและแม่นยำสูง ข้อมูลทั้งหมดจะถูกรวบรวมเสนอให้ประธาน JBC ของทั้งสองประเทศพิจารณารับรองอย่างเป็นทางการก่อน และเมื่อข้อมูลได้รับการรับรองแล้ว ฝ่ายไทยจะหารือฝ่ายกัมพูชาเพื่อเข้าสู่กระบวนการเตรียมการสร้างรั้วชายแดน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมการผ่านแดน ป้องกันการลักลอบการกระทำผิดกฎหมายทั้งปวง พร้อมเสริมความชัดเจนในการบริหารจัดการพื้นที่ร่วมกัน ทั้งนี้ รั้วดังกล่าวเป็นเครื่องมือบริหารจัดการแนวชายแดน ไม่ใช่เส้นเขตแดนใหม่
กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ได้ร่วมปฏิบัติภารกิจครั้งนี้อย่างระมัดระวังภายใต้กลไกความร่วมมือของคณะกรรมการชายแดนภูมิภาค (RBC) เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยสูงสุดให้กับชุดสำรวจฯ
กองทัพเรือขอยืนยันว่าจะปกป้องอธิปไตยของชาติ รักษาผลประโยชน์ของประเทศ และดูแลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดนอย่าเต็มกำลัง





