สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) หรือ OKMD เดินหน้าสนับสนุนเยาวชนไทยเข้าร่วมการแข่งขันหุ่นยนต์ระดับโลก World Robot Olympiad 2025 (WRO 2025) ภายใต้แนวคิด “The Future of Robots” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25–28 พฤศจิกายน 2568 ณ Sands Expo and Convention Centre, Marina Bay Sands ประเทศสิงคโปร์ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม รวมถึงพัฒนาทักษะแห่งอนาคต (Future Skills) ให้กับเยาวชนไทยผ่านประสบการณ์จริงบนเวทีระดับนานาชาติ
การจัดการแข่งขันครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างทักษะ และบ่มเพาะวิสัยทัศน์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้แก่เยาวชนไทย เปิดโอกาสให้ได้เรียนรู้การใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนากระบวนการคิดและการวางแผนลงมือทำ ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม การใช้เวลาว่างอย่างสร้างสรรค์ และการคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม อีกทั้งยังเป็นเวทีสำคัญสำหรับเยาวชนที่มีความสามารถด้านการพัฒนาหุ่นยนต์และการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ได้แสดงศักยภาพและเตรียมความพร้อมสู่การเป็นกำลังสำคัญของประเทศในศตวรรษแห่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) หรือ OKMD กล่าวว่า “การสนับสนุนการแข่งขันหุ่นยนต์ระดับโลก World Robot Olympiad 2025 (WRO 2025) ถือเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจสำคัญของ OKMD ที่มุ่งส่งเสริมการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์และพัฒนาทักษะแห่งอนาคต (Future Skills) ให้กับเยาวชนไทย เพื่อเตรียมพร้อมสู่โลกแห่งเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างมั่นคง นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้แห่งอนาคต ที่ผสานพลังของความคิดสร้างสรรค์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน เพื่อเตรียมพร้อมคนไทยให้ก้าวสู่สังคมแห่งนวัตกรรมอย่างยั่งยืน”
ดร.ทวารัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า “OKMD ให้การสนับสนุนการแข่งขัน WRO อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2566 เพราะเล็งเห็นว่าการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม คือหัวใจสำคัญของการสร้างทุนมนุษย์คุณภาพสูงในยุคเศรษฐกิจฐานความรู้ การแข่งขันหุ่นยนต์จึงไม่ใช่เพียงเวทีแห่งการประลองฝีมือทางเทคโนโลยี แต่คือกระบวนการเรียนรู้แบบองค์รวม ที่หลอมรวมการคิดเชิงวิเคราะห์ (Critical Thinking) การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ (Creative Problem Solving) และการทำงานร่วมกัน (Collaboration) ผ่านการใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นเครื่องมือสำคัญในการเรียนรู้และสร้างสรรค์นวัตกรรมของคนรุ่นใหม่”
ดร.ทวารัฐ กล่าวทิ้งท้ายถึงผลลัพธ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการแข่งขันครั้งนี้ว่า “เยาวชนไทยจะได้พัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมและการควบคุมหุ่นยนต์ให้สอดคล้องกับความต้องการของอุตสาหกรรมอนาคต อันเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างและต่อยอดบุคลากรคุณภาพด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เยาวชนใช้เวลาว่างอย่างสร้างสรรค์ เปิดโอกาสให้ได้แสดงศักยภาพในระดับประเทศ และผลักดันให้ทีมตัวแทนชาติไทยก้าวสู่เวทีระดับโลกอย่างภาคภูมิ”
สำหรับการแข่งขัน World Robot Olympiad (WRO) เริ่มจัดขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2547 โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้เยาวชนทั่วโลกได้เรียนรู้ผ่านการออกแบบและสร้างหุ่นยนต์เพื่อแก้ปัญหาจริงในสังคม ปัจจุบันมีประเทศเข้าร่วมกว่า 90 ประเทศทั่วโลก โดยในปี 2025 มาในธีม “The Future of Robots” ซึ่งเปิดพื้นที่ให้เยาวชนได้สำรวจบทบาทของหุ่นยนต์ในการสร้างโลกอนาคต เช่น หุ่นยนต์พัฒนา “เมืองแห่งอนาคต (Future Cities)” หุ่นยนต์สำรวจอวกาศและขยายขอบเขตของมนุษย์ หุ่นยนต์ที่ทำงานร่วมกับ AI เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของมนุษย์
การแข่งขัน WRO Thailand 2025 จะจัดขึ้นทั่วประเทศ ครอบคลุม สนามชิงชนะเลิศระดับภูมิภาค 4 ภาค สนามพิเศษ 2 สนาม และ รอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ เพื่อคัดเลือกตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติที่ประเทศสิงคโปร์ โดยแบ่งประเภทการแข่งขันหลักออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1. RoboMission 2. RoboSports 3. Future Engineers 4. Future Innovators
สำหรับผู้ที่ผ่านเข้าสู่รอบนานาชาติ เพื่อเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ มีทีมเยาวชนไทยรวม 16 ทีม ได้แก่
– ประเภท Future Innovators 3 ทีม ได้แก่ ทีม CUD_ClickRobot จากโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถมศึกษา, ทีม KMIDS Haptic Glove Team และ RCVC จากโรงเรียนนานาชาติ KMIDS
– ประเภท Future Engineers 2 ทีม ได้แก่ The team name is KMIDS GFM จากโรงเรียนนานาชาติ KMIDS และทีม YB-SUNFLOWER จากโรงเรียนโยธินบูรณะ
– ประเภท RoboSports 2 ทีม ได้แก่ ทีม “KMIDS NO.1 is here” และทีม Panya Robot จากโรงเรียน Panya Robot
– ประเภท RoboMission มี 9 ทีม ได้แก่ ทีม TAMDAI MakeHappen จากโรงเรียน Tamdai learning Center ทีม Slow But Sure, ทีม Chi Chiang Chiang, ทีม Gor Gai 123 และทีม Last Motor จากโรงเรียน Smart Robot Club, ทีม SPB จากโรงเรียน iBot Academy Rayong, ทีม Brain Step จากโรงเรียน Robot By Brain Step, ทีม SKDW’r Faberolasma จากโรงเรียน Sukhondheerawidh และสุดท้าย ทีม KMIDS OREO 3000 จากโรงเรียนนานาชาติ KMIDS
ซึ่งทั้งหมดจะเป็นกำลังสำคัญของเยาวชนไทยในการสร้างสรรค์นวัตกรรมหุ่นยนต์บนเวทีโลก ภายใต้แนวคิด “The Future of Robots”
