วันที่ 23 พ.ย.68 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบผู้ครอบครองหินประหลาดที่มีความแปลกพิศดารรวมถึงเรื่องราวอัศจรรย์ ที่ตลาดผลไม้ที่บริเวณร้านขายผลไม้ไกล้เคียงตลาดกลางผลไม้สินค้าโอทอปเทศบาลหัวดง
ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไป บริเวณร้านขายผลไม้ซึ่งเป็นซุ้มมุงหลังด้วยผ้ากันสาดเปิดโล่ง ตั้งอยู่ริมถนน หมู่ที่ 9 ต.แม่พูล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ก่อนถึงตลาดกลางผลไม้สินค้าโอทอปเทศบาลหัวดง ซึ่งได้พบกับนายชัยมงคล สว่างกิจ อายุ 60 ปี หรือ คุณป้อม ขณะกำลังนั่งขายผลไม้อยู่ ในคอพบว่าคุณป้อมได้แขวนหินสีดำทึบ ลักษณะคล้ายแร่เหล็กไหล หลายก้อน
ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามถึงหินที่มีลักษณะแปลกที่แขวนอยู่ภายในคอ ซึ่งก่อนที่คุณป้อมจะได้อธิบายถึงหินต่างๆ คุณป้อมได้มีการจุดธูปอัญเชิญ นำหินที่มีความแปลกซึ่งมีที่มาที่ชวนอัศจรรย์นำมาให้ผู้สื่อข่าวได้ดู ซึ่งเป็นต้นกำเกิดก่อนจะได้หินแร่ต่างๆ มา เมื่อได้นำลงมาจากหิ้งให้ผู้สื่อข่าวได้ดู โดยหินลักษณะดังกล่าวมี ขนาดความกว้างประมาณ 1 นิ้ว ลักษณะคล้ายเหล็กแร่ โดยคุณป้อมได้เรียกว่า “พระงั้ง ทองคำ” ด้วยสาเหตุที่ว่า บนหัวของหินมีลักษณะคล้ายหัวนก แต่บริเวณลำตัวคล้ายกับหอย เลยเรียกว่าพระงั้ง สีคล้ายสีทองปนดำ มีลักษณะที่แปลก
คุณป้อม เล่าว่า เมื่อหลายปีก่อน ตนเองเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ และได้เข้าไปร่วมพิธีประทับทรง ตนนั่งอยู่ท้ายพิธี แต่จุ่ ๆ ร่างทรง ได้เรียกตนเข้าไปหา และบอกว่า วันข้างหน้าจะไปช่วย ตนเองก็ไม่ได้คิดอะไรจนกลับมาอยู่ที่บ้าน ที่ตำบลแม่พูล อ.ลับแล และก็ลืมไปแล้วว่า ร่างทรงเคยบอกอะไรไว้
ภายหลังจากนั้นวันนั้นประมาณ 2 เดือนกว่าๆ ตนเองไปนอนเฝ้าสวนที่กระท่อมในสวน กลางดึกได้ปวดฉี่ จึงลุกมาฉี่ ก็พบกับแสงประหลาดเป็นลักษณะคล้ายแสงไฟ ห่างจากที่ตนอยู่ประมาณ 100 เมตร ตนจึงได้เดินเข้าไปดู ลักษณะดินตรงที่มีแสง เป็นลักษณะคล้ายมีอะไรฝังไว้ นูนๆ ขึ้นมา จึงได้ใช้เสียมเสาะเบาๆ ขึ้นมา เมื่อดูแล้วเห็นว่าเป็นหินที่มีลักษณะแปลกดี จึงได้เก็บใส่กระเป๋าและจะเขี่ยเผื่อเจออีก แต่พอจะขุดปรากฏว่าดินตรงที่จะขุดแข็งไม่สามารถขุดได้แล้ว จึงคิดว่า เขาคงให้แค่นี้ เมื่อนึกถึงคำที่ร่างทรงเคยบอกเมื่อ 2 – 3 เดือนก่อนที่จังหวัดเชียงใหม่ คิดว่าน่าจะสอดคล้องกัน เมื่อตนเองนำมาเก็บไว้กับตัว กลางวันจะติดไว้ในกระเป๋า กลางคืนจะนำออกไปไว้ที่บูชาที่หิ้ง
ซึ่งภายหลังจากการนำมาไว้กับตนแล้ว ก็มีหลายเหตุการณ์ที่แปลก เช่นเวลาตนเองไปวัดหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ก็จะมีหินลักษณะคล้ายแร่ อาทิเช่น หินแร่ข้าวตอกพระร่วง หินแร่ก้าวกวาง หินแร่พระแก้วมรกรตหัวหนุมาน หินแร่มหานิน และอื่นๆอีกหลายชนิดมาให้ได้พบเจอ ซึ่งตนก็ได้เก็บมาไว้บูชาพกติดตัวบ้าง บางชนิด และเรื่องโชคลาภก็มีบ้างเรื่อยไแต่ไม่มาก และเหตุการณ์บางเหตุการณ์ที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่ก็รอดมาได้อย่างปาฏิหาร
และที่แปลกกว่านั้น คือ หินที่ตนเรียกว่า “หินพระงั้ง” ที่ตนพบช่วงดึกภายในสวนนั้น หากมีคนมาขอดู เมื่อนำมากำไว้ในมือ จะปรากฏหินจะดิ้นในมือ บางคนสัมผัสได้มาก บางคนสัมผัสได้น้อย หรือบางคนก็สัมผัสไม่ได้เลย หรือ เมื่อมีคนมาถ่ายรูปไป ตอนแรกถ่ายติด พอกลับไปบ้านภาพกลับหายไป แล้วมาขอถ่ายใหม่ กลับถ่ายไม่ติด เชื่อได้ว่าเป็นเรื่องที่แปลกและอัศจรรย์อย่างยิ่ง
ทั้งนี้ตนเองได้เก็บหินแปลกดังกล่าวไว้กับตัวตลอดทั้งที่ได้จาก ในสวนกลางดึกและที่ได้มาจากสถานที่ต่างๆ ในช่วงกลางวันจะเก็บไว้กลับตัว กลางคืนจะถอดเก็บไว้ที่บ้าน หากใครสนใจที่อยากจะชมหรือสัมผัสหินพิศดาลดังกล่าว สามารถเดินทางมาชมด้วยตนเองได้
สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะชม เมื่อมาถึงก่อนถึงตลาดผลไม้สินค้าโอทอปเทศบาลหัวดง จะมีร้านขายข้าวเหนียวส้มตำไก่ย่างวิเชียร สอบถามได้ว่า คนที่มีหินแปลกๆชื่อป้อม ร้านอยู่ตรงไหน ซึ่งคนแถวนี้จะรู้จักกันเป็นอย่างดี
