ความคืบหน้าเรืออับปางกลางทะเล ใกล้กับเกาะล้าน เมื่อเวลา 16.30 น. ( 21 พ.ย.68 ) ศูนย์วิทยุฝ่ายป้องกันภัยพิบัติทางทะเล เมืองพัทยา ( กู้ภัยทางทะเลเมืองพัทยา และ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ชลบุรี ( ศรชล. ) ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุเรือตกปลาอับปางกลางทะเล ระหว่างเกาะล้าน กับ มารวิชัย ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยมีผู้ประสบภัยลอยคออยู่กลางทะเลทะเลกว่า 10 ชีวิต ภายหลังรับแจ้ง ทีมกู้ภัยทางทะเลเมืองพัทยา และ ทีมปฏิบัติการทางน้ำ มูลนิธิสว่างบริบูรณ์ฯเมืองพัทยา มีการนำเรือยางเรือสปีดโบ๊ท ออกไปทำการช่วยเหลือทันที ขณะที่บนฝั่ง ตำรวจท่องเที่ยว , ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา , และ รถพยาบาลจากกู้ภัยฯ มาคอยแสตนบาย เพื่อรอการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้งหมด
ส่วนสภาพอากาศในวันนี้ อ่าวพัทยา มีทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ลมกระโชกแรง ทางกรมเจ้าท่ามีการรถธงแดง ห้ามเรือทุกชนิดออกจากฝั่ง ขณะที่การออกไปตรวจสอบ และ ช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยเรืออัปปาง จากการตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้นทราบว่าเป็นเรือตกปลา ลักษณะเรือตังเก 2 ชั้น ยังไม่ทราบชื่อเรือที่แน่ชัด โดยมีการล่มอัปปาง บริเวณระหว่างเกาะล้าน กับ เกาะมารวิชัย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยมีไต๋เรือ และลูกเรือ เดินทางมากับเรือทั้งหมด 15 ชีวิต และ มีการยืนยันว่าลูกเรือทั้งหมดลอยคออยู่ในทะเลนานกว่า 7 ชั่วโมง จนมีเจ้าหน้าที่ไปช่วยเหลือ
ล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น. ทีมกู้ภัยทางทะเลไปพบผู้ประสบภัยลอยคอเกาะกลุ่มกันอยู่กลางทะเล ผู้ประสบภัยได้ 11 คน เป็นชาย 11 คน หญิง 1 และ เด็กชาย 1 ( หนึ่งในผู้ประสบภัยมีไต๋เรือรวมอยู่ด้วย ) โดยทั้งหมดลอยคอเกาะอยู่กับถังน้ำแข็ง ห่วงยาง ถังน้ำมัน และ บางคนสวมเสื้อชูชีพ ลอยคออยู่ในน้ำทะเลนานกว่า 7 ชม. ทีมกู้ภัยจึงช่วยเหลือขึ้นเรือ พร้อมประสานทีมกู้ชีพนำเรือเข้ามารับ เพื่อพากลับเข้าฝั่ง โดยทั้งหมดอยู่ในสภาพอิดโรย หนาวสั่น และ มีอาการสำลักน้ำ มีเพียงไต๋เรือ เมื่อขึ้นจากน้ำทะเล ก็เกิดอาการหมดสติ ทีมกู้ภัยต้องรีบทำการช่วยเหลือ ปฐมพยาบาลและนำตัวส่งโรงพยาบาลกรุงเทพ-พัทยา ส่วนผู้ประสบภัยรายอื่นๆ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงในเขตพื้นที่เมืองพัทยา

นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์เรือล่มดังกล่าว เพิ่มอีก 4 คน ซึ่งภายหลังเกิดเหตุเรือล่ม พยายามว่ายน้ำเข้าฝั่งเกาะมารชัย เพื่อขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน โดยเจ้าหน้าที่มีการเดินทางไปรับตัวกลับเข้าฝั่ง แล้วมาทำการปฐมพยาบาล ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลเช่นกัน และมีการยืนยันแล้วว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้มีผู้ประสบภัยทั้งหมด 15 คน
นายณัฐวุฒิ สีหามาตย์ อายุ 28 ปี 1 ในผู้ประสบเหตุ เล่าว่า พร้อมครอบครัว 14 ชีวิต ได้เดินทางมาจากกรุงเทพฯ และได้ว่าจ้าง เรือประมงดังกล่าว ให้ไปส่งที่เกาะมารวิชัย ( ซึ่งอยู่ถัดไปกลับเกาะล้าน ) โดยลงเรือเมื่อช่วงเวลาประมาณ 7 โมงเช้า จนช่วงเวลาประมาณ 9 โมง ระหว่างที่เหลือกำลังแล่นไปกลางทะเล ไต๋เรือ ได้ลงไปซ่อมเครื่อง โดยบอกว่าปั๊มน้ำไม่ทำงาน ระหว่างที่ไต๋ลงไปซ่อม ปรากฏว่าในขณะนั้นมีคลื่นลมแรง และเรือเกิดหันขวางแนวคลื่น ก่อนจะถูกคลื่นซัดเข้าทางกาบซ้ายอย่างรุนแรง จนเรือเกิดตะแคงข้างและอับปางลงอย่างรวดเร็ว ตนจึงรีบช่วยเหลือ ทุกคนในเรือและหาที่จับเพื่อเอาชีวิตรอด ก่อนที่จะจมลงสู่ก้นทะเล และลอยคออยู่ในทะเลนานกว่า 7 ชม. สุดท้ายทั้งหมด 15 คนนนั้น ก็มีผู้เสียสละ 4 คน ว่ายน้ำเข้ามารวิชัยเพื่อไปขอความช่วยเหลือส่วนอีก 11 คน เกาะลอยอยู่กลางทะเล ก่อนมี ทีมกู้ภัยออกมาทำการช่วยเหลือดังกล่าว

สำหรับเหตุการณ์เรือล่มในครั้งนี้ มีการยืนยันแล้วว่ามีผู้ประสบภัยทั้งหมด 15 คน เป็นไต๋เรือ 1 คน และผู้โดยสาร 14 คน โดยเรือที่ประสบเหตุชื่อเรือว่า “ก.ทะเลทอง” เป็นลักษณะเรือ ตังเก 2 ชั้น หรือ เรือประมง สีส้มคาดขาว เดินทางออกจากท่าเรือแหลมบาลีฮายเมื่อช่วง 07.00 น. เพื่อมุ่งหน้าไปยังเกาะ มารวิชัย พอเรือผ่านเกาะล้านได้สักพัก เครื่องสูบน้ำภายในตัวเรือเกิดเสีย จากนั้นไต๋ เรือได้ลงไปซ่อมเครื่องสูบน้ำ โดยไม่มีผู้ควบคุมเรือ ประกอบกับในวันนี้มีคลื่นสูงและลมแรง ทำให้เรือถูกขึ้นชัดจนเกิดพลิกคว่ำล่มกลางทะเล ห่างจากชายฝั่งเมืองพัทยาประมาณ 15 ไมล์ทะเล ( หรือประมาณ 30 กิโลเมตร ) และ ห่างจากเกาะมารวิชัย ประมาณ 2 ไมล์ทะเล ในเบื้องต้นผู้ประสบภัยทั้งหมดปลอดภัย มีเพียงนายสุพัด จูแย้ม หรือไต๋เล็ก เกิดการสำลักน้ำอย่างรุนแรง จนหมดสติ แล้วถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ จะทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป



