เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) จัดการแข่งขันนำเสนอไอเดียเพื่อต่อยอดทางด้านธุรกิจ รอบชิงชนะเลิศระดับประเทศไทย “CP CUP: Thailand National Round 2025” เพื่อเฟ้นหาสุดยอดทีมเยาวชนคนรุ่นใหม่จากทั่วประเทศ เป็นตัวแทนของประเทศไทย เข้าร่วมแข่งขันในรอบ Global Round ที่จะจัดขึ้นในต้นปี 2569 โดยรอบ National Round มี 62 ทีมจากผู้สมัครทั้งหมด 157 ทีม จาก 23 มหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วประเทศไทย ที่ผ่านการนำแผนธุรกิจมาลงมือปฏิบัติจริงเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ (PoC: Proof of Concept) ได้ทีมชนะเลิศของ 3 สายการแช่งขัน ประกอบด้วย ทีม Thua ngork จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชนะเลิศอันดับ 1 สาย Practical Marketing ทีม TASK จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ชนะเลิศอันดับ 1 สาย Food R&D และ ทีม 4P Kub จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ชนะเลิศอันดับ 1 สาย Digital Innovation ซึ่งทั้ง 3 ทีมนี้จะได้เป็นตัวแทนประเทศไทยสู่รอบ Global Round (Track Titans League) ซึ่งจะจัดขึ้นในประเทศไทย โดยแข่งขันกับนักศึกษานานาชาติจาก จีน จีน-ไทเป มาเลเซีย เวียดนาม เมียนมา ลาว ฟิลิปปินส์ สหรัฐอเมริกา บังกลาเทศ อินเดีย รัสเซีย และตุรกี จากนั้นทีมชนะเลิศในแต่ละสาย จะร่วมชิงชัยในรอบ Nexus Challenge นำเสนอแนวความคิดเชิงนวัตกรรมเพื่อสร้างสรรค์และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ภายในกรอบเวลา 24 ชั่วโมง นอกเหนือจาก ประสบการณ์ และองค์ความรู้ ที่นักศึกษาจะได้รับอย่างเต็มที่แล้ว การแข่งขันนี้ยังมาพร้อมกับรางวัลและโอกาสในการศึกษาดูงานในธุรกิจของเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) โดยมีมูลค่ารวมกว่า 300,000 บาท

นางสาวพิมลรัตน์ รีพัฒนาวิจิตรกุล ประธานผู้บริหารทรัพยากรบุคคล เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า โครงการ CP Cup 2025 เป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาทั่วประเทศได้แสดงศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนานวัตกรรมทางธุรกิจ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากคนรุ่นใหม่ โดยมีผู้สมัครเข้าร่วมมากถึง 157 ทีม จาก 23 มหาวิทยาลัยทั่วไทย ในปีนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ยังคงมุ่งมั่นผลักดันให้เยาวชนไทยได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ผ่านการอบรม Business Proposal ที่ช่วยเพิ่มความเข้าใจในกระบวนการคิดเชิงธุรกิจ และเตรียมความพร้อมสู่การแข่งขันในระดับที่เข้มข้นยิ่งขึ้น สำหรับการแข่งขันในรอบ National Round เพื่อคัดเลือก 3 ทีมชนะเลิศเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าสู่ Global Round ในปีหน้า เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและแนวคิดกับเยาวชนจากทั่วโลก สิ่งที่โดดเด่นในปีนี้ คือ การได้เห็นพลังของคนรุ่นใหม่ที่นำสิ่งที่รักและสนใจมาต่อยอดเป็นผลงานจริงอย่างมุ่งมั่น แม้ยังไม่มีประสบการณ์ทำงาน แต่ทุกทีมต่างแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและการเรียนรู้ที่ไม่หยุดนิ่ง
“เครือเจริญโภคภัณฑ์ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้กับทุกทีม ประสบการณ์ครั้งนี้เป็นเป็นแรงผลักดันตัวเองที่ก้าวออกจาก comfort zone ในการพัฒนาตนเองต่อไป และขอแสดงความยินดีกับทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ พร้อมอวยพรให้ประสบความสำเร็จในการแข่งขันระดับโลก”

นางสาวชาลิสา วิโรจน์รัตน์ นิสิตปีที่ 3 คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตัวแทนทีม 4P Kub จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวถึงความรู้สึกหลังได้รับรางวัลชนะเลิศในสาขา Digital Innovation “การได้รับรางวัลในครั้งนี้นับว่าคุ้มค่ากับความตั้งใจและความพยายามที่ทีมเราทุ่มเทมาตลอด ถือเป็นรางวัลที่ทุกคนภาคภูมิใจและมีความสุขจริง ๆ สำหรับการเตรียมตัวสู่รอบ Global Round พวกเราตั้งใจจะกลับไปฝึกซ้อมและทำการบ้านเพิ่มเติม เพื่อพัฒนาแผนงานให้แข็งแรงยิ่งขึ้น และพร้อมเต็มที่ในการเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันกับเพื่อน ๆ จากหลายประเทศ ซึ่งการเข้าร่วมโครงการนี้ทำให้ได้เรียนรู้หลายอย่าง ทั้งการทำงานเป็นทีม การบริหารเวลา และการฝึกทักษะใหม่ ๆ ที่ไม่เคยลองมาก่อน ที่สำคัญคือมันเป็นความท้าทายที่ทำให้ต้องก้าวออกจากกรอบเดิม ๆ ของตัวเอง และกล้าที่จะลองสิ่งใหม่ ๆ”

ด้านนายศุภวิชญ์ เบญจวงศ์เสถียร นิสิตชั้นปีที่ 1 สถาบันนวัตกรรมบูรณาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตัวแทนทีม Thua ngork จากสาขา Practical Marketing กล่าวว่า การเข้าร่วมโครงการนี้เป็นโอกาสที่มีคุณค่ามาก เพราะได้เรียนรู้จากการลงมือทำจริง คือ ไม่ได้แค่คิดกลยุทธ์บนกระดาษ แต่ต้องลงพื้นที่และทดสอบจริง ว่าสิ่งที่คิดไว้นั้น ดีหรือไม่ดี ซึ่งช่วยให้เข้าใจมากขึ้นว่าการนำกลยุทธ์ไปสู่การปฏิบัติจริงนั้นต้องอาศัยการเรียนรู้และความยืดหยุ่นสูง ประสบการณ์ครั้งนี้สามารถนำไปต่อยอดได้ทั้งในการแข่งขันเคสต่อ ๆ ไป หรือแม้แต่การทำสตาร์ทอัพในอนาคต และรอบต่อไปจะต้องแข่งขันร่วมกับผู้เข้าแข่งขันจากอีก 12 ประเทศทั่วโลก ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ท้าทายมาก เนื่องจากทีมไม่เคยมีโอกาสร่วมแข่งขันในระดับนานาชาติมาก่อน จึงอยากเห็นมุมมองของแต่ละประเทศว่าจะนำเสนอแนวคิดอย่างไรกับเคสที่ได้รับ และจะพยายามทำให้ดีที่สุด

ขณะที่นางสาวชินศิริ เต่งภาวดี นิสิตชั้นปีที่ 2 คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตัวแทนทีม TASK จากสาขา Food R&D กล่าวว่า โครงการนี้เป็นประสบการณ์ใหม่ที่มีคุณค่ามาก ในฐานะที่เรียนสาย Food Science ซึ่งไม่ค่อยได้สัมผัสเรื่องธุรกิจมาก่อน ครั้งนี้จึงถือเป็นครั้งแรกที่ได้เรียนรู้ทั้งการคิดเชิงกลยุทธ์และการนำเสนอเชิงธุรกิจจริง ๆ ผ่านการอบรมจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งช่วยเปิดโลกและสร้างโอกาสต่อยอดไปสู่เส้นทางอาชีพในอนาคตได้มากมาย นับเป็นจุดเริ่มต้นของความหวังและแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่

สำหรับ CP CUP เริ่มต้นครั้งแรกในปี 2016 ที่ประเทศจีน มีนักศึกษาเข้าร่วมกว่า 3,000 คน และขยายต่อเนื่องจนมีมหาวิทยาลัยเข้าร่วมถึง 266 แห่งและผู้เข้าร่วมแข่งขันกว่า 10,000 คน ในปี 2020 ก่อนจะขยายสู่ประเทศไทยในปี 2024 ที่จัดการแข่งขันระหว่างไทยและจีน จนในปี 2025 ยกระดับการแข่งขันสู่เวที ‘Global Business Case Competition’ อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมชิงรางวัลมูลค่ารวมกว่า 300,000 บาท และโอกาสในการศึกษาดูงานกับธุรกิจของเครือซีพีทั้งในประเทศไทยและประเทศจีน โดยมีตัวแทนนักศึกษาจาก 13 ประเทศ ได้แก่ ไทย จีน ไต้หวัน มาเลเซีย เวียดนาม เมียนมา ลาว ฟิลิปปินส์ สหรัฐอเมริกา บังกลาเทศ อินเดีย รัสเซีย และตุรกี มาร่วมประชันไอเดียธุรกิจ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และผลักดันนวัตกรรมข้ามพรมแดน สะท้อนวิสัยทัศน์ของเครือซีพี ที่มุ่งสนับสนุนคนรุ่นใหม่ให้ได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกการทำงานเป็นทีม เสริมทักษะการคิดเชิงนวัตกรรม และสร้างเครือข่ายกับเพื่อนต่างชาติ ซึ่งสอดคล้องกับค่านิยมองค์กรที่ยึดมั่นในการ “คิดใหม่ ทำใหม่ และสร้างสรรค์สิ่งที่ดีกว่า” เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจและสังคมสู่อนาคต






