

วันที่ 16 พ.ย. 2568 บิ๊กยูร ลงพื้นที่ชายแดนใต้ หนุนโครงการพระราชดำริ สร้างอาชีพมั่นคง มทภ.4/ผอ.รมน.ภาค 4 ตรวจเยี่ยมศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อสานต่อพระราชปณิธาน ”พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนชายแดนใต้“ มทภ.4/ผอ.รมน.ภาค 4 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม “ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” เดินหน้าสานต่อพระราชปณิธาน พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนชายแดนใต้ ที่ ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (ตลาดกลางการเกษตรและห้องเย็น พล.ร.15 ภายในค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พลตรี ณรงค์ ตันติสิทธิพร ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงาน “โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ” พร้อมด้วยฝ่ายอำนวยการประจำศูนย์ฯ ร่วมให้การต้อนรับ พลโท นรธิป โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ในโอกาสที่ได้เดินทางลงพื้นที่ ก็ได้เดินดูรอบๆ พบปะพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดนัดโรงเย็น (พล.ร.15) จากนั้นได้ท่านแม่ทัพถึงก็ได้ขึ้นไปยังห้องประชุมชั้น2 เพื่อร่วมฟังสรุปและพบปะกำลังพล จากหน่วยขึ้นตรงที่ปฏิบัติงาน ประจำศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สำหรับ การเยี่ยมเยียนในครั้งนี้ ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกก็ที (แม่ทัพยูร) ได้เดินดูรอบๆตลาดนัด และเดินดู ชมสินค้าที่จัดจำหน่ายภายในตลาดแห่งนี้ ขณะเดียวกัน พลโท นรธิปฯ ได้คุยเป็นกันเองกับผู้ที่มาค้าขาย พ่อค้าแม่ค้าาต่างได้เห็นคาดตาเป็นครั้งแรก ขณะเดียวกันท่านก็ได้ให้กำลังใจกับเหล่าบรรดา พ่อค้าแม่ค้า ภายในตลาดนัดวันอาทิตย์ (ตลาดกลางการเกษตรฯ ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโอกาสทุกคน โดยเฉพาะกำลังพลที่ประจำการอยู่ภายใน พล .ร.15 ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย ชาวบ้านที่เป็นพ่อค้าต่างถิ่นก็ยังมาเปิดแผงงขายของ และร่วมจดทะเบียน เพื่อเข้าร่วมโครงการฟาร์มตัวอย่าง” ที่ท่านแม่ทัพพยูร สัญญาจะสานต่อภารกิจเดิมที่มีอยู่



นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังเผยว่า การที่ทำให้ตบาดนีฝักภายในค่ายทหารนั้นไม่ได้น่ากลัว อย่างที่หลายๆคนคิดไว้ ทำให้ตลาดดูคึกคักเป็นพิเศษ โดยได้นำผลิตผล ที่ทางทหารหน่วยต่างๆ โดยเฉพาะ จาก ฉก.ปัตตานี ที่กำลังพลนั้นส่วนใหญ่เป็นลูกชาวสวน และะเคยทำการเกษตรมาก่อน มีสินค้าจากชาวบ้าน และชุมชนข้างเคียง นำมาวางขายทั้งวัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดผลดี และสามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ เสริมให้กับครอบครัวกำลังพลที่ลำยากได้อย่างอย่างยั่งยืน ภายหลังได้ตรวจเยี่ยม บริเวณตลาดนัด ก็ได้เยี่ยมชมกิจกรรม “ประดิษฐ์โบว์สีดำ” เพื่อแสดงความอาลัยยิ่งให้กับสมเด็จพระพันปีหลวง ซึ่งจัดขึ้นโดยศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้จับมือร่วมกับทางศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอหนองจิก ปัตตานี มีประชาชน รวมไปถึงเยาวชน เข้าร่วมกิตกรรมสร้างอาชีพ เพื่อนำมาเลี้ยง จุนเจือ ครอบครัสะวได้โดยไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่ผิดกฏหมาย สิ่งเหล่านี้ ส่งผลได้อย่างชีดเจน จึงสะท้อนให้เห็นถึงความจงรักภัฃฃและความสามัคคีของคนในพื้นที่ นอกจากนี้ ท่านแม่ทัพได้ พบปะ และพูดคุยกับสมาชิก โครงการฟาร์มตัวอย่างฯ พระพันปีหลวง, สมาชิก ราษฏรอาสารักษาหมู่บ้าน (อรบ.), รวมถึงกลุ่ม ศิลปชีพ ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี เพื่อรับฟังปัญหา ความต้องการ และข้อเสนอแนะ ตลอดจนให้กำลังใจในการประกอบอาชีพ รวมถึงสนับสนุนการยกระดับผลิตภัณฑ์และช่องทางตลาดให้เติบโตอย่างมั่นคง


พร้อมกันนี้ได้รับฟังการบรรยายสรุปผลการดำเนินงานของ ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (ศปพร.) ทั้งในด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชน การส่งเสริมอาชีพ การบริหารจัดการพื้นที่เกษตร ตลอดจนกิจกรรมขับเคลื่อนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ก่อนร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแนวทางดำเนินงานเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ให้เกิดผลจริงอย่างยั่งยืน มทภ.4/ผอ.รมน.ภาค 4 ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการ สืบสาน รักษา และต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ให้เป็นกลไกหลักในการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม และชุมชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมขับเคลื่อนให้เป็น “ศูนย์กลางการพัฒนา” ที่ตอบโจทย์ประชาชนทุกมิติ ทั้งการสร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ พัฒนาทักษะอาชีพ และสร้างสังคมที่เข้มแข็งบนพื้นฐานความพอเพียง การลงพื้นที่ในครั้งนี้สะท้อนถึงเจตนารมณ์อันแน่วแน่ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ในการทำงานเคียงข้างประชาชน พร้อมผลักดันโครงการพระราชดำริให้เป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญ ที่จะอยู่คู่กับจังหวัดชายแดนภาคใต้และสร้างประโยชน์ต่อประชาชนอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

ตอริก สหสันติวรกุล ผู้สื่อข่าว TOPNEWS ทั่วไทย จ.ปัตตานี

