จ.ตราด/(13 พฤศจิกายน 2568) เวลา 15.00 น. ที่ห้องประชุม อบต.แหลมกลัด อ.เมือง จ.ตราด นายเอกราช อุดมอำนวย ประธานคณะกรรมาธิการการทหาร (กมธ.) พร้อมคณะได้ลงพื้นที่จังหวัดตราด เพื่อติดตามการดำเนินงานและรับฟังปัญหาอุปสรรคของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (นย.) กองทัพเรือ โดยมีนายศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด และทีมงาน ร่วมติดตามการเดินทางในครั้งนี้ด้วย
น.อ.ธรรมนูธ วรรณา ผบ.ฉก.นย.ตราด รายงานสถานการณ์ชายแดนไทย- กัมพูชา ด้านจังหวัดตราด ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พบว่า มีการรุกล้ำพื้นที่รวมทั้งสิ้น 35 จุด โดยส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการก่อสร้างถนนยุทธศาสตร์ K5 ของฝ่ายกัมพูชา ในช่วงประมาณปี 2556-2557 ในขณะนั้น เมื่อฝ่ายไทยตรวจพบก็ได้เข้าไปดำเนินการยับยั้งและเจรจา ทำให้ฝ่ายกัมพูชาเปลี่ยนทิศทางการสร้างถนน จนปัญหานั้นคลี่คลายไป
ส่วนที่เป็นปัญหามากที่สุด คือ พื้นที่ บ้าน 3 หลัง ซึ่งจากการตรวจสอบด้วยภาพถ่ายดาวเทียมและ Google Earth พบว่า มีลักษณะการรุกล้ำเข้ามาในเขตไทยประมาณ 100 กว่าเมตร ซึ่งฝ่ายไทย ได้ยื่นหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการ มีการพูดคุยและเจรจากับกองกำลังฝั่งตรงข้ามในพื้นที่ เพื่อเรียกร้องให้ถอนกำลังออกไป และปัจจุบันยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการเจรจา
แต่ฝ่ายกัมพูชานั้น อ้างถึง MOU ปี 2543 ว่า “ห้ามการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิประเทศ ที่จะส่งผลกระทบต่อการปักปันเขตแดนในอนาคต” พร้อมระบุว่า บ้าน 3 หลังนี้ เข้ามาอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ตั้งแต่ ปี 2529 ซึ่งเป็นเวลาก่อนที่ MOU ปี 2543 จะมีผลบังคับใช้
น.อ.ธรรมนูธ ยืนยันว่า แม้จะมีการอ้างว่าอยู่มาก่อน แต่เมื่อเทคโนโลยีปัจจุบันสามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้แล้ว กัมพูชาก็ต้องถอนกำลังออกไป แต่ฝ่ายกัมพูชาไม่ยอม และแจ้งว่าหากจะให้ถอนออกไป ต้อง JBC (คณะกรรมการเขตแดนร่วม) ได้ดำเนินการปักปันเขตแดนในจุดนี้จนได้ข้อยุติ หรือ มีคำสั่งจากรัฐบาลกัมพูชา ให้ถอนออกมาเท่านั้น สำหรับการดำเนินการในตอนนี้ของบ้าน 3 หลัง นั้น ทาง ฉก.นย.ตราด ได้วางกำลังประชิดบ้าน 3 หลัง และพร้อมจะเปิดปฏิบัติการทันทีหากได้รับคำสั่ง
ผบ.ฉก.นย.ตราด ยังพูดถึงประเด็นการกาสิโนทมอดา ที่อยู่พื้นที่พิพาทนั้น อยากจะฝาก คณะกรรมาธิการการทหาร (กมธ.) ไปยังรัฐบาล ให้เร่งจัดการเรื่องเขตแดนให้มีความชัดเจนโดยเร็ว ซึ่งทหารพร้อมจะปกป้องอธิปไตยไทย หากแนวเขตแดนชัดเจน ทหารมีความพร้อมที่จะปฏิบัติการทันที แต่วันนี้แนวเขตแดนยังไม่ชัด ฝ่ายกัมพูชาไม่ยอมรับ ทำให้ปัญหาการจัดการของทหารนั้นก็ทำไม่ได้ ส่วนพื้นที่ไหนที่ชัดเจนเรื่องเขตแดน ทหารดำเนินการตามขั้นตอนอยู่แล้ว
จากนั้นเวลา 16.30 น. คณะกรรมาธิการการทหาร (กมธ.) เดินทางไปยังชายแดนบ้านท่าเส้น เพื่อดูวสถานที่จริง เพื่อเก็บข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดดำเนินการในขั้นตอนต่อไป
นายเอกราช อุดมอำนวย กล่าวว่า หลังได้รับฟังปัญหาการปฏิบัติงานของนาวิกโยธิน ทั้งอุปสรรคด้านเส้นทางส่งกำลังบำรุง และข้อติดขัดด้านกฎหมาย เพื่อรวบรวมทำความเห็นและให้การสนับสนุนการปฏิบัติการทางทหาร โดยทางหน่วยนาวิกโยธินในพื้นที่ ได้มีข้อเสนอแนะสำคัญ คือ การผลักดันเส้นทางส่งกำลังบำรุงสายใหม่ ซึ่งจะตัดยาวไปจนถึงจังหวัดจันทบุรี เชื่อมต่อกันในลักษณะรูปตัว U และตัว ก
ซึ่งเส้นทางนี้ นอกจากจะเป็นประโยชน์ด้านยุทธการทางทหารแล้ว ในอนาคต กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะสามารถใช้ประโยชน์ในการดูแลป่าไม้และเป็นแนวกันไฟป่าได้อีกด้วย โดยทางกรรมาธิการฯ จะรับไปดำเนินการทำหนังสือเพื่อคลี่คลายข้อระเบียบปฏิบัติต่างๆ ต่อไป
ขณะเดียวกัน กรรมาธิการฯ ได้รับฟังความคิดเห็นจากตัวแทนกำนันและผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ซึ่งสะท้อนปัญหาปากท้องและความมั่นคง โดยมีข้อเสนอว่า หากสถานการณ์ชายแดนยังไม่สามารถตกลงกันได้ ก็ยังไม่ต้องการให้มีการเปิดด่าน แต่ต้องการให้รัฐบาลหันมาช่วยดูแลเศรษฐกิจภายในจังหวัด โดยเฉพาะการสนับสนุนการท่องเที่ยวและตลาดชุมชน เพื่อให้เกษตรกรและผู้ค้าขายสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้
เนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรมในจังหวัดตราดพอสมควร ทางกรรมาธิการฯ จึงจะทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว แม้ว่าพื้นที่จะมีการประกาศใช้กฎอัยการศึกก็ตาม
ขณะเดียวกัน น.อ.ธรรมนูธ วรรณา ผบ.ฉก.นย.ตราด ยืนยัน กับ กมธ.ทหาร ว่าพื้นที่ในจังหวัดตราด มีความปลอดภัย และนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ตามปกติ โดยการสนับสนุนการท่องเที่ยวในจังหวัดตราด ถือเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจที่ดี และจะช่วยให้เศรษฐกิจในจังหวัดสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้
ส่วนเฉพาะประเด็น กาสิโน ที่ตั้งอยู่บริเวณชายแดน ทราบข้อมูลเบื้องว่า มีการใช้แผนที่สำรวจร่วม (Joint Border Survey) ในอัตราส่วนที่ละเอียดมาก (1 : 2,500) พบว่า ตัวอาคารคาสิโนประมาณครึ่งหนึ่ง อาจล้ำเข้ามาในดินแดนอธิปไตยของไทย อย่างไรก็ตาม แผนที่ดังกล่าวยังไม่ได้รับการยอมรับจากอีกฝ่าย
หากการขีดเส้นตกลงกันแล้วเสร็จ และเป็นไปตามผลสำรวจดังกล่าวจริง พื้นที่ส่วนที่รุกล้ำเข้ามาจะต้องมีการรื้อถอนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
จึงมีการเรียกร้องให้เร่งรัดดำเนินการเรื่องแนวเขตแดนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยยกตัวอย่างความสำเร็จในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ที่ภาคประชาชนมีความเข้มแข็งและให้การสนับสนุนฝ่ายความมั่นคง จนสามารถขีดเส้นแนวเขตได้ชัดเจน อันเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่ายและยุติข้อพิพาทโดยเร็ว
ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องดำเนินการเร่งด่วนคือ กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ต้องทำงานเชิงรุกในเรื่องนี้ เนื่องจากถือว่ามีหลักฐานการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนแล้วว่าเส้นแบ่งเขตแดนอยู่ที่ใด ซึ่งทั้งสองฝ่ายควรต้องยอมรับในผลการสำรวจดังกล่าว
