วันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ตำบลโคกสูง อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว หลังเกิดเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ส่งผลให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ห่างจากชายแดนเพียง 500 เมตร ต้องอพยพหลบภัยในช่วงกลางคืน และเพิ่งกลับเข้าพื้นที่ในเช้าวันนี้
ที่ด่านชรบ.บ้านหนองหญ้าแก้วยังมีสื่อมวลชนหลายสำนักลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ขณะที่ชาวบ้านยังคงต้องออกไปทำมาหากินตามปกติ เนื่องจากส่วนใหญ่มีอาชีพทำนาและเลี้ยงวัว แต่ต้องทำงานภายใต้ความหวาดกลัวเสียงระเบิดที่ยังได้ยินเป็นระยะ
บรรยากาศที่วัดหนองหญ้าแก้ว ซึ่งอยู่ใกล้หลุมหลบภัยหลายจุด ยังมีร่องรอยความตื่นตกใจจากเหตุระเบิดเมื่อคืนที่ผ่านมา ระหว่างพระสวดอภิธรรมศพ ชาวบ้านที่มาร่วมงานต้องวิ่งหลบเข้าที่ปลอดภัยกันอย่างโกลาหล

ชาวบ้านในพื้นที่เผยว่า นอกจากความไม่สงบแล้ว ยังต้องเผชิญกับปัญหาราคาข้าวตกต่ำและขาดสภาพคล่อง นายบุญเหลือ บุณพสิทษฐโศธิน อายุ 56 ปี ชาวบ้านหมู่ 3 ต.โคกสูง กล่าวว่า ราคาข้าวเปลือกปีนี้ตกต่ำมาก ขายได้ไม่ถึงกิโลกรัมละ 5 บาท เนื่องจากฝนตกทำให้ข้าวเปียกน้ำ ขณะเดียวกันชาวนาแต่ละรายต้องจ้างรถเกี่ยวในราคาตันละ 650 บาท บางคนไม่มีเงินจ่าย ต้องขอเลื่อนชำระ
“ตอนนี้ลำบากมาก ทั้งกลัวระเบิด ทั้งราคาข้าวตกต่ำ ขายไม่ได้ จะอพยพหนีก็กลัวข้าวในนาจะเสียหาย อยากให้รัฐบาลรีบเข้ามาช่วยเหลือโดยด่วน” นายบุญเหลือกล่าว
ด้านนางวาสนา โสดาจันทร์ ชาวบ้านอีกคน บอกทั้งน้ำตาว่า เมื่อวานนำข้าวไปขายแต่ถูกกดราคา จนต้องขนกลับบ้านมาตากต่อโดยไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว

นอกจากนี้ ชาวบ้านยังประสบปัญหาราคาวัวตกต่ำและขาดแคลนพื้นที่หญ้าเลี้ยงสัตว์ เนื่องจากไม่สามารถข้ามไปฝั่งถนนศรีเพ็ญได้เหมือนเดิม ทำให้ต้องซื้อฟางมาเลี้ยงแทน ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น
ชาวบ้านหนองหญ้าแก้วต่างวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาช่วยเหลือ เยียวยาทั้งด้านราคาพืชผลและผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดน ก่อนที่ความเดือดร้อนจะลุกลามไปมากกว่านี้


