“นิด้าโพล” เผยผลสำรวจปชช. 91% หนุนใช้โดรนทางทหาร-อาวุธสังหารอัตโนมัติในภารกิจ มองเพิ่มประสิทธิภาพในการโจมตี การป้องกันภัย ลดความเสี่ยงต่อชีวิต

"นิด้าโพล" เผยผลสำรวจปชช. 91% หนุนใช้โดรนทางทหาร-อาวุธสังหารอัตโนมัติในภารกิจ มองเพิ่มประสิทธิภาพในการโจมตี การป้องกันภัย ลดความเสี่ยงต่อชีวิต

วันที่ 12 พ.ย.2568 ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า เปิดเผยผลการสำรวจเรื่อง “โดรนทางการทหารและความมั่นคง” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 5-7 พฤศจิกายน 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับความคิดเห็นของประชาชนต่อการใช้โดรนในภารกิจทางทหารและความมั่นคงของไทย

เมื่อถามถึงการรู้จักและการใช้โดรนของประชาชน พบว่า ตัวอย่าง 78.47% ระบุว่า รู้จักแต่ไม่เคยใช้ รองลงมา 13.13% ระบุว่า รู้จักและเคยใช้ และ 8.40% ระบุว่า ไม่รู้จัก

เมื่อสอบถามเฉพาะผู้ที่ระบุว่ารู้จักโดรน ทั้งที่เคยใช้และไม่เคยใช้โดรน จำนวน 1,200 หน่วยตัวอย่าง ในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้ ความสำคัญของการใช้โดรนในภารกิจทางทหารและความมั่นคงของไทย พบว่า ตัวอย่าง 80.50% ระบุว่า สำคัญมาก รองลงมา 17.33% ระบุว่า ค่อนข้างสำคัญ 1.50% ระบุว่า ไม่ค่อยสำคัญ 0.42% ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่แน่ใจ และ 0.25% ระบุว่า ไม่สำคัญเลย

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ความคิดเห็นของประชาชนต่อการใช้โดรนในภารกิจทางทหารและความมั่นคงของไทย พบว่า ตัวอย่าง 91.08% ระบุว่า เห็นด้วยกับการใช้โดรนในภารกิจทางทหารและความมั่นคงของไทย รองลงมา 57.25% ระบุว่า ช่วยลดความเสี่ยงต่อชีวิตมนุษย์ 51.50% ระบุว่า เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในภารกิจการป้องกันภัย 48.08% ระบุว่า เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในภารกิจการโจมตีเป้าหมาย 21.50% ระบุว่า เป็นการใช้ความได้เปรียบทางเทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ 16.42% ระบุว่า ไทยควรผลิตโดรนเองเพื่อลดการพึ่งพิงเทคโนโลยีจากต่างประเทศ 4.17% ระบุว่า เป็นการเอาเปรียบคู่ต่อสู้จากการมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่า 3.08% ระบุว่า ไทยอาจต้องพึ่งพิงเทคโนโลยีจากต่างประเทศมากเกินไป 2.58% ระบุว่า อาจเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศจากการล่วงล้ำเขตแดนเพื่อนบ้าน 1% ระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับการใช้โดรนในภารกิจทางทหารและความมั่นคงของไทย 0.83% ระบุว่า ไม่ใช่การรบแบบสุภาพบุรุษ 0.58% ระบุว่า ควรนำงบประมาณไปใช้อย่างอื่นดีกว่า และอาจเป็นการละเมิดกฎของสงคราม เช่น การใช้โดรนโจมตีเป้าหมายนอกเขตการสู้รบ เป็นต้น ในสัดส่วนที่เท่ากัน และ 0.50% ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ

เมื่อถามถึงการรู้จักระบบอาวุธสังหารอัตโนมัติ พบว่า ตัวอย่าง 48.50% ระบุว่า ไม่รู้จักเลย รองลงมา 41.25% ระบุว่า พอรู้จักบ้าง 10.17% ระบุว่า รู้จักดี และ 0.08% ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่แน่ใจ

 

ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อผู้ที่ควรรับผิดชอบในกรณีที่การใช้ระบบอาวุธสังหารอัตโนมัติในภารกิจทางทหารและความมั่นคงของไทยเกิดความผิดพลาด พบว่า ตัวอย่าง 43.92% ระบุว่า ผู้บัญชาการกองทัพ รองลงมา 38.92% ระบุว่า ผู้ควบคุมหน่วยระบบอาวุธสังหารอัตโนมัติ 26.33% ระบุว่า ผู้นำประเทศ 24.58% ระบุว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม 12.75% ระบุว่า ผู้ออกแบบ เขียน Code ป้อนข้อมูล สำหรับระบบอาวุธสังหารอัตโนมัติ 11.50% ระบุว่า บริษัทผู้ผลิต และ/หรือ จัดจำหน่ายอาวุธ 10.42% ระบุว่า นักการเมืองผู้ร่วมอนุมัติงบจัดซื้ออาวุธ 9% ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่แน่ใจ และ 4% ระบุอื่น ๆ ได้แก่ ทุกฝ่ายต้องรับผิดชอบร่วมกัน

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อการใช้ระบบอาวุธสังหารอัตโนมัติในภารกิจทางทหารและความมั่นคงของไทย พบว่า ตัวอย่าง 51.33% ระบุว่า เห็นด้วยอย่างยิ่ง รองลงมา 22.42% ระบุว่าค่อนข้างเห็นด้วย 12.50% ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย 11.50% ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย และ 2.50% ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่แน่ใจ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"Fix it – อาชีวะจิตอาสา" ซ่อมบ้าน ซ่อมใจ จากพลังฝีมือ เป็นพลังใจ สร้างสังคมแห่งการให้ ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบชายแดนไทย–กัมพูชา
"นายกฯอนุทิน" พยักหน้ารับ "กองทัพ" พร้อมเผชิญศึกรอบใหม่ ขอคนไทยมั่นใจแผนปฏิบัติการป้องแผ่นดิน
MEA เผยผลสำเร็จโครงการทดลอง TOU ชี้ 93% ประหยัดจริง! ลดค่าไฟเฉลี่ยกว่า 12.6% พร้อมเดินหน้าโครงการขยายผล รับเพิ่ม 2,000 ราย
TSB ส่งมอบรถสานฝัน EV Bus สานฝันให้ 'หมอนทองวิทยา'
กรมทรัพยากรน้ำสรุปผลรับฟังความคิดเห็นประชาชน ปัญหาแม่น้ำกก “สุชาติ” ย้ำรัฐบาลยึดเสียงประชาชนเป็นศูนย์กลาง ยุติแนวคิดสร้างฝายดักตะกอนเด็ดขาด
"หมอวรงค์" สรุปให้คิดกัมพูชาวันนี้ ต้องการอะไรแน่ สันติภาพหรือดินแดนไทย

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​