"อัจฉริยะ" ออกแถลงการณ์แจง พาดพิงอดีตนายกฯ โยงธุรกิจสีเทา ไม่ใช่ "บิ๊กตู่- ทักษิณ" ยันเดินหน้าแฉเส้นเงิน ไม่มีเจตนากระทบองค์กรตร. แค่อยากให้เร่งปราบปราม
ข่าวที่น่าสนใจ
ภายหลังนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือถึงนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ตรวจสอบนายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม (กธ.) กับพวกที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ และเส้นเงินยาเสพติดและการรับสินบนของตำรวจและข้าราชการท้องถิ่นและการเมืองมูลค่า 2,500 ล้านบาท และการล้มคดีเว็บพนันออนไลน์
โดยนายรังสิมันต์ กล่าวว่า ขอบคุณนายอัจฉริยะที่เข้ามายื่นหนังสือเรื่องที่เกี่ยวกับนักการเมืองคนหนึ่งคือนายชนนพัฒฐ์ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าไปเกี่ยวพันในเว็บพนัน ซึ่งเว็บพนันกับสแกมเมอร์ก็เป็นเหมือนพี่น้องที่คลานตามกันมาเซิร์ฟเวอร์ บัญชีม้าอาจจะเป็นแหล่งเดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่เราติดตามอย่างใกล้ชิดถือว่ามีความสำคัญกับชาติบ้านเมือง เพราะนายกรัฐมนตรีก็ประกาศว่าปัญหาสแกมเมอร์เป็นวาระแห่งชาติ ไม่ใช่แค่ปัญหาอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในประเทศแต่เป็นปัญหาอาชญากรรมที่เป็นวาระใหญ่ของโลกถือว่าเป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายที่ต้องช่วยกันแก้ปัญหา ซึ่งเรื่องที่ได้ยื่นมาวันนี้คงไม่ช้าแน่นอน ในฐานะกมธ. นอกจะเอาข้อมูลมาพิจารณาแล้วก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายนั้น
ล่าสุดนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ออกหนังสือแถลงการณ์ ระบุว่า แถลงการณ์ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ตามที่ข้าพเจ้านายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เปิดเผยความจริงแสดงแผนผังเส้นทางการเงินต่อสื่อมวลชน และพี่น้องประชาชนที่รับฟังทั่วประเทศ เรื่องสส.ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว กับพวก ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินเว็บพนันออนไลน์ และเส้นเงินยาเสพติด ที่ถูกดำเนินคดีโดยชุดสืบสวน PCT 4 ที่สภ.เมืองสงขลา และสภ.หาดใหญ่ และต่อมามีการกลับคำให้การโดยชุดสืบสวน PCT 4 ทำให้ สส.ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว กับพวก อัยการสั่งไม่ฟ้อง โดยมีการยื่นหลักฐานเป็นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ไปแล้วนั้น

ต่อมาข้าพเจ้า จึงได้ยื่นหนังสือพร้อมพยานหลักฐานกล่าวโทษ สส.ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว กับพวก ต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในความผิดฐานฟอกเงิน อันเกิดจากคดีความผิดมูลฐาน การจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (พนันออนไลน์) ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 พระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และต่อมากรมสอบสวนคดีพิเศษได้ตั้งเลขสืบสวน139/2568 แล้วนั้น

และข้าพเจ้าได้แสดงเส้นทางการเงิน และเปิดเผยรายชื่อแผนผังรายการโอนออกจากบัญชี นางสาวเอ นามสมมุติ ผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าแม่เว็บพนันออนไลน์พื้นที่ภาคใต้ ไปสู่ข้าราชการระดับสูง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาท้องถิ่น ปี 2566 จนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังพบว่ามีเส้นทางการเงินโอนเงินผ่านบัญชีม้าให้กับชุดตำรวจ PCT 4
เป็นรายเดือนอีกด้วย การเปิดเผยความจริงมีความต้องการเพื่อให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจหน้าที่ในการเร่งรัดเอาผิดกับขบวนการดังกล่าวโดยเร่งด่วนหาใช่เป็นเรื่องการโจมตีหรือทำลาย

องค์กรตำรวจแต่อย่างใด วัตถุพยาน และเอกสารต่าง ๆ มีที่มา ที่ไป อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพราะขณะนี้ถือการปราบปรามเว็บพนันออนไลน์ และสแกมเมอร์ เป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลประกาศเป็นวาระแห่งชาติ โดยชมรมฯ ยังมีข้อมูลสำคัญที่สามารถช่วยเหลือรัฐบาล และหน่วยงานของรัฐ ในการปราบปรามสแกมเมอร์ได้อย่างรวดเร็ว และเห็นผลโดยเร็ว ทั้งนี้ทางชมรมฯ ยังมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับแวดวงการเมืองและข้าราชการอีกจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมาย ซึ่งจะนำเสนอให้สื่อมวลชน และพี่น้องประชาชนได้ทราบต่อไป ทั้งนี้กรณีที่มีกลุ่มบุคคลแสดงออกถึงการที่ข้าพเจ้า และชมรมฯ ออกมาเปิดเผยถึงความไม่ชอบมาพากล ของการดำเนินการสืบสวนสอบสวนในกรณีข้างต้น ทางชมรมฯมีความเห็นว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าวควรจะเร่งรัดตรวจสอบในสิ่งที่ข้าพเจ้าเปิดเผยโดยเร่งด่วน เพื่อไม่ให้ประชาชนเคลือบแคลงสงสัยในกระบวนการตรวจสอบมากกว่าที่จะมาฟ้องร้องเพื่อปิดปากไม่ให้ข้าพเจ้าดำเนินการเพื่อประโยชน์สาธารณะ
อนึ่งหนึ่งตามที่ข้าฯได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนถึงอดีตนายกรัฐมนตรีที่มีส่วนให้การสนับสนุนข้าราชการที่กระทำความผิดกฎหมายในรับสินบนจากแก๊งสแกมเมอร์ เว็บพนันออนไลน์ หรือธุรกิจมืด รวมทั้งการวิ่งเต้นโยกย้ายข้าราชการ เพื่อให้ไม่ต้องรับโทษ และยังอยู่ในตำแหน่งที่มีอำนาจในการเรียกรับผลประโยชน์ โดยข้าฯขอยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีทั้ง 2 ท่าน จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

