
 
  
 

 
  
  วันที่ 31 ต.ค. 2568 พ.ต.อ.ณรงค์ ลักษณะวิมล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปลายพระยา จ.กระบี่ เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ออกมาเตือนประชาชนให้ระวังการตกเป็นเหยื่อของขบวนการ “บัญชีม้า” ซึ่งหมายถึงบัญชีธนาคารที่เปิดในชื่อของบุคคลหนึ่ง แต่ถูกนำไปใช้โดยผู้อื่นในการกระทำความผิด เช่น การฟอกเงิน การหลอกลวงออนไลน์ หรืออาชญากรรมทางเทคโนโลยีรูปแบบต่าง ๆ
วันที่ 31 ต.ค. 2568 พ.ต.อ.ณรงค์ ลักษณะวิมล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปลายพระยา จ.กระบี่ เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ออกมาเตือนประชาชนให้ระวังการตกเป็นเหยื่อของขบวนการ “บัญชีม้า” ซึ่งหมายถึงบัญชีธนาคารที่เปิดในชื่อของบุคคลหนึ่ง แต่ถูกนำไปใช้โดยผู้อื่นในการกระทำความผิด เช่น การฟอกเงิน การหลอกลวงออนไลน์ หรืออาชญากรรมทางเทคโนโลยีรูปแบบต่าง ๆ



 
  
  
  พ.ต.อ.ณรงค์ กล่าวว่า ปัจจุบันคนร้ายมักใช้หลายวิธีในการหลอกลวง อาทิ การอ้างว่าทำธุรกิจชั่วคราวเพื่อขอให้เปิดบัญชีรับโอนเงินแทน การแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารหรือเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อหลอกขอข้อมูลส่วนตัว รวมถึงการล่อผลตอบแทน เช่น เสนอเงินหรือของรางวัลให้เหยื่อยอมส่งบัตรเอทีเอ็มหรือข้อมูลบัญชีให้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในการกระทำผิดกฎหมายต่อไป สำหรับแนวทางป้องกัน พ.ต.อ.ณรงค์ แนะนำว่า ประชาชนไม่ควรเปิดบัญชีให้ผู้อื่นใช้ ไม่ว่าจะอ้างเหตุผลใดก็ตาม ห้ามให้ข้อมูลส่วนตัวกับคนแปลกหน้าโดยเฉพาะผ่านโทรศัพท์หรือโซเชียลมีเดีย และไม่ควรส่งบัตรเอทีเอ็มหรือโอนเงินให้ใครแม้อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ หากพบพฤติกรรมน่าสงสัย ควรรีบแจ้งตำรวจทันที
พ.ต.อ.ณรงค์ กล่าวว่า ปัจจุบันคนร้ายมักใช้หลายวิธีในการหลอกลวง อาทิ การอ้างว่าทำธุรกิจชั่วคราวเพื่อขอให้เปิดบัญชีรับโอนเงินแทน การแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารหรือเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อหลอกขอข้อมูลส่วนตัว รวมถึงการล่อผลตอบแทน เช่น เสนอเงินหรือของรางวัลให้เหยื่อยอมส่งบัตรเอทีเอ็มหรือข้อมูลบัญชีให้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในการกระทำผิดกฎหมายต่อไป สำหรับแนวทางป้องกัน พ.ต.อ.ณรงค์ แนะนำว่า ประชาชนไม่ควรเปิดบัญชีให้ผู้อื่นใช้ ไม่ว่าจะอ้างเหตุผลใดก็ตาม ห้ามให้ข้อมูลส่วนตัวกับคนแปลกหน้าโดยเฉพาะผ่านโทรศัพท์หรือโซเชียลมีเดีย และไม่ควรส่งบัตรเอทีเอ็มหรือโอนเงินให้ใครแม้อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ หากพบพฤติกรรมน่าสงสัย ควรรีบแจ้งตำรวจทันที
 
 
 
  
  
  
 
ทั้งนี้ “บัญชีม้า” มีโทษทางกฎหมายชัดเจน — ผู้ที่เปิดบัญชีหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีธนาคาร บัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือบัญชีธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์เพื่อรับเงินจากการกระทำความผิด มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ที่จัดหา ซื้อ ขาย หรือให้เช่าบัญชี รวมถึงผู้ที่โฆษณาชักชวนให้ผู้อื่นกระทำการดังกล่าว ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2–5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000–500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หน่วยงานด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ย้ำเตือนว่า “อย่าคิดว่าเปิดบัญชีให้คนอื่นแค่ครั้งเดียวไม่เป็นไร เพราะนั่นอาจทำให้คุณติดคุกแทนคนร้ายโดยไม่รู้ตัว”

 
  
 
 ประดิษฐ์ รอดเกิด ผู้สื่อข่าว TOPNEWS ทั่วไทย จ.กระบี่
ประดิษฐ์ รอดเกิด ผู้สื่อข่าว TOPNEWS ทั่วไทย จ.กระบี่
 
								 
															

