“ณวัฒน์” เข้าแจ้งความ ถูก “บุคคลปริศนา” โอนเงินจำนวนเล็กน้อยก่อกวน โดยไม่มีที่มาชัดเจน ด้านตร.เร่งตรวจสอบเอาผิด

"ณวัฒน์" เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หลังถูกบุคคลไม่ทราบชื่อโอนเงินจำนวนเล็กน้อยเข้าบัญชีของบริษัทหลายครั้ง

“ณวัฒน์” เข้าแจ้งความ ถูก “บุคคลปริศนา” โอนเงินจำนวนเล็กน้อยก่อกวน โดยไม่มีที่มาชัดเจน ด้านตร.เร่งตรวจสอบเอาผิด – Top News รายงาน

ณวัฒน์

 

วันที่ 30 ตุลาคม 2568 เวลา 16.26 น. พ.ต.อ.ปรีดา คงจัด รองผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (รอง ผบก.สอท.1) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่ นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หลังถูกบุคคลไม่ทราบชื่อโอนเงินจำนวนเล็กน้อยเข้าบัญชีของบริษัทหลายครั้ง

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ขณะเดียวกัน นายณวัตน์ ระบุด้วยว่า ตนต้องการคืนเงินจำนวน 50,000 บาท ที่กัน จอมพลังใช้บัญชีส่วนตัวโอนมาให้ พร้อมพูดถึงกัน จอมพลัง ไม่สามารถสั่งการทุกคนได้ จะเป็นฮีโร่ตลอดไปไม่ได้ ซึ่งตนได้ปรึกษาเรื่องนี้กับหลายๆคน บางคนได้เสนอแนะว่าให้โอน ขณะที่กัน จอมพลัง ไลฟ์สดขายสินค้า แต่ตนก็มองว่าดูไม่เหมาะสม บ้างก็บอกว่าให้นำเงินไปมอบให้ตามที่อยู่มูลนิธิ ตนก็มองว่าว่าจะไม่เหมาะอีก เพราะมูลนิธิดังกล่าวมีความกว้างเพียงแค่ 2 เมตรเท่านั้น ซึ่งวิธีที่ตนจะใช้ก็คือ มีการเขียนเช็ก แล้วส่งไปที่อยู่ตามทะเบียนราษฎร์ของกันจอมพลังพร้อมกับลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งไม่ว่ากันจอมพลังจะรับหรือไม่รับเงินก็ถือว่าไม่ใช่ปัญหาของตน เพราะได้คืนเงินไปแล้ว

สุดท้ายนี้สิ่งที่ตนต้องการที่สุดคืออยากให้ทุกคนช่วยกันตรวจสอบมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ เพื่อความโปร่งใส และเป็นที่ประจักษ์ของสังคม ส่วนเรื่องระหว่างตนและการจอมพลังนั้นขอไม่พูดถึงดีกว่าถ้าหากเป็นไปได้ขอไม่ร่วมงานกันในอนาคตเลยก็ยิ่งดี

 

 

 

 

ทางด้านพันตำรวจเอก ปรีดา คงจัด รองผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (รอง ผบก.สอท.1) เปิดเผยว่า การโอนเงินเข้ามาโดยไม่มีที่มาชัดเจนดังกล่าว ทำให้บริษัทฯ ซึ่งเป็นบริษัทมหาชนต้องเผชิญความยุ่งยากในการจัดทำบัญชีรายรับรายจ่าย และเกิดความเดือดร้อนรำคาญในการดำเนินงาน เนื่องจากต้องตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินทุกบาทที่เข้าบัญชีอย่างละเอียด

จากการตรวจสอบเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่าการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย 2 ส่วน คือ
1. ความผิดฐานก่อความเดือดร้อนรำคาญ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 397
2. ความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 11 (2) ในกรณีการส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อื่น

หากตรวจสอบแล้วพบว่าเข้าข่ายความผิดจริง ตำรวจจะออกหมายเรียกผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามขั้นตอน รวมถึงเปรียบเทียบปรับตามกฎหมายต่อไป

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

วัฒนแพทย์ภูเก็ตจับมือมูลนิธิกุศลธรรม เสริมระบบช่วยชีวิตประชาชน
ตำรวจระนองเดินหน้าสร้างภาพลักษณ์เชิงบวก มอบนโยบายทีมโฆษกทุกสถานี
ตามล่าคนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงิน 7-11
หัวหินเชิญชวนร้านค้าเข้าร่วม “คนละครึ่งพลัส” วันสุดท้าย
"คีรี" รับเสียดายโอกาสประเทศ ยันเดินหน้า พัฒนาสนามบินอู่ตะเภา แม้ล่าช้ากว่า 5 ปี หวัง ธ.ค. EEC มีข้อสรุปสิทธิประโยชน์ รัฐบาลเดินหน้าผลักดันโครงการให้เกิดรูปธรรม
"คีรี กาญจนพาสน์" เปิดใจต่อสู้กว่า 4 ปีจนสำเร็จ กทม.ยอมจ่ายหนี้กว่า 3.6 หมื่นล้าน ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้า BTS ตามคำพิพากษาศาลปกครอง

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​