กองทัพภาค “ไทย- กัมพูชา” ดีเดย์ ถอนอาวุธชายแดนเฟสแรกเที่ยงคืน 1 พ.ย.68

กองทัพภาค "ไทย- กัมพูชา" ดีเดย์ ถอนอาวุธชายแดนเฟสแรกเที่ยงคืน 1 พ.ย.68

วันที่ 29 ต.ค.2568- เมื่อเวลา 9.00 น.มีการประชุมฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานชายแดนส่วนภูมิภาค กองทัพภาคที่2 -ภูมิภาคทหารที่4 (RBC) ฝ่ายไทย นำโดย พล.ต.กัมปนาท วาพันสุ เสนาธิการกองทัพภาคที่2 เลขาRBC ฝ่ายไทยและ ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.จ.นิด ณารง รอง เสนาธิการ ภูมิภาคทหารที่ 4 เลขาRBC ฝ่ายกัมพูชา เพื่อหารือแผนปฏิบัติการ (action plan) ปรับกำลังและถอนอาวุธหนัก ตามผลการประชุม GBC สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2ผลการประชุมที่สำคัญ ดังนี้

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบในการกำหนดวัน D-Day ร่วมกันใน 1พ.ย. 2568

กรอบเวลาในการดำเนินการตาม action plan มีดังนี้

– Phase 1 ปรับกำลังประเภท Type A จะเริ่มต้นใน 1พ.ย. 2568เวลา 00.00 น.(วัน D – Day) เป็นอาวุธประเภทจรวดหลายลำกล้อง

– Phase 2ปรับกำลังประเภท Type B จะเริ่มต้นใน 22พ.ย. 2568เวลา 00.00 น.(วัน D – Day + 3สัปดาห์) เป็นอาวุธประเภทปืนใหญ่ทั้งหมด ทั้งลากจูงและอัตราจร ขนาด 155 มม.ลงมา

– Phase 3ปรับกำลังประเภท Type C จะเริ่มต้นใน 13 ธ.ค. 2568 เวลา 00.00 น.(วัน D – Day + 6สัปดาห์) เป็นอาวุธ ประเภท ยานเกราะ รถถัง

ใน 29ต.ค. 2568เวลา 09.00 ผู้แทนฝ่ายเลขาฯ ทั้งสองฝ่ายจะลงนามใน “บันทึกการหารือ” และเตรียมการในการลงนาม “บันทึกการประชุม” ต่อไป ณ จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม – โอร์เสม็ด

สำหรับการลงนาม “บันทึกการประชุม” ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้มีการลงนาม “บันทึกการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค กองทัพภาคที่2 – ภูมิภาคทหารที่4ร่วมกันระหว่าง แม่ทัพภาคที่สอง และ ผู้บัญชาทหารภูมิภาคที่4ใน วันที่31 ต.ค. 2568เวลา 14.00 น.บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม – โอร์เสม็ด

ในวันที่1 พ.ย. 2568 เวลา 00.00 น.จะเริ่มดำเนินการปรับกำลังตามลำดับของประเภทอาวุธที่มีการเสนอ

ในวันที่ 15 พ.ย. 2568จะมีการจัดการประชุมเพื่อทบทวนการปฏิบัติใน Phase 1เพื่อเตรียมการและแก้ไขปัญหาและ หารือในการปรับกำลังใน Phase 2และ 3เพื่อให้ส่วนที่เกี่ยวข้องมีเวลา ในการวางแผนเข้าตรวจสอบและวางแผนในการเคลื่อนย้าย

ต่อมา มีรายงานว่าการประชุมกองเลขา RBC ทภ.2 กับ ภท.4 ณ หน่วยประสานงานชายแดน กัมพูชา– ไทย ต.โอร์เสม็ด กรุงสำโรง จ.อุดรมีชัย ตรงข้ามจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ฝ่ายไทยนำโดย พล.ต.กัมปนาท วาพันสุ เสธ.ทภ.2 และ ฝ่ายเขมร นำโดย พล.จ.นิด ณารง รอง เสธ ภท.4 สรุปสาระสำคัญ คือ

1.ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบในการกำหนดวันปฏิบัติตามแผนถอนอาวุธหนัก/ปรับกำลังร่วมกัน ใน 1 พ.ย.68

2. การดำเนินการตามแผนปฏิบัติ ดังนี้
2.1 ปรับกำลังประเภท Type A จะเริ่มต้นใน 1 พ.ย.68 (อาวุธประเภทจรวดหลายลำกล้อง)
2.2 ปรับกำลังประเภท Type B จะเริ่มต้น ใน 22 พ.ย.68) ( อาวุธประเภท ป.ทั้งหมด ทั้งลากจูงและอัตราจร ขนาด 155 ลงมา)
2.3 ปรับกำลังประเภท Type C จะเริ่มต้น ใน 13 ธ.ค.68 ( อาวุธประเภทยานเกราะ รถถัง )

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เดอะโด่ง พล.ต.ท. ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ ผบช.ภ.2 นรต.42 ได้ฤกษ์เดินหน้า จัดทัพตำรวจภาคตะวันออก
จังหวัดชลบุรี นำพสกนิกรยืนสงบนิ่งแสดงความอาลัย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโครงการ ผู้ว่าฯ พาเข้าวัด
เริ่มวันแรกใช้สิทธิโครงการ "คนละครึ่งพลัส" คึกคัก
ททท.ร่วมมือกับจังหวัดเชียงใหม่และลำพูน เปิดเวทีชวน “เตียวม่วน ชวนแอ่ว ถนนคนเดินล้านนา” 
ตำรวจบางละมุงปล่อยแถวปิดล้อมตรวจค้น จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดีสิ่เสพติด
จับหลวงตาเก๊ เช่าห้องแถวเปิดอาศรม - ขับเก๋งบิณฑบาต เจ้าอาวาสวัดดังเดือด ลั่น ไม่ต้องสึกให้เปลี่ยนผ้าเหลืองออกทันที

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​