"มาดามแป้ง" แจงยกเลิกสัญญา "อิชิอิ" พิจารณารอบคอบ ยึดสัญญาอันชอบธรรม ย้ำคำมั่นจะทำให้ทีมฟุตบอลชาติไทยรุ่งเรือง
ข่าวที่น่าสนใจ
22 ตุลาคม 2568 “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ออกแถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังมีกระแสดราม่าถาโถมอย่างหนัก กรณีประกาศแยกทางกับ มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือทีมชาติไทยชุดใหญ่ แบบสายฟ้าแลบ ท่ามกลางเสียงไม่พอใจจากแฟนบอลจำนวนมาก
มาดามแป้ง ยืนยันว่า การยกเลิกสัญญาครั้งนี้ “เป็นการกระทำที่ถูกต้องตามสิทธิ์ของผู้ว่าจ้างและเป็นไปตามกฎหมาย” โดยผ่านการพิจารณาของฝ่ายเทคนิคอย่างละเอียดและใช้ข้อมูลเชิงสถิติเป็นหลัก ไม่ได้เกิดจากอารมณ์หรือความขัดแย้งส่วนตัว
“ในวงการฟุตบอล การเปลี่ยนหัวหน้าผู้ฝึกสอนเป็นเรื่องปกติทั่วโลก ทุกการตัดสินใจของสมาคมฯ ยึดผลงานและผลประโยชน์ของทีมชาติไทยเป็นสำคัญที่สุด” มาดามแป้งกล่าว

“แป้งในฐานะนายกสมาคมฯ ออกมาแถลงการณ์นี้ เพื่อที่จะปกป้องศักดิ์ศรีของสมาคมฯ ฝ่ายเทคนิค และสภากรรมการ โดยสภากรรมการชุดนี้ตั้งใจเข้ามาทำงาน ซึ่งแป้งต้องขอขอบคุณที่เราเข้ามารวมน้ำใจกันด้วยการไม่รับเงินเดือนแม้แต่คนเดียว”
นายกสมาคมฯ ยังเปิดเผยเบื้องหลังว่า ฝ่ายเทคนิคมีการประเมินผลงานของ อิชิอิ ตั้งแต่จบเกมแพ้ เติร์กเมนิสถาน 1-3 และได้เสนอให้เปลี่ยนโค้ชตั้งแต่ตอนนั้น แต่ด้วยช่วงเวลาที่กระชั้นชิดจึงยังไม่สามารถดำเนินการได้
“สิ่งที่กระทบหัวใจที่สุด คือวันที่ทีมชาติไทยชนะสิงคโปร์ 3-1 เพราะลูกเดียวที่ขาดไป หมายถึงอีก 4 ปีที่เราต้องรอคอยความหวังในการไปฟุตบอลโลก” มาดามแป้งเผย
ในแถลงการณ์ มาดามแป้งยังกล่าวถึงความสำเร็จในยุคที่ผ่านมา ตั้งแต่การคว้าแชมป์อาเซียน 2 สมัยซ้อนในปี 2020 และ 2022 รวมถึงการพยายามต่อยอดพัฒนาทีมทั้งในเชิงเทคนิคและการสร้างดาวรุ่งใหม่เข้าสู่ทีมชาติ
สำหรับการตัดสินใจครั้งนี้ สมาคมฯ ได้แต่งตั้ง “แอนโธนี ฮัตสัน” ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาเทคนิค เข้ามารับหน้าที่รักษาการหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดใหญ่ทันที
“ในวงการฟุตบอล การปลดโค้ชเป็นเรื่องธรรมดา และฟุตบอลระดับทีมชาติ ไม่ใช่ห้องทดลอง เรามีเกมให้เล่นเพียงแค่ 90 นาทีเท่านั้น”
“แพ้ ชนะ เสมอ มีผลต่อความรู้สึกของแฟนบอล และมีผลต่อความสำเร็จของสมาคมฯ ซึ่งมีนายกสมาคมฯ รับผิดชอบอยู่”
มาดามแป้งทิ้งท้าย พร้อมยืนยันจะเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่เพื่อพาฟุตบอลไทยก้าวต่อไป “กราบแฟนบอลไทยทุกคนจากใจ แป้งขอโอกาสอีกครั้ง เพื่อพิสูจน์ว่าฟุตบอลไทยจะต้องไปข้างหน้าให้ได้”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง