“รองปลัดเทศบาลนครปากเกร็ด” แจงปมค่าปรับ พ่อค้าไก่ปิ้ง กระทำผิดตามพ.ร.บ.สาธารณสุข เห็นใจได้รับความเดือดร้อน ชี้มีการตักเตือนหลายครั้ง แต่ร้านเมินเฉย

"รองปลัดเทศบาลนครปากเกร็ด" แจงปมค่าปรับ พ่อค้าไก่ปิ้ง กระทำผิดตามพ.ร.บ.สาธารณสุข เห็นใจได้รับความเดือดร้อน ชี้มีการตักเตือนหลายครั้ง แต่ร้านเมินเฉย

“รองปลัดเทศบาลนครปากเกร็ด” แจงปมค่าปรับ พ่อค้าไก่ปิ้ง กระทำผิดตามพ.ร.บ.สาธารณสุข เห็นใจได้รับความเดือดร้อน ชี้มีการตักเตือนหลายครั้ง แต่ร้านเมินเฉย

 

ข่าวที่น่าสนใจ

22 ต.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีที่ทางเทศบาลนครปากเกร็ด จ.นนทบุรี ส่งหนังสือถึงผู้ประกอบการรายย่อย ในเขตพื้นที่เทศบาลนครปากเกร็ด ให้ไปเสียค่าปรับ ตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 โดยพบว่ามีผู้ประกอบรายย่อยบางรายถูกเรียกค่าปรับตั้งแต่ 90,000 บาท ไปจนถึง 159,000 บาท ซึ่งเป็นมูลค่าที่สูงมากเมื่อเทียบกับรายได้ของผู้ประกอบการแต่ละราย นั้น

 

ช่วงค่ำวานนี้ (21ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สำนักงานเทศบาลนครปากเกร็ด เพื่อสอบถาม นางปริญดา เชาว์อรัญ รองปลัดเทศบาลนครปากเกร็ด รักษาราชการแทนปลัดเทศบาล นครปากเกร็ด กล่าวว่า เมื่อเดือนเมษายนถึงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จังหวัดนนทบุรีได้มีการจัดประชุมเกี่ยวกับผู้ประกอบการรายย่อยในเขตพื้นที่ เมื่อมีการพิจารณาเอกสารครบถ้วน และมีมติให้ทางเทศบาลนครปากเกร็ดดำเนินการตามมติที่ประชุมของคณะกรรมการระดับจังหวัด โดยมีหนังสือตอบกลับมาที่เทศบาลนครปากเกร็ด เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา ลงนามโดยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี

กรณีของนายธวัชชัย เทพสุทิน อายุ 25 ปี พ่อค้าขายหมูปิ้ง ,ไก่ปิ้ง มีความผิด 3 ฐาน คือ การประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต ผิด พ.ร.บ.สาธารณสุข ตามมาตรา 38 และ มาตรา 72 ซึ่งมีค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 37,500 บาท ต่อมาเจ้าพนักงานท้องถิ่นมีหนังสือแจ้งให้หยุดประกอบกิจการแต่ยังคงฝ่าฝืนคำสั่ง ซึ่งต้องถูกปรับตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข มาตรา 45 ประกอบมาตรา 80 ซึ่งมีค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 37,500 บาท รวม 2 ฐาน จะต้องถูกปรับเป็นจำนวนเงิน 75,000 บาท

ต่อมายังดำเนินกิจการอย่างต่อเนื่อง และฝ่าฝืนคำสั่ง ไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข ทำให้ถูกปรับเป็นรายวัน กรณีนี้ทางจังหวัดจึงพิจารณาว่าเหตุที่ฝ่าฝืนดำเนินการโดยที่แจ้งให้หยุดประกอบกิจการก็ไม่ปฏิบัติตามและไม่มาขออนุญาต รวมทั้งยังดำเนินกิจการอย่างต่อเนื่อง ทางจังหวัดจึงพิจารณาให้มีค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 3,000 บาทต่อวัน ก็ถูกปรับในส่วนนี้เพิ่ม 28 วัน เป็นจำนวนเงิน 84,000 บาท ยอดรวมทั้งหมด 159,000 บาท ซึ่งค่าปรับในส่วนนี้ทางเทศบาลนครปากเกร็ดไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง

เทศบาลถือเป็นคนกลางที่จะใกล้ชิดกับประชาชน ทั้งผู้ร้องเรียนและผู้ถูกร้องเรียน ส่วนจังหวัดก็มีหน้าที่พิจารณาฐานความผิดและฐานความรุนแรงว่าส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยหรือไม่ สร้างความเดือดร้อนในวงกว้างหรือในวงแคบ และคณะกรรมการระดับจังหวัดถึงจะมีมติออกมาว่าจะปรับในแต่ละรายเท่าไหร่ การที่ส่งหนังสือให้กับทางผู้ประกอบการ ผู้ถูกร้อง เราจะแจ้งสิทธิ์ว่าสามารถอุทธรณ์ได้หากไม่เห็นด้วย ซึ่งก็จะพิจารณาตามเหตุแห่งความเดือดร้อนที่ประชาชนได้รับ

 

การที่เทศบาลดำเนินการและมีประชาชนที่ถูกปรับและได้รับความเดือดร้อนด้านการเงิน ทางเทศบาลก็ไม่สบายใจ เพราะว่าเงินจำนวนนี้ถือเป็นเงินจำนวนไม่น้อย แต่อยากขอความเห็นใจว่าถ้าหากไม่ทำจะเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพราะในเมื่อมีผู้ร้อง ผู้ได้รับความเดือดร้อน เทศบาลเป็นคนของประชาชน เป็นข้าราชการก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนเองตามระเบียบกฎหมาย ซึ่งระเบียบกฎหมายมีไว้เพื่อให้บ้านเมืองอยู่กันได้อย่างปกติสุข

เบื้องต้นจากข้อมูลที่ทางเทศบาลนครปากเกร็ดได้รับการร้องเรียนเหตุเดือดร้อนรำคาญ โดยเฉลี่ย 1 ปี มีจำนวน 800 ราย ปีงบประมาณที่ผ่านมา มีประมาณ 500 ราย ที่มีเหตุลักษณะนี้ สามารถดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบ และสามารถไกล่เกลี่ยได้ประมาณ 485 ราย โดยมี 15 ราย ที่ยังไม่เข้าใจระเบียบกฎหมายและไม่ให้ความร่วมมือ ซึ่งในปัจจุบันทางเทศบาลนครปากเกร็ดเพิ่งมีการปรับลักษณะนี้ 6 รายแรก ทั้งนี้ยินดีที่จะไกล่เกลี่ยและไม่อยากมีปัญหากับประชาชน

กรณีของนายธวัชชัย เทพสุทิน อายุ 25 ปี พ่อค้าขายหมูปิ้ง ,ไก่ปิ้ง มีความผิด 3 ฐาน คือ การประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต ผิด พ.ร.บ.สาธารณสุข ตามมาตรา 38 และ มาตรา 72 ซึ่งมีค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 37,500 บาท ต่อมาเจ้าพนักงานท้องถิ่นมีหนังสือแจ้งให้หยุดประกอบกิจการแต่ยังคงฝ่าฝืนคำสั่ง ซึ่งต้องถูกปรับตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข มาตรา 45 ประกอบมาตรา 80 ซึ่งมีค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 37,500 บาท รวม 2 ฐาน จะต้องถูกปรับเป็นจำนวนเงิน 75,000 บาท

ต่อมายังดำเนินกิจการอย่างต่อเนื่อง และฝ่าฝืนคำสั่ง ไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข ทำให้ถูกปรับเป็นรายวัน กรณีนี้ทางจังหวัดจึงพิจารณาว่าเหตุที่ฝ่าฝืนดำเนินการโดยที่แจ้งให้หยุดประกอบกิจการก็ไม่ปฏิบัติตามและไม่มาขออนุญาต รวมทั้งยังดำเนินกิจการอย่างต่อเนื่อง ทางจังหวัดจึงพิจารณาให้มีค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 3,000 บาทต่อวัน ก็ถูกปรับในส่วนนี้เพิ่ม 28 วัน เป็นจำนวนเงิน 84,000 บาท ยอดรวมทั้งหมด 159,000 บาท ซึ่งค่าปรับในส่วนนี้ทางเทศบาลนครปากเกร็ดไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง

เทศบาลถือเป็นคนกลางที่จะใกล้ชิดกับประชาชน ทั้งผู้ร้องเรียนและผู้ถูกร้องเรียน ส่วนจังหวัดก็มีหน้าที่พิจารณาฐานความผิดและฐานความรุนแรงว่าส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยหรือไม่ สร้างความเดือดร้อนในวงกว้างหรือในวงแคบ และคณะกรรมการระดับจังหวัดถึงจะมีมติออกมาว่าจะปรับในแต่ละรายเท่าไหร่ การที่ส่งหนังสือให้กับทางผู้ประกอบการ ผู้ถูกร้อง เราจะแจ้งสิทธิ์ว่าสามารถอุทธรณ์ได้หากไม่เห็นด้วย ซึ่งก็จะพิจารณาตามเหตุแห่งความเดือดร้อนที่ประชาชนได้รับ

 

การที่เทศบาลดำเนินการและมีประชาชนที่ถูกปรับและได้รับความเดือดร้อนด้านการเงิน ทางเทศบาลก็ไม่สบายใจ เพราะว่าเงินจำนวนนี้ถือเป็นเงินจำนวนไม่น้อย แต่อยากขอความเห็นใจว่าถ้าหากไม่ทำจะเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพราะในเมื่อมีผู้ร้อง ผู้ได้รับความเดือดร้อน เทศบาลเป็นคนของประชาชน เป็นข้าราชการก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนเองตามระเบียบกฎหมาย ซึ่งระเบียบกฎหมายมีไว้เพื่อให้บ้านเมืองอยู่กันได้อย่างปกติสุข

เบื้องต้นจากข้อมูลที่ทางเทศบาลนครปากเกร็ดได้รับการร้องเรียนเหตุเดือดร้อนรำคาญ โดยเฉลี่ย 1 ปี มีจำนวน 800 ราย ปีงบประมาณที่ผ่านมา มีประมาณ 500 ราย ที่มีเหตุลักษณะนี้ สามารถดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบ และสามารถไกล่เกลี่ยได้ประมาณ 485 ราย โดยมี 15 ราย ที่ยังไม่เข้าใจระเบียบกฎหมายและไม่ให้ความร่วมมือ ซึ่งในปัจจุบันทางเทศบาลนครปากเกร็ดเพิ่งมีการปรับลักษณะนี้ 6 รายแรก ทั้งนี้ยินดีที่จะไกล่เกลี่ยและไม่อยากมีปัญหากับประชาชน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผู้บัญชาการหน่วยทหารพัฒนา ลงพื้นที่ชายแดน จ.จันทบุรี นำร่องสำรวจหลักเขตแดน เตรียมสร้างรั้วชายแดนแห่งแรกในไทย
มทร.ล้านนา ร่วมส่งมอบอุปกรณ์ช่วยรับประทานอาหาร เตียงผู้ป่วยไฟฟ้า
"รองจเรฯตร." แฉปี 67 เจอเขมรสับขาหลอก ชวดจับแก๊งสแกมเมอร์ ยันไม่พบข้อมูลแก็งคอลฯหนีเข้าไทย
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เข้ม! เคาะประตูบ้าน ตรวจลาดตระเวน ป้องกันวางกับดักสัตว์ป่า
‘วรภัค’ แจง 3 เหตุลาออก รมช.คลัง ยันทำงานสุจริต ไม่เกี่ยวข้องแก๊งสแกมเมอร์ พร้อมดำเนินคดีคนหมิ่นใส่ร้ายถึงที่สุด
“แว่นท็อปเจริญ” ร่วมกาชาดไทย ลงโคราช สานต่อ “โครงการแว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพฯ” มอบแว่นฟรี คืนโลกสดใสให้ผู้สูงอายุ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​