10 คนไทย เปิดปากเล่าถูกหลอกไปเปิดบัญชีม้าที่ “กัมพูชา” หนีตาย กลับประเทศ เผยไม่ทำตามถูกเครื่องไฟฟ้าช็อต

10 คนไทย เปิดปากเล่าถูกหลอกไปเปิดบัญชีม้าที่ "กัมพูชา" หนีตาย กลับประเทศ เผยไม่ทำตามถูกเครื่องไฟฟ้าช็อต

วันที่ 22 ตุลาคม 2568 กองร้อยทหารพรานที่ 1202 สามารถควบคุมตัวคนไทยลักลอบเข้าเมืองได้ 10 คน เป็นชาย 6 หญิง 4 โดยควบคุมตัวได้ที่ด่านศุลกากรอรัญประเทศ คนไทยกลุ่มนี้ออกนอกประเทศไปในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน บางคนไปได้แค่ 2-4 วัน บางรายนานกว่า 1 สัปดาห์ แต่ถูกส่งตัวกลับเพราะมีโรคประจำตัว

หนึ่งในผู้ถูกควบคุมตัวเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ถูกหลอกผ่านเฟซบุ๊ก พอกดเข้าในเพจก็มีแอดมินทักมา อ้างว่ามีงานทำและได้เงินดี พร้อมๆกับการทักถามเรื่องบัญชีเงินฝาก พอถามย้ำกับทางแอดมินไปว่าเกี่ยวกับบัญชีม้าหรือไม่ เพราะตนไม่อยากยุ่งเกี่ยว แต่แอดมินก็ยืนยันว่าไม่ใช่บัญชีม้า ตนเลยหลงเชื่อ / จากนั้นมีการนัดหมาย มีรถมารับ เปิดห้องพักให้และพาข้ามแดนโดยไม่รู้ตัว
จนถึงที่พักลักษณะเป็นโกดังหลังคาสีฟ้า มีกำแพงปูนสีเทา พอลงรถก็ถูกตรวจร่างกาย ยึดโทรศัพท์และของใช้ทั้งหมด ซึ่งภายในโกดังมีคนถูกกักขังรวมกันประมาณ 30-40 คน และมีคนเล่าว่า บางช่วงที่พีคๆ อยู่รวมกันถึง 70-80 คนในห้องเดียวกัน หากใครไม่ทำตามคำสั่ง จะถูก เครื่องช็อตไฟฟ้าทำโทษ ซึ่งไม่มีใครหนีออกจากพื้นที่ได้เนื่องจากกำแพงสูงและมีการ์ดคุมถึง 4 คน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ผู้ถูกหลอกให้ข้อมูลด้วย ว่า ยังมีคนไทยอีกจำนวนมากที่ถูกกักอยู่ภายในโกดัง หนึ่งในนั้นเป็นเยาวชนอายุเพียง 17 ปี ที่ป่วยหนักจนมีอาการชัก แต่ไม่มีใครจากฝั่งผู้คุมเข้าไปช่วยเหลือ มีเพียงคนไทยด้วยกันที่พยายามปฐมพยาบาลเท่าที่ทำได้ เหตุที่เยาวชนคนนี้ยังไม่ถูกปล่อยกลับ คาดว่าอาจถูกกักตัวไว้เพื่อสแกนใบหน้า เพราะบัญชีคงเดินอยู่ และคนที่คุมอยู่ที่นั่นเป็นคนไทย ชื่อ หาญ/ ใครที่ไปแบบไม่มีบัญชีเงินฝาก ก็จะให้เปิดผ่านออนไลน์ที่โกดังกักตัว พร้อมให้ข้อมูลว่ามีคนไทยป่วยเป็นโรคเบาหวานเสียชีวิตภายในโกดัง โดยไม่มีหน่วยงานรัฐหรือกฎหมายเข้าถึงพื้นที่ ทุกอย่างเหมือนถูกปิดทับไว้ราวกับไม่เคยเกิดขึ้น เหมือนคนที่หายสาปสูญ

วันที่ถูกส่งกลับ มีรถตู้ขับเข้ามารับถึงในโกดัง ก่อนพาไปส่งยังจุดเปลี่ยนถ่ายอีกแห่ง จากนั้นจะมีคนพาเดินเท้าอ้อมเส้นทางเพื่อไม่ให้จำทิศทางกลับได้ โดยเริ่มเดินตั้งแต่เวลาประมาณ 2 ทุ่มต่อเนื่องจนถึงตี 3 พอถึงจุดหนึ่ง คนที่พามาส่งได้ชี้มือไปข้างหน้าแล้วบอกเพียงว่า เดินตรงไปจะเจอถนนมีรถตู้รออยู่ ก่อนจะหันหลังกลับไปทันที ปล่อยให้ทั้งหมดเดินต่อเองโดยไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทาง

 

 

ซึ่งพวกเขาก็เดินไปเรื่อยๆจนกระทั่งมาเจอกองกำลังทหารไทยที่ตั้งด่านตรวจอยู่ วินาทีนั้นทุกคนดีใจจนร้องไห้เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะไม่ได้กลับบ้านแล้ว และไม่รู้เลยว่า ที่เดินผ่านมาเป็นสนามระเบิด

พวกเขายังย้ำเตือนถึงการชี้ชวนทำงานในสื่อโซเชีลล ว่าไม่มีจริงที่จะได้เงิน ขขบวนการเหล่านี้จะใช้เงินเป็นตัวหลอกล่อ บางคนไม่มีโอกาสหาเงินก้อนใหญ่ ยอมมาด้วยความหวัง แต่กลับถูกหลอก

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เข้ม! เคาะประตูบ้าน ตรวจลาดตระเวน ป้องกันวางกับดักสัตว์ป่า
‘วรภัค’ แจง 3 เหตุลาออก รมช.คลัง ยันทำงานสุจริต ไม่เกี่ยวข้องแก๊งสแกมเมอร์ พร้อมดำเนินคดีคนหมิ่นใส่ร้ายถึงที่สุด
“แว่นท็อปเจริญ” ร่วมกาชาดไทย ลงโคราช สานต่อ “โครงการแว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพฯ” มอบแว่นฟรี คืนโลกสดใสให้ผู้สูงอายุ
เชียงใหม่ ปิดฉากประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี 2568 “TFOPTA” สตูล รับมอบธงเจ้าภาพปี 2569
"สุชาติ"​ เสียใจเหตุช้างป่าทำร้ายประชาชนเสียชีวิต 2 ราย ส่งผู้แทนมอบพวงหรีด​ สั่งการเร่งเยียวยาครอบครัว​ และยกระดับมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ
ประชุมคณะกรรมการกีฬา เตรียมเป็นเจ้าภาพกีฬาเยาวชนและอาวุโสภาค

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​