วันที่ 21 ตุลาคม 2568 นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวภายในประเทศ 5 มาตรการ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งเป็นมาตรการที่จะมาช่วยเติมเต็มให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในช่วงไตรมาสที่ 4 ที่จะตกท้องช้างนิดหน่อย ที่สำคัญอยากเห็นบรรยากาศการท่องเที่ยวกลับมาคึกคัก รวมถึงช่วยต่อยอดตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ
"ปลัดฯคลัง" เผยข่าวดี มติครม.เห็นชอบ 5 มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ สิทธิพิเศษนำลดหย่อนภาษีได้
ข่าวที่น่าสนใจ
ครม. เห็นชอบ 5 มาตรการท่องเที่ยวภายในประเทศ
1. มาตรการภาษีสำหรับบุคคลธรรมดาเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว ให้นำค่าที่พักในโรงแรม ค่าที่พักโฮมสเตย์ไทย หรือค่าที่พักในสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม และค่าบริการของร้านอาหารที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม – 15 ธันวาคม 2568 ในการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ สามารถนำมาหักลดหย่อนค่าใช้จ่ายไม่เกิน 20,000 บาท ตามจำนวนที่จ่ายจริง แบ่งเป็น
- ค่าที่พักหรือค่าบริการของร้านอาหารที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและได้รับใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป ที่อยู่ในรูปแบบกระดาษหรือในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) ไม่เกิน 10,000 บาท
- ค่าที่พักหรือค่าบริการของร้านอาหาร ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) เท่านั้น ได้อีกไม่เกิน 10,000 บาท
โดยค่าใช้จ่ายที่เมืองหลัก ลดหย่อนได้ 1 เท่า และเมืองรองลดหย่อนได้ 1.5 เท่าของจำนวนที่จ่ายจริง จึงเท่ากับว่าลดหย่อนได้สูงสุด 30,000 บาท
2. มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนนิติบุคคลการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ได้จ่ายค่าห้องสัมมนา ค่าห้องพัก ค่าขนส่ง หรือรายจ่ายอื่น ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม – 15 ธันวาคม 2568 โดยจ่ายให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและได้รับใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) เว้นแต่ค่าขนส่งจะจ่ายให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ต้องได้ใบรับที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) สามารถหักรายจ่ายได้ 2 เท่าของรายจ่ายตามที่จ่ายจริงในจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง และ 1.5 เท่าในเมืองหลัก
3. มาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายด้านการฝึกอบรม ประชุม สัมมนาประจำปีงบประมาณ 2569 (Front Load) ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในส่วนของการพัฒนาบุคลากรของหน่วยงานไม่น้อยกว่า 60% ของวงเงินฝึกอบรม ประชุม สัมมนา เริ่มใช้จ่ายตั้งแต่เดือนตุลาคม 2568 – 31 มกราคม 2569 คิดเป็นวงเงิน 13,000 ล้านบาท โดยให้พิจารณาจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรองเป็นลำดับแรก
4. มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโรงแรมที่พักให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการโรงแรม สามารถหักรายจ่ายการต่อเติม เปลี่ยนแปลง ขยายออก หรือทำให้ดีขึ้น 2 เท่า ของรายจ่ายตามที่จ่ายจริง แยกเป็น 2 ส่วนคือ 1. หักรายจ่ายเท่าแรกเป็นค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินตามปกติ 2. ทยอยหักรายจ่ายเท่าที่ 2 เป็นระยะเวลา 20 รอบระยะเวลาบัญชีในจำนวนที่เท่ากันทุกปี ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2568 – 31 มีนาคม 2569
5. ขยายเวลาปรับลดอัตราภาษีตามมูลค่าสำหรับกิจการบันเทิงหรือหย่อนใจ จาก 10% เป็น 5% ออกไปอีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2569 สำหรับกิจการบันเทิงหรือหย่อนใจ อาทิ ไนต์คลับ ดิสโกเธค ผับ บาร์ ค็อกเทลเลาจน์ เป็นต้น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง