“นายกฯ” ชงครม.พรุ่งนี้ ดันปราบสแกมเมอร์วาระแห่งชาติ ลั่นฟันผิดหมดถ้ามีหลักฐานโยงถึงใคร พร้อมตัดสัญญาณเน็ตเชื่อมฝั่งเขมร

"นายกฯ" ชงครม.พรุ่งนี้ ดันปราบสแกมเมอร์วาระแห่งชาติ ลั่นฟันผิดหมดถ้ามีหลักฐานโยงถึงใคร พร้อมตัดสัญญาณเน็ตเชื่อมฝั่งเขมร

“นายกฯ” ชงครม.พรุ่งนี้ ดันปราบสแกมเมอร์วาระแห่งชาติ ลั่นฟันผิดหมดถ้ามีหลักฐานโยงถึงใคร พร้อมตัดสัญญาณเน็ตเชื่อมฝั่งเขมร

 

ข่าวที่น่าสนใจ

20 ตุลาคม 2568 ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 1/2568 โดยมีรายงานว่าก่อนเริ่มการประชุมนายกฯได้กล่าวว่า ขอทุกคนให้ทีมงานนำโทรศัพท์ไปเก็บ โดยได้มีการใส่ซองไปฝากไว้กับเจ้าหน้าที่หน้าห้องทั้งหมด และมีรายงานว่าในการประชุมดังกล่าวอนุญาตให้เข้าได้เฉพาะรัฐมนตรีและคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเท่านั้น ไม่อนุญาตให้คนติดตามและเจ้าหน้าที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าในห้องประชุม

 

 

ต่อมาเวลา 18.00 น. ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น ระหว่างนายอนุทิน เดินมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเป็นช่วงเวลา 18.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ตำรวจประจำทำเนียบรัฐบาลจะเชิญธงชาติลงจากยอดเสา โดยนายกฯได้เชิญชวนสื่อมวลชน ให้ยืนเคารพและร้องเพลงชาติไปพร้อมกัน

 

จากนั้นนายกฯแถลงผลการประชุมว่า เราได้ประชุมร่วมกันเพื่อให้ทุกหน่วยงานได้รับทราบว่าขณะนี้ปัญหาสแกมเมอร์เป็นปัญหาอาชญากรรมระดับโลก รัฐบาลจะต้องถือว่าเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ โดยตนจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 21 ต.ค. เพื่อให้ทุกกระทรวงทุกหน่วยงานได้บูรณาการความร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหานี้ และเราได้รับทราบว่าแต่ละหน่วยงานก็ทำงานกันอย่างเต็มที่ และมีบันทึกออกมาว่าได้จับกุมได้ยึดทรัพย์ยึดเงิน ดำเนินคดีผู้ที่กระทำความผิดจำนวนมาก มูลค่าระดับหมื่นล้านบาท เพียงแต่ขาดการประชาสัมพันธ์ เพราะต่างคนต่างทำงาน ตรงนี้อยากให้ความมั่นใจกับประชาชนว่ารัฐบาลไม่ได้อยู่นิ่งเฉย และมีการสั่งการให้ดำเนินการให้เข้มข้นเพิ่มมากขึ้น

 

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าสแกมเมอร์บางส่วนมาอยู่ที่กรุงเทพฯแล้วข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า เท่าที่ทราบมันอยู่ทั่วไป แต่ฐานหลักยังอยู่อีกฝั่งหนึ่งอยู่ วันนี้ทางเลขฯ กสทช.ยืนยันว่าสัญญาณต่างๆที่ส่งไปฝั่งโน้น ในทางตรงปิดหมดแล้ว ส่วนเขาจะไปอ้อมหรือไปเอาสัญญาณโรมมิ่งที่ไหนมาใช้ตรงนี้ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่เราก็ต้องขอความร่วมมือกับประเทศต้นทางในกรณีนี้ ก็คงต้องแจ้งทางกัมพูชา เพราะถือเป็นหนึ่งในเงื่อนไขในการพูดเรื่องสันติภาพว่าเขาต้องดำเนินการ 1 ใน 4 เงื่อนไข คือการปราบปรามสแกมเมอร์อย่างเป็นรูปธรรม

 

 

เมื่อถามต่อว่ามีกระแสข่าวตั้ง นายวรภัค ธันยาวงษ์ รมช.คลัง เป็นประธานคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน แกะรอยหาความเชื่อมโยงถึงแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ กลุ่มวิชาชีพ หรือเครือข่ายเงินทุนสีเทา นายกฯ กล่าวว่า ยัง ส่วนจะนำเข้าที่ประชุมครม.ในวันที่ 21 ต.ค.นี้หรือไม่นั้น ตอนนี้เรายังจะมีคณะอนุกรรมการประมาณ 2-3 ชุดหรือไม่เกิน 5 ชุด ซึ่งในที่ประชุมมีการเสนอมาหลายชุด ตนก็พยายามให้รวม แต่เจ้าภาพหลักก็จะเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) กระทรวงยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และกระทรวงมหาดไทย ก็จะได้จัดตั้งเป็นคณะอนุกรรมการ โดยแต่ละชุดไปดำเนินการมาและนำมาผนึกกำลังกัน

 

เมื่อถามว่า สรุปว่ามีชื่อนายวรภัคหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่มี ยังไม่มีชื่อใครเลย ให้ไปแต่งตั้ง เดี๋ยวอธิบดีกรมการปกครอง ซึ่งเป็นเลขานุการที่ประชุมชุดนี้ จะไปรวบรวมรายชื่อมา อย่างไรก็ต้องเอามาให้ตน เพราะคณะกรรมการชุดนี้แต่งตั้งโดยนายกฯเป็นผู้พิจารณาชื่อ

 

เมื่อถามย้ำว่า จะมียาแรงหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า อย่างที่เรียนมีการดำเนินการทาง เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)ได้ยืนยันว่าตอนนี้ถ้าจะต้องทำการตัดหรือปิดสัญญาระบบการสนับสนุนพลังงานด้านใด ไม่ต้องขึ้นไปขอแล้ว มีมติครอบคลุมเอาไว้แล้ว โดยหน่วยงานเจ้าสังกัดสามารถดำเนินการหยุดการให้บริการ หรือให้การสนับสนุน หรือหยุดซัพพลายของสิ่งที่จะไปทำให้คนทำผิดกฏหมายได้ทันที อันนี้ถือว่าเป็นยาแรง และที่ประชุมเมื่อสักครู่ได้ตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตไปแล้วไม่ต้องรอแล้ว

เมื่อถามว่า นอกจากตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตแล้วจะมีการตัดสัญญาณไฟฟ้า หรืออะไรด้วยหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ก็ใช่ ถ้าไปทำให้เป็นการสนับสนุนให้เขากระทำความผิด เราก็ตัดได้เลย และไม่ต้องรอว่าเมื่อไหร่จะประชุมสมช. เมื่อถามต่อว่ามีกี่พื้นที่ในการตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ต นายกฯกล่าวว่า ตอนนี้หลักๆฝั่งขวาก่อน

เมื่อถามว่านายกฯมีการดำเนินการอย่างไรกับกระแสข่าวที่มีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง นายกฯกล่าวว่า อย่างเมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนก็นั่งรอว่าเมื่อไหร่รายชื่อจะมา จากต้นตอของข่าว ซึ่งก็กลายเป็นการปฏิเสธ เมื่อปฏิเสธเราก็ต้องถือว่าตรงนั้นเป็นข่าวที่ไม่จริง และทางการของต่างประเทศเอง โดยสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ ประจำประเทศไทย ก็เป็นคนออกมาปฏิเสธ เราก็เฝ้าระวังไว้ แต่อย่างไรก็ตามถ้ามีข้อมูลหรือมีหลักฐาน หรือมีเส้นทางการเงินเรามี ปปง.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ให้เขาคอยติดตามเรื่องนี้อยู่แล้ว

 

“ผมยืนยันว่าผมไม่ดูว่าชื่ออะไรตำแหน่งอะไร ถ้าพฤติกรรมมันเข้าข่ายกับการกระทำความผิดอย่างชัดเจนและถ้ามีหลักฐานของการกระทำความผิดขึ้นมา ไม่ดูชื่อครับ ใครผิดก็ต้องดำเนินการ”นายกฯ กล่าว

เมื่อถามอีกว่าในที่ประชุมมีข้อมูลอะไรที่นายกฯไม่เคยรู้ และทำให้ตกใจบ้างหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า มีคนกระทำความผิดถือสัญชาติไทย แต่ก็ยังถือสัญชาติอื่นอยู่ด้วย จำได้หรือไม่ที่ตนไม่ยอมเซ็นสัญชาติให้ใคร เพราะเขาขณะนั้นยังถืออยู่หลายสัญชาติอย่างนี้เป็นต้น ก็มีอยู่ ซึ่งตนก็ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมการปกครองไปดำเนินการคนถือ 2 สัญชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มาขอสัญชาติไทยแล้วยังถือสัญชาติอื่นอยู่ มันไม่ต้องไปดูพฤติกรรมอื่น ตรงนี้ถือว่าผิดอยู่แล้ว ฉะนั้นเราจะดำเนินการถอนสัญชาติเขา อันนี้แรงหรือยัง เมื่อถามอีกว่าบุคคลดังกล่าวเชื่อมโยงกับสแกมเมอร์หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า เชื่อมโยง และเครือข่ายด้วย

เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านระบุว่ามีข้อมูลของ 7 นักการเมือง จะขอข้อมูลจากฝ่ายค้านหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ถ้ามีข้อมูลเปิดเลย มันจะได้ง่ายไม่ต้องไปคาดเดาว่าเป็นใคร และไปดำเนินคดีใครผิดๆถูกๆ ยิ่งเป็นฝ่ายตรวจสอบ ถ้ามีข้อมูลไม่ต้องรออภิปราย ดำเนินการตรงนี้ได้เลยทันที เปิดเผยส่งรายชื่อนี้มา หรือส่งมาอย่างเป็นทางการก็ได้ รัฐบาลก็ต้องดำเนินการอยู่แล้ว

เมื่อถามถึงกรณีน.ส.สฤณี อาชวานันทกุล ผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน ออกมาเปิดเผยข้อมูลแผนผังว่ามีการเชื่อมโยงกับนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ เพื่อให้มีการตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ได้อ่าน และในที่ประชุมไม่ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องนี้มีการพูดคุยเรื่องกรอบการทำงาน ซึ่งการปฎิบัติผู้ปฏิบัติจะต้องไปดำเนินการ เมื่อถามย้ำว่าแต่มีการเปิดเผยตัวบุคคลสำคัญและมีการเปิดเผยชื่อบริษัทต่างๆ นายกฯ กล่าวว่า ถ้าโยงถึงใครคนนั้นก็โดน

เมื่อถามอีกว่า จะถือเป็นข้อมูลสำคัญในการพิจารณาเรื่องเครือข่ายสแกมเมอร์หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ดูที่พฤติกรรม ถ้าพฤติกรรมผิดกฏหมายไม่ว่าใคร เครือข่ายไหนก็ต้องโดนดำเนินคดี เพราะวันนี้เราบอกแล้วว่าเป็นเรื่องของวาระแห่งชาติ เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประเทศไทย ถ้าเราไม่ดำเนินการอย่างเด็ดขาด และเข้มงวด เวลาเราไปเจรจาไม่ใช่เฉพาะในเรื่องของการเจรจาด้านการทูตเท่านั้น แต่เจรจาเรื่องการลงทุน เจรจาเรื่องความเมืองต่างๆ เรื่องนี้จะทำให้เราเสียเปรียบและถูกกดดัน ถูกตั้งกำแพงเยอะไปหมด ฉะนั้นแล้วต้องดำเนินการเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด

เมื่อถามว่า มีเรื่องเส้นทางการเงินไปเชื่อมกับสถาบันการเงินต้องให้ปปง. และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เข้ามาตรวจสอบหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คณะกรรมการชุดนี้ มีทั้งปปง. คณะกรรมการ ก.ล.ต. และในการประชุมวันนี้เราได้รับการร้องขอจากที่ประชุมว่าขอให้เพิ่มอัยการสูงสุดเข้ามาด้วย ซึ่งถูกต้อง และขอให้เพิ่มอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้ามาด้วย ขอให้เพิ่มรมว.พาณิชย์เข้ามาด้วย หรือปลัดกระทรวงนั้นๆและอีกหลายหน่วยงาน ซึ่งตนก็ได้ให้ทางเลขานุการ ในที่ประชุมได้ดำเนินการยกร่างคำสั่งมา ซึ่งตนก็จะได้ลงนามแต่งตั้ง ฉะนั้นเราจะประชุมตามที่เราจำเป็นต้องประชุม เมื่อถามว่านายกฯเคยโดนสแกมเมอร์หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ตนเคยโดนพวกที่เขาโทรศัพท์มาคุยตนก็พูดคุยกับเขา เสียงหวานดี

 

 

ด้านนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวขยายความถึงการตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ต ว่า ได้มีการตัดสัญญาณที่ส่งไปยังเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา รวมถึงฝั่งประเทศเมียนมา ซึ่งมีการร้องเรียนเรื่องสแกมเมอร์ โดยนายกฯได้สอบถามเลขา สมช. ถึงสาเหตุว่าทำไมถึงตัดล่าช้าในครั้งที่แล้ว โดย สมช.แจ้งว่าต้องรอเข้าที่ประชุม สมช. และมติครั้งนั้นก็มีผลให้ดำเนินการต่อเนื่อง หากมีอีกก็สามารถดำเนินการได้เลย นอกจากนี้ นายกฯ ยังให้ กสทช. เป็นผู้ดำเนินการหลัก และจะต้องไปนำข้อมูลมา ไม่มีการจำหน่ายให้กลุ่มสแกมเมอร์ หรือในพื้นที่เฝ้าระวัง ส่วนการตัดอินเตอร์เน็ตที่เมืองปอยเปต ยืนยันว่าเริ่มตั้งแต่ที่มีการเกิดสถานการณ์ชายแดน ส่วนกลุ่มคนที่เข้าข่ายเกี่ยวพันกลุ่มสแกมเมอร์ ที่ตำรวจและ ปปง.เสนอมา ก็ให้กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ไปพิจารณาเพิกถอนสัญชาติ เป็นข้อสั่งการของนายกฯ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

กรมการท่องเที่ยวจัด Roadshow 4 ภาค ยกระดับท่องเที่ยวสู่มาตรฐานสากล
“สุชาติ ชมกลิ่น” ลงพื้นที่นครฯ มอบนโยบาย ย้ำข้าราชการยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง
วัดพระธรรมกาย–มูลนิธิธรรมกาย มอบอาหารและเครื่องดื่ม สนับสนุนกิจกรรม ตชด.ภาค 1
แน่นกรุงไทย! ผู้สูงอายุแห่สมัคร “คนละครึ่งพลัส” วันแรก คึกคักทั่วประเทศ
กมธ.ที่ดินฯ ลุยตรวจสอบโรงงานคัดแยกขยะ หลังชาวบ้านร้องเดือดร้อนกลิ่นเหม็น–น้ำเสีย
ตะลึง ทุกคนแหงนมองท้องฟ้า กลางพิธีกฐิน พบกลุ่มเมฆก่อตัวคล้ายตัวเลข ที่วัดป่าธารทิพย์ทรงธรรม

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​